ทัศนะ :
เรอัล มาดริด นายด่านชาวคอสตาริก้า เกย์ลอร์ นาบาส, คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ ราฟาแอล วาราน กับ เซร์คิโอ รามอส, แบ็คซ้ายชาวบราซิเลี่ยน มาร์เซโล่ วิเอยร่า, แบ็คขวา ดาเนียล การ์บาฆาล, แดนกลาง เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, อิสโก้ อาลาร์กอน หรือ มาร์โก อาเซนซิโอ, สองศูนย์หน้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ คาริม เบนเซม่า หรือ แกเร็ธ เบล
ลิเวอร์พูล จะขาด โฌแอล มาติป, โจ โกเมซ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่ยังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่เดิม, ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ลอริส คาริอุส, ปราการหลังคู่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กับ เดยัน ลอฟเรน, แบ็คซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, แบ็คขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, สามแนวรุก ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่
ที่สนาม เอ็นเอสซี โอลิมเปียสกี้ สเตเดี้ยม กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เรอัล มาดริด จบอันดับ 3 ลาลีกา 5 นัดหลัง ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 1 ล่าสุดออกไปเสมอ บียาร์เรอัล นัดปิดฤดูกาล ฟาก ลิเวอร์พูล จบอันดับ 4 พรีเมียร์ลีก 5 นัดหลัง ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 ล่าสุดเปิดบ้านถล่ม ไบร์ทตัน ในนัดปิดฤดูกาล กับบิ๊กแมตช์ นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ราชันชุดขาว 2 นัดหลังสุดยังไม่แพ้ใคร ก้าวสู่นัดชิงดำด้วยการโค่น บาเยิร์น ทาง หงส์แดง ฟอร์มดีปิดท้ายในเกมลีก ผ่านเข้ามาชิงรายการนี้จากการชนะ โรม่า และ ลูกทีมคล็อกป์ เข้าชิงครั้งแรกในรอบ 11 ปี แถมยังพักมามากกว่าก็จริง ทว่า ทีมของซิซู ดีกรีแชมป์ยุโรป 12 สมัย หวังสร้างประวัติศาสตร์ผงาดครองเจ้ายุโรป 3 สมัยติดต่อกัน คงแลกกันสนุก ประเมินแล้ว เร้ด แมชีน คงต้องใช้ความกล้าเข้าสู้ แต่เชื่อว่าด้วยความแกร่งแถมเก๋า จะทำให้ทีมดังแห่งแดนกระทิงดุสมปรารถนา ชูโทรฟี่นี้ได้อย่างสง่างาม
ฟันธง : ชุดขาว จัดให้วาว