จากกรณีที่ร็อคเกอร์ชื่อดังอย่างเสก โลโซ ได้เล็งจับมือกับ "เสี่ยบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารของทีมเพื่อนตำรวจ แต่ก็ต้องมาถูกควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีในความผิดยักยอกทรัพย์ ซึ่งกรณีนี้ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้ว เสก โลโซ จะยังเข้าไปบริหารทีมเพื่อนตำรวจอยู่หรือไม่
ล่าสุดวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2559 สำนักข่าวสปริงนิวส์ ได้สอบถามไปยัง เสก โลโซ โดยร็อคเกอร์ดัง ระบุว่า จากกระแสข่าวที่ออกมานั้น ตนคงไม่ได้ร่วมงานด้วยแล้ว แต่ยังสนใจที่จะบริหารฟุตบอลทีมอื่น เนื่องจากตนคิดจะทำเครื่องดื่มชูกำลังและเบียร์ต่าง ๆ ด้วย เพราะจะมีทั้งมวยและฟุตบอล ส่วนจะทำทีมไหนนั้นยังไม่รู้ ไม่ทำปีนี้ก็ต้องปีต่อ ๆ ไป
สำหรับงบประมาณในการทำทีมนั้น เสก โลโซ เผยว่า ยังบอกไม่ได้ แต่หากมีคนมาขายตนในราคาไม่แพงมากก็จะซื้อ แต่ถ้าแพงมากก็ไม่มีตังค์ ส่วนภาพที่ออกมาที่มีทั้งเสื้อ ชื่อทีม ที่มีการเปลี่ยนเป็นโลโซโปลิศนั้น ตอนที่ตกลงคุยกันก่อนหน้านั้นว่าจะทำแน่นอน ซึ่งหากเสี่ยบิ๊กไม่ถูกจับ ตนก็จะทำด้วย แต่เขาดันมาถูกจับเสียก่อน ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่เกี่ยวกับตน
เสก โลโซ เผยอีกว่า ตนตั้งใจจะร่วมบริหารทีมในพรีเมียร์ลีก แต่ในอนาคตนั้นตนจะทำทุกลีก หากใครคุยกันรู้เรื่องก็สามารถไปทำได้ ไปนั่งเป็นประธานได้ แต่ตอนนี้เรื่องสโมสรเพื่อนตำรวจก็ต้องยกเลิกกันไป ตอนนี้ยังไม่ได้เล็งทีมไหนไว้ เพราะไม่อยากให้คนติดว่าตนไปคุยเล่น ๆ ที่ผ่านมาก็มีทีมสระบุรีก็ติดต่อมา แต่ตนก็ไม่ได้จะไปซื้อ ก็ให้เขามาคุยกันว่ามีข้อเสนออย่างไรบ้าง ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
เสก โลโซ กล่าวด้วยว่า ตนตั้งใจจะเป็นประธานสโมสรเลย ไม่มีการซื้อหุ้นใคร ซึ่งตนเป็นเจ้าของบริษัทของตัวเองอยู่แล้ว ส่วนทีมฟุตบอลก็คงไปเป็นประธานเลยสักทีมหนึ่งในอนาคต แต่ตนไม่คิดจะแข่งกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพราะตนกับนายเนวินรู้จักกันดี
ส่วนเรื่องการปรึกษากับนายเนวินนั้น เสก โลโซ ระบุว่า ตนยังไม่ได้คุยอะไร คือทีมของนายเนวินดูดีงดงามมาก ส่วนของเราก็ทำเล็ก ๆ เพราะตนต้องเอาเงินทุนไปทำหลายอย่าง แต่ยืนยันว่าลุยแน่นอน สร้างสนามใหญ่โตแน่นอน เพราะตัวเองชอบฟุตบอลอยู่แล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา, springnews.co.th
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
springnews.co.th
