เรอัล มาดริด 2-3 บาร์เซโลน่า : มันสะใจสมราคา เอล กลาซีโก้

เกม เอล กลาซีโก้ รอบล่าสุด ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย และเป็นฝั่ง บาร์เซโลน่า ที่สุขสมหวังจากการบุกไปคว่ำ เรอัล มาดริด ได้ถึง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว 3-2 

เกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2560 ในมุมมองของแฟนบอลทั่วไปคงจะได้รับความอิ่มเอมกันแบบครบถ้วน ยกเว้นก็น่าจะแค่แฟนบอลของ มาดริด หรืออาจจะรวมไปถึงผู้ตัดสิน อเลฆานโดร เอร์นานเดซ ด้วยอีกคน เพราะเกมนี้เจองานหนักชนิดที่ต้องปวดหัวตึ้บไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

แน่นอนว่าตามยี่ห้อ เอล กลาซีโก้ ความดราม่าต่าง ๆ ต้องมา ซึ่งเกมนี้เราได้เห็นทุกอย่างเกือบครบทุกรสชาติ ทั้งการเปิดเกมสู้กันแบบใส่เต็มสูบ สถานการณ์ที่พลิกไปมาตลอด การยิงประตูสวย ๆ ก็มี ใบแดงของ เซร์คิโอ รามอส ก็มา และแน่นอนว่าไฮไลต์ของค่ำคืนนี้ก็ต้องยกให้ความสุดยอดของ ลิโอเนล เมสซี่ อ้อถ้าจะบอกว่าอะไรที่หายไปก็อาจจะเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่พยายามยังไงก็ไม่มีสกอร์

เอล กลาซีโก้ เรอัล มาดริด บาร์เซโลน่า

ใบแดงของ รามอส

หลังผ่านไป 78 นาทีของการแข่งขัน เซร์คิโอ รามอส ก็โดนใบแดงไล่ออกจากการเสียบสกัดสองเท้าใส่ ลิโอเนล เมสซี่ ในจังหวะที่หลายคนมองว่าชอตนี้ไม่จำเป็นเลย เพราะ เมสซี่ ยังไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่จะสร้างอันตรายร้ายแรงอะไรให้กับ เรอัล มาดริด 

กาเซมิโร่ รอดตัวอีกแล้ว

ถ้าเป็นหนังหรือละคร กองกลางชาวบราซิเลียนถือว่ามีบทบาทสำคัญไม่น้อยใน เอล กลาซีโก้ รอบนี้ เพราะเป็นคนยิงให้ เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 1-0 แต่ประเด็นสำคัญคือ กาเซมิโร่ ได้รับมอบหมายให้ตามประกบติด เมสซี่ แล้วก็พลาดท่ารับใบเหลืองตั้งแต่นาที 12

ความเจ๋งของ กาเซมิโร่ ยิ่งกว่ายิงประตูได้ก็คือเขาสามารถเล่นอยู่ในสนามได้ถึง 70 นาที ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออก เพราะก่อนหน้านั้นเจ้าตัวไปเล่นแรงใส่ เมสซี่ อีกอย่างน้อย 2 ดอก แต่กลับรอดจากใบเหลืองที่ 2 ได้ ซึ่งคล้ายกับเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนหน้านี้ที่ เรอัล มาดริด เจอกับ บาเยิร์น

เอล กลาซีโก้ เรอัล มาดริด บาร์เซโลน่า

มาร์เซโล่ สับศอก เมสซี่ เลือดกลบปาก

ภาพที่เกือบกลายเป็นภาพความโหดร้ายในเกมนี้ก็คือตอนนี้ เมสซี่ ล้มฟุบลงไปนิ่งอยู่กับพื้นและมีเลือดกลบปาก จากการโดนศอกของ มาร์เซโล่ กระแทกหน้าเต็ม ๆ โชคดีที่เจ้าตัวไม่ได้เจ็บอะไรมาก แถมยังคาบผ้าเพื่อห้ามเลือดพาบอลขโยกเข้าไปยิงประตูตีเสมอ 1-1 ได้อีกต่างหาก

เอล กลาซีโก้ เรอัล มาดริด บาร์เซโลน่า

โรนัลโด้ โดน อูมติตี้ ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ

นี่คืออีกเหตุการณ์หนึ่งที่ส่งผลให้โฉมหน้าของเกมเปลี่ยนไป เพราะเป็นจังหวะที่เกิดขึ้นหลังเกมเริ่มไปแค่ 2 นาที ซามูเอล อูมติตี้ เข้าปะทะและอัด คริสเตียโน่ โรนัลโด ล้มลงในกรอบเขตโทษ ซึ่งจากภาพช้าก็จะเห็นว่า เจ็ทโด้ โดนสอยร่วงชัดเจน แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้เป็นการฟาวล์

แกเร็ธ เบล เจ็บที่เดิมอีก

อุตส่าห์หายเจ็บกลับมาทันลงสนามในเกมสำคัญนัดนี้ แต่ แกเร็ธ เบล ก็อยู่ในสนามได้ไม่จบครึ่งแรก และต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ทำอะไรมากนัก

ดาวเตะทีมชาติเวลส์ มีอาการเจ็บตรงน่องที่เดิม และนี่คือสิ่งที่ เรอัล มาดริด น่าจะต้องกังวลกันต่อ

ประตูที่ 500 ของ ลิโอเนล เมสซี่

บทสรุปของเกมนี้ คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากความสุดยอดของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่แสดงพลังแฝงออกมาได้ถูกที่ถูกเวลาจริง ๆ

เมสซี่ ยิงประตูตีเสมอ 1-1 ให้ บาร์เซโลน่า จะการเก็บบอลตรงกรอบเขตโทษแล้วพาบอลแหวกแนวรับเข้าไปส่งบอลตุงตาข่ายแบบนิ่ม ๆ ซึ่งนี่คือจุดที่ทำให้ บาร์ซ่า กลับสู่เกมได้

แต่ที่สุดของความเก่งกาจก็คือ การจัดการส่องประตู 3-2 เป็นประตูชัยให้ บาร์ซ่า ในขณะที่เกมกำลังจะหมดเวลาในอีกไม่กี่วินาที และที่สำคัญ นี่คือประตูที่ 500 ที่ เมสซี่ ยิงให้ทีมในการลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการ เรียกว่าไม่มีอะไรจะเหมาะเจาะไปยิ่งกว่านี้อีกแล้ว

เอล กลาซีโก้ เรอัล มาดริด บาร์เซโลน่า

ภาพ AFP

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรอัล มาดริด 2-3 บาร์เซโลน่า : มันสะใจสมราคา เอล กลาซีโก้ อัปเดตล่าสุด 24 เมษายน 2560 เวลา 16:21:09 6,986 อ่าน
TOP