
ภาพประกอบจาก http://www.englandfootballblog.com
สุดยอดเมกะโปรเจ็คต์ของ แมนฯ ซิตี้ ถูกเปิดเผยโดย ปาทริค วิเอร่า อดีตกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันรั้งตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายพัฒนาฟุตบอลของสโมสร ซึ่งให้รายละเอียดว่า "ซิตี้ ฟุตบอล อคาเดมี่" จะถูกเนรมิตขึ้นในพื้นที่กว่า 80 เอเคอร์ ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม โดยจะเริ่มดำเนินการสร้างในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ภายใต้เงินงบประมาณถึง 100 ล้านปอนด์ หรือกว่า 5,000 ล้านบาท มีกำหนดแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า
สำหรับความล้ำสมัยสุดๆ ของสนามซ้อมแห่งใหม่ของ แมนฯ ซิตี้ ก็คือ การออกแบบให้พื้นสนามสามารถปรับสภาพตามสนามของทีมคู่แข่งที่ "เรือใบสีฟ้า" จะเดินทางไปลงเล่นในเกมถัดไป นั่นเท่ากับว่าลูกทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ จะสามารถลงสนามเตรียมความพร้อมได้บนพื้นหญ้าทุกแบบ
สำหรับรายละเอียดคร่าวๆ ของโครงการสนามซ้อมแห่งใหม่ซี่งจะกินพื้นที่ถึง 5 เท่าของสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม คือ
- มีสนามซึ่งสามารถจุผู้ชมได้ถึง 7,000 คน สำหรับเกมของทีมเยาวชนหรือทีมสำรอง
- สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานถึง 16 สนาม รวมถึงสนามฟุตบอลในร่ม 1 สนาม
- ศูนย์ฝึกอบรมรองรับผู้เล่นถึง 400 คน และห้องอบรมที่มีความจุสูงสุด 200 ที่นั่ง
- ห้องพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับผู้เล่นทีมชุดใหญ่และผู้เล่นทีมเยาวชน
- อาคารรวมสำหรับผู้เล่นทีมชุดใหญ่ ที่พร้อมด้วยศูนย์ฟื้นฟูสำหรับผู้เล่นที่อยู่ระหว่างรักษาอาการบาดเจ็บ
- สกายวอล์คเชื่อต่อโดยตรงถึง เอติฮัด สเตเดี้ยม
สำหรับโปรเจ็คต์ศูนย์ซ้อมสุดอลังการนี้ เริ่มแผนงานมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยผ่านการศึกษาวิจัยข้อมูลของสปอร์ตคอมเพล็กซ์ชั้นนำจาก 30 แห่งทั่วโลก โดย วิเอร่า เปิดเผยว่า "สิ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้แผนงานนี้น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือ ก่อนที่จะมีการออกแบบอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ พวกเขาได้ศึกษาข้อมูลทั้งจากวงการฟุตบอล, บาสเกตบอลและ เอ็นเอฟแอล ด้วย"
"ผมเชื่อว่านี่คือโปรเจ็คต์ที่ดีที่สุดในทุกแวดวงกีฬา เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อรวมรวมสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากแต่ละชนิดกีฬา มารวมกันไว้ที่นี่ มันแสดงให้เห็นแผนการระยะยาวที่เราตั้งใจไว้ และผมตื่นเต้นมากๆ เพราะตั้งแต่ได้เห็นในรูป ผมก็แทบจะรอไม่ไหวที่จะให้มันเริ่มขึ้นเร็วๆ"
ทั้งนี้ทีม "เรือใบสีฟ้า" ได้บริจาคที่ดิน 5.5 เอเคอร์ ให้กับสภาเมืองแมนเชสเตอร์ สำหรับการสร้างวิทยาลัยและสถาบันวิจัยกีฬา รวมถึงบริจาคเงินอีก 3 ล้านปอนด์ (150 ล้านบาท) เพื่อสร้างสระว่ายน้ำที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้บริการได้ด้วย