เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ฟุตบอลซูซูกิคัพ 2014 ไทย พบ มาเลเซีย 18.55 น. ซิโก้ มั่นใจ เด็กไม่กดดันกองเชียร์เจ้าภาพ ลั่น นำถ้วยแชมป์กลับไทยให้ได้ ขณะที่กุนซือมาเลฯ หวังปาฏิหาริย์ดับฝันคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ของทีมชาติไทย
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของขุนพลนักเตะทีมชาติไทยที่จะลงแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ที่ประเทศมาเลเซีย ในเวลา 18.55 น. โดยนัดแรก ไทยเอาชนะทีมเสือเหลืองที่บุกมาเยือนได้ 2-0 ประตู ถือว่ามีโอกาสคว้าแชมป์ได้สูงมาก
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย นำลูกทีมมาลงฝึกซ้อม ที่สนามบูกิต จาลิล รังเหย้าความจุ 9 หมื่นกว่าคน ของเจ้าถิ่น ซึ่งหลังการฝึกซ้อมเสร็จ โค้ชซิโก้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เจ้าภาพให้เวลาฝึกซ้อมเพียง 45 นาที ถือว่าน้อยไปนิด แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะทีมมาเลเซียก็ได้เวลาฝึกซ้อมเท่ากัน ส่วนปัญหาที่พบคือ พื้นสนามมีทรายมาก ใบหญ้า ก็เป็นใบยาว ไม่ได้ใหญ่ อาจไม่เป็นปัญหาสำหรับการต่อบอลที่เป็นจุดแข็งของทีมไทย แต่คงส่งผลต่อการวิ่งบ้างเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเจ้าบ้านเองก็คงไม่ได้เปรียบ
ส่วนเรื่องการแผนการเล่นในค่ำวันนี้ โค้ชซิโก้ ยังขออุบไว้เป็นความลับ และไม่กังวลกับเสียงเชียร์ของกองเชียร์เจ้าภาพนับแสนคนว่าจะกดดันนักเตะหรือไม่ เพราะเชื่อว่านักเตะไทยคงชอบมากกว่า ดีกว่าเตะแล้วไม่มีคนดู มั่นใจว่านักเตะจะไม่ตื่นเต้นหรือตื่นตระหนก ตนบอกให้ทุกคนเรียนรู้และรับมือกับการเล่นภายใต้ความกดดันให้ได้
สำหรับวันนี้ทีมชาติไทยจะต้องเปลี่ยนมาใส่เสื้อสีแดง ซึ่ง ซิโก้ ก็บอกว่า ส่วนตัวไม่ได้สนใจเรื่องสีเสื้อมาก ไม่ว่าใส่สีไหนก็ชนะได้เหมือนกัน ขณะที่สีแดงก็หมายถึงชาติ ดังนั้นทุกคนจะเล่นเพื่อชาติ และจะนำถ้วยแชมป์กลับประเทศไทยให้ได้
ด้าน นายเกษม จริยวัฒนวงศ์ ผู้จัดการทีม เผยถึงแผนการเล่นวันนี้ว่า คงต้องทำเกมรุกสู้ ไม่ให้มาเลเซียบุกฝั่งเดียว เพราะมาเลเซียก็ต้องกลัวเสียประตู มั่นใจว่า งานไม่น่ายาก
ขณะที่ ดอลลาร์ ซาเลห์ กุนซือทัพเสือเหลือง ระบุว่า แม้จะถูกไทยทำประตูนำไป 2-0 แล้ว แต่ทีมเรายังมีเวลาอีก 90 นาทีให้ลุ้น ก็หวังว่าเสียงเชียร์จะสร้างความกดดันให้ไทยได้ และเชื่อว่าจะมีปาฏิหาริย์เหมือนกับที่เคยทำได้กับเวียดนาม
ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน เกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996) สำหรับปีนี้เป็นการแข่งขันครั้งที่ 10 โดยจากสถิติที่ผ่านมา ขุนพล "ช้างศึก" เคยคว้าแชมป์ได้ 3 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996), พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) และ พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) หากครั้งนี้ทีมไทยชนะมาเลเซียได้ จะคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์อีกครั้งในรอบ 12 ปี และจะเป็นการคว้าแชมป์เทียบเท่าสิงคโปร์ที่เคยได้ถ้วยใบนี้ไปแล้ว 4 ครั้ง
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 นัดที่สอง วันที่ 20 ธันวาคมนี้ ช่อง 7 สี ถ่ายทอดสดให้ชมตั้งแต่เวลา 18.30 น.
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ไอเอ็นเอ็น, มติชนออนไลน์
