โชเซ่ มูรินโญ่ ชี้ว่าที่เขาไม่ได้แสดงท่าทางดีใจออกมาหลังจากที่ โรเมลู ลูกากู ยิงประตูให้กับแมนยูได้ เป็นเพราะว่าตัวนักเตะเองยังไม่ดีใจเลย แล้วทำไมเขาต้องดีใจ แล้วอีกอย่างมันก็เป็นแค่ประตูแรกในนาที 20 กว่า ๆ ซึ่งยังเหลือเวลาที่ต้องทำอะไรอีกเยอะ จากรายงานของ mirror.co.uk เมื่อ 18 ธันวาคม 2560
หลังจากที่ แมนยู เอาชนะ เวสต์บรอม ไปได้ 2-1 ก็มีกระแสออกมาว่า ทำไม โรเมลู ลูกากู ยิงแล้วไม่แสดงอาการดีใจ เช่นเดียวกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ไม่แสดงอาการดีใจเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ทาง น้ามู ก็ได้ออกมาชี้ว่าเขาไม่รู้จะดีใจทำไมในเมื่อนักเตะเองก็ไม่ได้ดีใจอะไร แถมยังเป็นประตูในนาทีที่ 20 กว่า ๆ ซึ่งมันยังเหลือเวลาอีกเยอะมาก ดังนั้นเรื่องดีใจไม่เห็นจำเป็น
โชเซ่ มูรินโญ่ กล่าวว่า "แน่นอนว่าผมไม่แสดงอาการดีใจในลูกแรกที่ รอม ยิงประตูได้ ก็เพราะเขาเองยิงได้ยังไม่ดีใจเลยแล้วผมจะดีใจทำไม แล้วนั่นมันลูกยิงในนาที 20 กว่า ๆ เองนะ เรายังเหลือเวลาต้องทำงานกันอีกตั้งเป็นชั่วโมง อีกอย่างผมเองก็ไม่ได้ดีใจเวลาได้ประตูมานานแล้วนะ"
.jpg)
"ผมลองมองตัวเองย้อนไปเมื่อ 15 ปีก่อน ผมนี่ออกการเยอะมากเว่อเลยนะเวลาที่ทีมของผมทำประตูได้ แต่ว่าพอมาถึงจุดหนึ่งแล้วนั้น เมื่อคุณสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ มันก็ไม่มีอะไรหรอกเพราะว่าคุณมีประสบการณ์แล้ว เมื่อคุณได้ประตูคุณต้องไม่คลั่งเว่อมากมายนัก และเมื่อคุณเสียประตูหรือว่าแพ้คุณต้องไม่เศร้า คุณต้องมีบาลานซ์ให้ตัวเอง"
"แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเป็นนัดชิงชนะเลิศหรือว่าเกมไหน ๆ ที่เราต้องการประตูมากจริง ๆ และเราทำมันได้ในนาทีสุดท้ายคุณจะได้เห็นผมวิ่งเฮแบบสุด ๆ แน่นอน ทีนี้ย้อนกลับมาเรื่อง รอม ผมสามารถบอกคุณได้นะถึงเหตุผลที่เขาไม่แสดงอาการดีใจ คุณลืมไปหรือเปล่าว่าเขาเคยเล่นที่นี่ และสโมสรแห่งนี้ได้ให้ประสบการณ์กับเขามากมาย และเขาน่าจะรู้สึกว่าที่นี่ก็เหมือนบ้านเขา มันไม่จำเป็นที่เขาจะต้องดีใจมากมายจนแฟน ๆ มองว่าเขาไม่ให้เกียรติทีมเก่าเลย"
ทั้งนี้ น้ามู ยังบอกอีกด้วยว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องคลิปวิดีโอแสดงอาการดีใจของแมนซิตี้เหนือสเปอร์สเลยสักนิด ที่เหมือนจะมีการล้อเลียนเรื่องการจอดรถบัส โดยกุนซือโปรตุกีสมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
ภาพข่าว : AFP
