อาร์แซน เวนเกอร์ ยกตัวอย่าง ซูโม่ ญี่ปุ่น เมื่อชนะต้องให้เกียรติผู้แพ้

อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่อาร์เซน่อล ได้ออกมาชี้ว่า ในเกมการแข่งขันกีฬามันต้องมีการให้เกียรติกันบ้างไม่ใช่เมื่อชนะแล้วนึกจะฉลองชัยชนะอย่างสุดเหวี่ยงโดยไม่เห็นหัวผู้แพ้เลยก็ไม่ได้ พร้อมกับยกตัวอย่างกีฬาซูโม่ว่าเป็นกีฬาที่แทบจะดูไม่ออกเลยว่าใครชนะเมื่อการแข่งขันจบลง เพราะผู้ชนะแทบจะไม่แสดงอาการดีใจสักนิด จากรายงานของ telegraph.co.uk เมื่อ 13 ธันวาคม 2560

หลังจบเกมการแข่งขันแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันไปแล้วว่าได้มีเหตุการณ์ตะลุมบอนกันเกิดขึ้นระหว่างนักเตะทั้งสองทีมของเมืองแมนเชสเตอร์อย่าง แมนซิตี้ และ แมนยู ซึ่งเรื่องราวก็มาจากการฉลองชัยชนะกันแบบสุดเหวี่ยงของผู้เล่นทีมเรือใบสีฟ้า และทางมูรินโญ่ได้ออกไปเตือนว่าควรให้เกียรติกันบ้าง ซึ่งสุดท้ายก็จบลงด้วยการอัดกันของนักเตะทั้งสองทีม แน่นอนว่ากุนซือมือเก๋าอย่างเวนเกอร์มองว่าเรื่องนี้มันอยู่ที่จิตสำนึก และการให้เกียรติกันของลูกผู้ชาย

อาร์แซน เวนเกอร์ กล่าวว่า "แน่นอนครับว่าเรื่องบางเรื่องมันสามารถเกิดขึ้นได้กับเกมดาร์บี้ใหญ่ ๆ และทุกเรื่องราวมันเกิดขึ้นเพราะเราสร้างมันขึ้นมาเองนั่นแหละ เราไม่ต้องสงสัยเลยในสิ่งที่มันเกิดขึ้นแบบเลยเถิด เพราะมันคือความเข้มข้นของเกมการแข่งขัน แต่เราก็อยากให้มันเดือดแค่ในสนามแข่งขันเท่านั้น"

"เหตุการณ์แบบนี้มันก็เคยเกิดขึ้นกับเรา และเกิดขึ้นกับพวกเขาเช่นกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ เมื่อทุกคนทุ่มเทกันมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้วในสนาม แต่พอมันถึงเวลาจริง ๆ แล้วเทพบุตรมันไม่มีจริงหรอก ไม่มีใครที่จะทนยอมรับกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้"

ซูโม่ กีฬาที่ เวนเกอร์ ชื่นชมว่าเป็นแบบอย่างของการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างคู่แข่ง

"เอาจริง ๆ มันคือสัจธรรมนะ เมื่อคุณแพ้ในเกมใหญ่ ๆ มันยากมากที่จะทนไหวเมื่อเห็นอีกฝ่ายฉลองชัยชนะกันอย่างสุดเหวี่ยง มันยากจะทำใจจริง ๆ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นผมก็ไม่รู้นะว่ามันคืออะไร และมีอะไรบ้าง แต่ถ้ามองกันตามความเป็นจริงมันก็คล้าย ๆ กับว่าดูถูกกันนิด ๆ นั่นแหละ"
 

"เมื่อตอนที่ผมอยู่ญี่ปุ่นนะ ผมชอบมากเลยที่ได้ดูการแข่งขันซูโม่ เพราะอะไรนะเหรอ ? เพราะว่าเมื่อแข่งเสร็จเราแทบไม่รู้เลยนะว่าใครชนะ เพราะว่าฝ่ายชนะแทบจะไม่แสดงอาการดีใจออกมาเลยเหรอ และนั่นคือการแสดงความเคารพการให้เกียรติซึ่งกันและกันไง มันคือสิ่งที่ฝังรากลึกอยู่ที่นั่น"

"แต่ถ้าถามผมว่าเราจะสามารถเอามาใช้กับเราได้ไหม ผมบอกเลยว่าคงไม่ได้เพราะนั่นไม่ใช่วัฒนธรรมของเราไงล่ะ"

ทั้งนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ เองก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว เมื่อครั้งที่พาอาร์เซน่อลบุกไปพ่ายแมนยูยังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใคร 49 นัดเอาไว้ที่นั่น ก่อนที่สุดท้ายแล้วจะเกิดเหตุการณ์พิซซ่าเกตอันลือลั่น

ภาพข่าว : AFP

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อาร์แซน เวนเกอร์ ยกตัวอย่าง ซูโม่ ญี่ปุ่น เมื่อชนะต้องให้เกียรติผู้แพ้ โพสต์เมื่อ 13 ธันวาคม 2560 เวลา 10:46:11 9,321 อ่าน
TOP