สำหรับแฟนบอลบ้านเราไม่ว่าจะเป็นคอบอลนอกหรือคอบอลไทย ถึงวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ แห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนน่าจะให้ความสนใจและภูมิใจกับ เลสเตอร์ ในฐานะที่เป็นสโมสรที่ขับเคลื่อนโดยคนไทย โดยเจ้าของคือกลุ่ม คิง เพาเวอร์ และสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จในการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองได้มาแล้ว
ปฏิเสธไม่ได้ว่า "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากที่สุดเมื่อครั้งคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2015-16 เป็นการคว้าแชมป์ชนิดที่เหนือความคาดหมายของคนทั้งโลก
แต่ความสำเร็จที่ถือเป็นปรากฏการณ์ของวงการฟุตบอลในตอนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ คิง เพาเวอร์ สร้างขึ้นมาได้ในชั่วข้ามคืน ทว่ามันเป็นผลมาจากการทำงานมาเป็นเวลาหลายปีด้วยความมุ่งมั่นภายใต้การนำของประธานสโมสร วิชัย ศรีวัฒนประภา และด้วยความเชื่อของกลุ่ม คิง พาวเวอร์ เชื่อมั่นที่จะพิสูจน์ความสามารถ และเชื่อมั่นใจพลังของคนไทย
.jpg)
คิง เพาเวอร์ ได้เข้ามาบริหารงานสโมสร เลสเตอร์ ในปี 2010 ซึ่งตอนนั้นทีมยังเล่นอยู่ในลีก แชมเปี้ยนชิพ ซึ่ง "เสี่ยต๊อบ" อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้พูดถึงจุดเริ่มต้นในครั้งนั้นว่าทุกอย่างไม่มีอะไรง่าย
"ตั้งแต่เราเริ่มวันแรกก็มีแรงต่อต้านเหมือนกัน ซึ่งเขาไม่ทราบว่าคนไทยทำอะไรได้บ้าง ? พอเราทำจนถึงขึ้นชั้น พรีเมียร์ลีก จาก แชมเปี้ยนชิพ คนที่เป็นต่างชาติทั้งหมดก็เริ่มสนใจ และเข้าใจว่าคนไทยมีความสามารถด้านไหนบ้าง"
ปี 2014 เลสเตอร์ กลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก และในปีถัดมา ฤดูกาล 2015-16 สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรก กลายเป็นสโมสรที่ 6 ที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก
"ทำจนได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ผมว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลกว่าทีมเล็ก ๆ อย่าง เลสเตอร์ เป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ เพราะฉะนั้นคนที่ไม่มีความสามารถหรือกำลังท้อแท้ ก็ตั้งใจทำอะไรจริงจังก็น่าจะประสบความสำเร็จได้"
.jpg)
จากความสำเร็จของ เลสเตอร์ นำมาสู่ "King power Thai power" กับแนวคิดที่จะใช้พลังความสามารถของคนไทย กลับมาสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
เสี่ยต๊อบ เล่าถึงโครงการ King power Thai power ว่ามีเป้าหมายทั้งหมด 4 ด้าน เริ่มจากด้านแรกคือด้านกีฬา ที่จะนำเอาศักยภาพจาก เลสเตอร์ มาสร้างความสำเร็จในวงการฟุตบอลไทยตั้งแต่ระดับพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นโครงการบริจาคลูกฟุตบอล 1 ล้านลูก หรือการสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมถึง 100 สนาม โดยมีเป้าหมายให้คนไทยทั่วประเทศได้มีโอกาสเล่นฟุตบอล
หนึ่งในโครงการที่ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างยิ่งก็คือ FOX HUNT โครงการเฟ้นหานักฟุตบอลระดับเยาวชนจากทั่วประเทศ แล้วส่งเสริมพัฒนาด้วยการส่งไปซ้อมกับสโมสร เลสเตอร์ ที่อังกฤษ ภายใต้การดูแลจากโค้ชและทีมงานผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ
โครงการ FOX HUNT สร้างนักฟุตบอลที่สามารถกลับมาค้าแข้งในระดับไทยลีกได้ถึง 12 คน และยังมีอีก 4 คน ที่ได้โอกาสไปเล่นให้กับสโมสร โอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยียม
นอกจากด้านกีฬาแล้ว จุดมุ่งหมายของโครงการ King power Thai power ยังมีเรื่องของดนตรี ที่กลุ่ม คิง เพาเวอร์ ใช้โรงละครอักษราเป็นเวทีที่เปิดพื้นที่ให้คนไทยได้มีโอกาสแสดงความสามารถทั้งในด้านดนตรี และศิลปะการแสดงต่าง ๆ
ส่วนจุดมุ่งหมายทางด้าน Community หรือการช่วยเหลือสังคม คิง เพาเวอร์ มี ศูนย์การค้าหรือร้านค้าปลอดภาษี ที่สนับสนุนสินค้าชุมชนจากท้องถิ่นต่าง ๆ ให้ไปถึงผู้บริโภคหรือลูกค้าซึ่งเป็นชาวต่างชาติ นอกจากนี้ คิง เพาเวอร์ ยังมีโครงการเพื่อสาธารณะในส่วนของการช่วยเหลือภัยพิบัติหรือ DISASTER RELIEF ที่จะช่วยเยียวยาผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ต่าง ๆ
สุดท้าย มูลนิธิคิง เพาเวอร์ องค์กรที่จะดำเนินงานเพื่อส่งเสริมทางด้านสุขภาพและการศึกษา เพื่อผู้ประสบภัยและผู้ด้อยโอกาสในประเทศไทย
"ผมว่าคำว่า THAI POWER มันชัดเจน พลังของคนไทย ถ้าเราเอาพลังของคนไทยมารวมกัน ช่วยกันทำสิ่งที่ดีเพื่อสังคม ช่วยกันพัฒนาประเทศ ผมว่าสิ่งที่ดี ๆ และสิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย" นั่นคือความเชื่อมั่นที่ เสี่ยต๊อบ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา กล่าวปิดท้าย
ภาพ AFP, lcfcthai.com
