ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย : ซาอุดีอาระเบีย ยู-23 - ทีมชาติไทย ยู-23

ทีมนักเตะทีมชาติไทยชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ทำผลงานได้ใจแฟนบอล เมื่อไล่ตามตีเสมอ ซาอุดีอาระเบีย ชาติลูกหนังยักษ์ใหญ่ของทวีป ประเดิมสนามด้วย 1 แต้ม และน่าจะเป็นแต้มสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นทุกคนยิ่งมั่นใจมากขึ้น

ก่อนลงสนามเกมนี้ ซาอุฯ ดูเหมือนจะถูกยกให้เหนือกว่าไทยอยู่พอสมควร ด้วยชื่อชั้นของทีมและผลงานที่ผ่านมาในระดับทวีปและระดับโลก

เกมเริ่มขึ้นโดยที่ทั้งสองทีมเริ่มปรับตัวกับสภาพสนามได้หลังจากผ่านไป 10 นาที แต่ที่สำคัญคือ การเล่นของไทยไม่ได้เป็นรอง ซาอุฯ อย่างที่ถูกคาดไว้ แม้ผู้เล่นของทีมเศรษฐีน้ำมัน จะดูมีความมั่นใจกว่าเล็กน้อย และได้เปรียบในเรื่องของรูปร่าง ทว่า 3 แนวรุกของทีมไทย ภิญโญ  อินพินิจ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ และ เจนรบ สำเภาดี ก็มีความเร็วและความคล่องตัวพอที่จะเล่นงานแนวรับของคู่แข่งได้หลายครั้ง

จุดเปลี่ยนสำคัญจังหวะหนึ่งในเกมนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 13 เมื่อทีมชาติไทยเสียจุดโทษ จากจังหวะที่ อดิศร พรหมรักษ์ ไปสกัด โมฮัมเหม็ด อัล ซาไอรี่ ล้มลงและผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ ทว่า มุสตาฟา อัล บาสซาส กลับยิงไปติดเซฟของ สมพร ยศ หรือ ต้น นายทวารจาก บีอีซี เทโรฯ

สมพร ยศ ยังงัดฟอร์มสุดยอดมาช่วยป้องกันประตูให้ ทีมชาติไทยอีกหลายครั้ง ในขณะที่ไทยไม่ใช่ว่าจะปล่อยให้ ซาอุฯ บุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว สามารถเปิดเกมแลกหมัดได้เป็นระยะ ๆ และเล่นไปเล่นมา ลูกทีมของโค้ชซิโก้ สามารถสร้างโอกาสเข้าทำได้มากกว่าด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 71 ทีมชาติไทยก็มาพลาดปล่อยให้ ฟาฮัด อัล มูวาลัด เปิดบอลเข้าไปหน้าเขตโทษ โมฮัมเหม็ด อัล ไซอารี่ ยืนโขกโล่ง ๆ  บอลพุ่งผ่านมือ สมพร ยศ เข้าไปเป็นประตู 1-0 ของซาอุฯ

ทีมชาติไทย หลังจากโดนยิงไปแล้วยังถือว่ามีเวลามากพอที่จะพยายามยิงประตูคืนให้ได้ และถึงนาทีที่ 84 จากจังหวะพลาดเหลือเชื่อของสองกองหลังซาอุฯ ทำให้บอลหลุดไปเข้าทางของ ภิญโญ อินพินิจ ที่เข้าถึงบอลก่อน และแทงบอลสวนตัวนายประตูคู่แข่งเข้าไปเป็นประตู 1-1 และเกมจบลงด้วยสกอร์นี้


ข้อมูล

- ทีมฟุตบอลชายซาอุดีอาระเบีย เคยผ่านเข้าไปเล่นในมหกรรมโอลิมปิกรอบสุดท้ายมาแล้ว 2 ครั้ง คือในปี 1984 และ 1996

- นั่นเป็นผลงานที่เท่ากับทีมชาติไทย ที่เคยไปเล่นใน โอลิมปิก เกมส์ รอบสุดท้ายมาแล้ว 2 ครั้งเช่นกันในปี 1956 และ 1968

- แต่สำหรับทัวร์นาเมนท์ เอเอฟซี ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ ในครั้งที่แล้วเมื่อปี 2014 ซึ่งจัดแข่งขันขึ้นเป็นครั้งแรก ซาอุดีอาระเบีย มีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์เก่า ขณะที่ทีมชาติไทยได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย

- ในรอบคัดเลือก ซาอุฯ ผ่านเข้ามาในฐานะแชมป์กลุ่มซี แต่จะว่าไปแล้วไม่ได้ทำผลงานได้เหนือชั้นกว่าคู่แข่งมากนัก ทำได้แค่เฉือนชนะ ปาเลสไตน์ 1-0 และเสมอกับอัฟกานิสถาน 0-0 อย่างไรก็ตามในเกมสำคัญกับอิหร่าน ทีมเศรษฐีน้ำมันก็งัดฟอร์มเก็บชัยชนะได้

- ส่วนทีมชาติไทย ในรอบคัดเลือกเป็นรองแชมป์กลุ่มจี เอาชนะกัมพูชาและฟิลิปปินส์ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเสมอเกาหลีเหนือ

ทีมชาติไทย ในตอนนี้สภาพนักเตะทุกคนอยู่ในความฟิตเกินกว่า 100% ทั้งหมด ซึ่งผู้เล่นที่ต้องพักไปก่อนหน้านี้อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือว่า อดิศร พรหมรักษ์ ก็พร้อมเต็มที่ในการลงสนามคืนนี้ ส่วนทาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ก็ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากลงเล่นแล้ว ส่วนรายอื่น ๆ อย่าง ทริสตอง โด, ปกรณ์ เปรมภักดิ์ หรือว่า เจนรบ สำเภาดี พร้อมลงสนามทั้งหมด