ฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่ แพท สเตเดี้ยม กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมากกว่าสกอร์ 7-0 ในเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - ชัยนาท เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด - ราชนาวี
เกมระหว่าง การท่าเรือ กับ ชลบุรี เอฟซี เมื่อค่ำวันอาทิตย์ ที่ 20 กันยายน จบลงด้วยชัยชนะของ "สิงห์เจ้าท่า" 3-1 ซึ่งเรื่องที่กลายประเด็นร้อนในหมู่แฟนบอลไทย ก็คือจังหวะการยิงจุดโทษเป็นประตูที่ 3 ของทีมเจ้าบ้าน
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้มาจากจังหวะที่ ชลทิตย์ จันทคาม แบ็กขวาของ ชลบุรี เข้าสกัดบอลจาก วุฒิชัย ทาทอ ของ ท่าเรือ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้าไปหน้าปากประตู บอลกระดอนออกหลังและนักเตะทั้งสองทีมก็เตรียมจะเล่นลูกเตะมุม
แต่ทันใดนั้นผู้ตัดสิน สุเมธ สายแวว กลับเป่าให้เป็นลูกจุดโทษของฝั่งท่าเรือ ชนิดที่ไม่เพียงแต่นักเตะและกองเชียร์ในสนามเท่านั้นที่ประหลาดใจ แต่คนดูที่นั่งชมอยู่ทางบ้านก็คงงงกันทั้งประเทศ เนื่องจากภาพที่ออกมาคือลูกนี้ ชลทิตย์ เข้าสกัดโดนบอลอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ตัดสินชี้ชัดไปแล้ว เกมก็ต้องดำเนินต่อไป ทว่าช่วงเวลาเกือบ 5 นาทีก่อนที่จะยิงจุดโทษผู้เล่นของทั้งสองฝ่ายดูเหมือนจะพยายามทำความเข้าใจกัน และคุยกันว่าเพื่อแสดงสปิริตจำทำอย่างไรกับลูกนี้ดี แม้แต่ผู้บรรยายเกมทางโทรทัศน์ยังเหมือนจะเดาว่า ฝั่งท่าเรืออาจจะไม่ทำประตูจากจังหวะนี้
ล่าสุด สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายประตูจอมเก๋าทีมชาติไทย เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่าน โกล ประเทศไทย ว่า "ก็เห็นอยู่ว่านักเตะสองทีมและก็สตาฟฟ์ทั้งสองทีมถ้าดูบอลจังหวะนั้น ผมเชื่อเหลือเกินว่าเขาคิดว่าไม่ฟาวล์ร้อยเปอร์เซ็นต์"
"ส่วนนักเตะหน้าที่ของนักเตะก็คือทำหน้าที่ในสนามให้เต็มที่ เขา (โรเชลา) ไม่ผิด เขาไม่ผิดเลย ผมไม่โกรธ ผมไม่มีสิทธิ์โกรธเขาด้วย ผมเป็นคนบอกเขาให้ยิงมาเลย เพราะช่วงจังหวะจุดโทษ เหมือนเขาจะรู้ว่ามันไม่โปร่งใส แล้วมีบางคนมองไปที่ม้านั่งสำรองว่า สรุปจะให้ทำยังไงครับ จะให้ยิงออกหรือยิงจริงๆ มันนานมากมันเสียเวลา"
“ผมเดินไปบอกเลยว่า เนี่ยนักบอลอาชีพอะ อยู่ในสนามเล่นไปเลย ยิงไปเลยจะได้เล่นต่อ แต่ตอนแรกจะเป็นโรเชลา แต่เปลี่ยนมาเป็น จิรวัฒน์ (จิรวัฒน์ มัครมย์) จิรวัฒน์บอกเดี๋ยวผมเตะออกพี่จบเลยจะได้เล่นกัน ผมบอกว่าแล้วแต่เอ็ง..เอ็งทำอะไรก็ได้ตอนนี้ทำเลย เล่นไปเลย"
ผู้ตัดสิน สุเมธ สายแวว เป่าจุดโทษลูกนี้ไม่ใช่แค่นักเตะชลบุรีที่อึ้งแต่ผู้เล่นและกองเชียร์ของท่าเรือก็ยังงงเหมือนกัน
แต่ในที่สุด ทาง โรเชลา ของ ท่าเรือ ก็เลือกที่จะแปบอลเข้าประตูไป ขณะที่ สินทวีชัย ตัดสินใจยืนอยู่กับที่ไม่ได้พยายามป้องกันลูกโทษลูกนี้
"พอหลังจากนั้นมันก็รอนานอีกอะ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งหรือบังคับบัญชา คนตัดสินใจเองอะไร บอกโอเคเริ่มเล่น"
"แต่ก่อนการยิงจุดโทษสุดท้ายอะ เขา (โรเชลา) พูดกับผมเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าผมเข้าใจภาษาผิด หรืออะไรบางอย่างผิด ก็คือความผิดผมที่ไม่พุ่ง แต่คำพูดมันน่าจะหมายความว่าผมยิงออก ผมก็คิดว่าผมไม่ควรมีปฏิกิริยากับลูกนี้ ผมคิดว่าผมจะไม่ทำอะไร เพราะคิดว่าเขาควรจะเตะออก ถ้าเขาจะเตะเข้าก็เป็นสิทธิ์ของเขา ก็เหมือนวัดใจกันว่าใจใครใหญ่กว่ากัน ผมบอกเขาด้วยว่าจุดโทษนี้ถึงคุณยิงเข้าหรือไม่เข้าคุณก็ชนะในเกมนี้แน่" นายทวารวัย 33 ปีกล่าว
เนื้อหาจาก โกล ประเทศไทย
ภาพ / คลิป จาก chonburifootballclub.com