เวลานี้ถือเป็นช่วงขาลงของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ว่าได้เพราะ เชลซี ภายใต้การคุมทีมของเขาทำผลงานได้อย่างย่ำแย่หมดฟอร์มแชมป์เก่า โดยผ่านมา 10 เกมไปแพ้ 5 เกมรั้งอันดับที่ 15 ของตารางอยู่เหนือโซนตกชั้นเพียงแค่ 5 คะแนน
และแน่นอนผลงานอันย่ำแย่ก็ต้องมาพร้อมกับพฤติกรรมสุดแสบของ กุนซือจอมอหังการผู้นี้ โดยในเกมล่าสุดที่ เชลซี บุกไปแพ้ เวสต์แฮม 1-2 ซึ่งเกมนี้ เนมานย่า มาติช ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม แถม กุนซือชาวโปรตุเกส เองก็มาโดนตะเพิ่ดขึ้นไปอยู่อัฒจันทร์เพราะไปมีปากเสียงกับผู้ตัดสิน
ต่อไปนี้คือการจัดอันดับจาก toptenslides.com ที่ได้รวบรวม 5 วีรกรรมแห่งความเสื่อมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ตลอดการเป็นกุนซือมาให้ชมกัน
5) ราฟา เบนิเตซ ศึกนี้อีกนาน...
.jpg)
โชเซ่ มูรินโญ่ สนุกกับการชอบเยาะเย้ยเพื่อนร่วมอาชีพ และเป้าหมายหลักของเขาก็คือ ราฟา เบนิเตซ โดยล่าสุด มูรินโญ่ ได้ปรามาส ราฟา ว่าคอยตามมาคุมทีมที่เขาเคยสร้างความสำเร็จเอาไว้มากมายอย่าง อินเตอร์ มิลาน, เชลซี และล่าสุดก็เป็น เรอัล มาดริด
ส่วนทางด้าน ราฟา เบนิเตซ ก็เคยพูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับ มูรินโญ่ เมื่อปี 2007 อย่างแสบ ๆ คัน ๆ ว่า "ผม และโชเซ่ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอดจนกระทั่ง ลิเวอร์พูล เริ่มทำผลงานได้ดี หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน" ดูท่าคู่นี้คงจะเป็นคู่ปรับกันไปอีกนาน
4) ทำกับคุณหมอคนสวยได้ลงคอ
.jpg)
ศึก พรีเมียร์ลีก นัดแรกของซีซั่นที่ เชลซี เสมอ สวอนซี 2-2 หลังจบเกมเกิดประเด็นที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ออกมาโจมตี อีวา การ์เนยโร่ แพทย์หญิงประจำทีมที่วิ่งลงไปปฐมพยาบาล เอแด็ง อาซาร์ ในจังหวะที่ทีมกำลังถูกโต้กลับเร็วว่า ไม่เข้าใจเกมลูกหนัง และทำหน้าที่ได้ไม่ดี จึงทำให้ทีมเสียเปรียบเหลือผู้เล่นในสนามเพียง 9 คน เพราะ ธิโบต์ กูร์กตัวส์ โดนใบแดงไล่ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว
หลังจากที่สัมภาษณ์ของนายใหญ่ "สิงห์บลูส์" ถูกเผยแพร่ออกไป ก็เกิดแรงสนับสนุน และให้กำลังใจ อีวา การ์เนยโร่ และทีมแพทย์อย่างมากมาย แถมยังทำให้ชื่อของเธอเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้างในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์คุณหมอคนสวยก็ต้องเก็บเสื้อผ้าย้ายออกจาถิ่น "สแตมฟอร์ด บริดจ์" ไปแบบปริศนา
3) ย่องไปจิ้มตา ตีโต้ บีลาโนบา ในปี 2011
ย้อนกลับไปในเกม ''เอล กลาซิโก้'' ในศึก สแปนิช ซูเปอร์ คัพ เกมที่สองที่ "คัมป์ นู" เกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายเมื่อถึงช่วงก่อนหมดเวลาเพียง 2 นาที บาร์เซโลน่า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขึ้นนำ เรอัล มาดริด ของ มูรินโญ่ 3-2
ในระหว่างที่นักเตะทั้งสองฝั่งกำลังนัวกันไปมาใกล้ ๆ ม้านั่งสำรอง มูรินโญ่ ก็อดใจไม่ไหวต้องขอแจมเดินเข้าไปเอานิ้วจิ้มตาของ ตีโต้ บีลาโนบา ผู้ร่วงลับซึ่งขณะนั้นรับหน้าที่เป็นมือขวาให้กับ เป๊ป โดยเหตุการณ์นี้ทำให้มีนักเตะถูกไล่ออกถึงสามราย ส่วนกุนซือชาวโปรตุเกสก็ถูกลงโทษแบนห้ามคุมทีมข้างสนามก่อนที่จะอุทธรณ์ได้สำเร็จ
2) กล่าวหา อันเดอร์ส ฟริสค์ เป่าช่วยให้ บาร์เซโลน่า ชนะ เชลซี ในปี 2005
.jpg)
เดือนมีนาคมปี 2005 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ เชลซี พ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า 1-2 โดยในเกมนี้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวยิงคนสำคัญของทีม ถูกไล่ออกจากสนามเนื่องจากปะทะกับ บิคตอร์ บัลเดส เกิดประเด็นร้อนขึ้นเมื่อ มูรินโญ่ ออกมากล่าวหลังจบเกมว่าเขาเห็น แฟรงค์ ไรจ์การ์ด กุนซือ "บาร์ซ่า" ในขณะนั้นแอบพบกับ อันเดอร์ส ฟริสค์ ผู้ตัดสินอย่างลับ ๆ ช่วงพักครึ่ง
มูรินโญ่ ก็ออกมาตราหน้าว่านี่คือ "ศัตรูของโลกฟุตบอล" ก่อนที่ โฟลเกอร์ ร็อธ หัวหน้าผู้ตัดสินของ ยูฟ่า จะสั่งแบน ฟริสค์ ออกจากการตัดสินเกมระดับยุโรปแถม ฟริสก์ เองก็ต้องถูกแฟนบอลขู่ฆ่ายกครอบครัวจนต้องแขวนนกหวีดไปก่อนกำหนด
1) การดูถูกปมด้อยวัยเด็กของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
.jpg)
สมัยที่แจ้งเกิดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยถูก โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชาติของเขาวิพากษ์วิจารณ์ช่วงเวลาในวัยเด็กของ "ซีอาร์7" และกุนซือจอมแสบก็เคยเรียกเขาว่าเป็นพวก "เด็กไร้การศึกษา" ซึ่ง กัปตันทีมชาติโปรตุเกส เคยมีวัยเด็กที่ยากลำบาก และเขาได้ทำงานอย่างหนักจนกระทั่งกลายมาเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังโลกในปัจจุบันนี้
คนที่เคยถูก มูรินโญ่ กระแทกแดกดันก็ได้กลายมาเป็นนักเตะที่มีค่าตัวที่แพงที่สุดในโลกหลังจากย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ในปี 2009 แถมยังต้องมาร่วมงานกันในปี 2010-2013 อีกต่างหาก
เนื้อหาจาก toptenslides.com
ภาพจาก AFP
