พรีเมียร์ลีก 2017-18 - ปีนี้ดุเดือดกว่าทุกครั้งแน่นอน

หลังจากเกม เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ระหว่าง อาร์เซน่อล แชมป์ เอฟเอ คัพ และ เชลซี แชมป์ พรีเมียร์ลีก ผ่านไป นั่นหมายถึงศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

นี่คือปีที่ 129 นับตั้งแต่ฟุตบอลลีกอังกฤษถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1888 และนับเป็นฤดูกาลที่ 26 นับตั้งแต่การแข่งขันเปลี่ยนมาเป็น พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 1992-93

ตลอด 25 ฤดูกาลที่ผ่านมา มีเพียง 6 ทีมที่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ครองถ้วยมากที่สุดถึง 13 สมัย ส่วน เชลซี คว้าแชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้ว นับเป็นครั้งที่ 5 และในปีนี้พลพรรค เชลซี จะสามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้หรือไม่ ? หรือเราจะได้เห็นทีมหน้าใหม่ผงาดขึ้นมาเป็นแชมป์

แชมป์เก่า เชลซี

หลังจากผลงานสุดยอดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ที่ อันโตนิโอ คอนเต้ นำทีมเป็นแชมป์ด้วยการเก็บชัยชนะได้ถึง 30 จาก 38 เกม มาปีนี้ การรักษาแชมป์คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ เชลซี แน่

เชลซี มีปัญหาในการเตรียมทีมสำหรับฤดูกาลใหม่ พลาดการได้ตัวกองหน้าที่เป็นเป้าหมายอันดับ 1 อย่าง โรเมลู ลูกากู แม้จะได้ อัลบาโร่ โมราต้า มาแทน ส่วนแดนกลางมี ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ มาเสริม แต่นั่นก็อาจจะไม่สามารถทดแทน เนมานย่า มาติช ที่ย้ายออกไป แมนยู ได้

โดยรวมแล้ว การเสริมทีมของ เชลซี ในช่วงซัมเมอร์นี้ถูกมองว่าทำได้ไม่ดีพอ และเรื่องนี้ก็เป็นปัญหาที่เกิดมาจากการเริ่มไม่ลงรอยกันระหว่าง คอนเต้ กับ ฝ่ายบริหารของทีม ไม่นับเรื่องคาราคาซังของ ดีเอโก้ คอสต้า ที่ยังจบไม่ลง


ผู้ท้าชิง

พรีเมียร์ลีก 2017-18 น่าจะเป็นอีก 1 ฤูดูกาลที่การแข่งขันจะเข้มข้นเร้าใจน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีทีมที่มีศักยภาพถึงขั้นลุ้นแชมป์สู้กันมีไม่ต่ำกว่า 4-5 ทีมด้วยกัน :


แมนฯ ยูไนเต็ด

ถือว่าน่าผิดหวังเมื่อซีซั่นก่อนหากนับเฉพาะผลงานในลีก แต่ปีนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ดูจะกลับมาแบบพร้อมกว่าเดิม แมนยู ได้ ลูกากู ดาวยิงในฝันมาผนึกกำลังร่วมกับ ปอล ป็อกบา และ มูรินโญ่ ดูเหมือนปรับจูนทีมได้ดีขึ้นเมื่อดูจากผลงานช่วงปรีซีซั่น และที่สำคัญสถิติบอกว่า มูรินโญ่ จะคว้าแชมป์ในการคุมทีมปีที่ 2


แมนฯ ซิตี้

แมนฯ ซิตี้ เป็นอีกทีมหนึ่งที่ฤดูกาลที่แล้วถือว่าล้มเหลว เพราะโค้ชระดับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับไม่สามารถนำทีมทีมแชมป์ติดมือเลย และนั่นทำให้นี่จะเป็นปีที่กดดันอย่างยิ่งสำหรับ เป๊ป

ทีม "เรือใบสีฟ้า" ทุ่มเงินเสริมทัพครั้งใหญ่เหมือนทุกปี และได้ผู้เล่นตัวดัง ๆ เข้ามาเสริมเพียบ โดยเฉพาะในแนวรับ ทั้งผู้รักษาประตู และกองหลังที่จ่ายเงินไปรวมกันไม่ต่ำกว่า 140 ล้านปอนด์ กลายเป็นแนวรับที่แพงที่สุดในโลก


สเปอร์ส

สเปอร์ส คือทีมที่น่ากลัวไม่แพ้ใคร จากฤดูกาลที่แล้ว พวกเขาสามารถยืนหยัดสู้กับ เชลซี ได้ดีที่สุด และในฤูดูกาลนี้ แม้จะไม่ได้ใครมาเสริมทีมเลย แต่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็สามารถเก็บพวกดาวรุ่งตัวหลักไว้ได้เกือบทั้งหมดยกเว้นก็แค่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร และหากรักษาฟอร์มได้ต่อเนื่องจากปีก่อน รับรองทีมอื่นเหนื่อยแน่

ลิเวอร์พูล

เข้าสู่ฤดูกาลที่ 3 ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ ลิเวอร์พูล และเป็นฤดูกาลที่ 2 ที่จะได้คุมทีมแบบเต็ม ๆ ซึ่งก็ใกล้ครบกำหนดเวลา 3 ปีที่เจ้าตัวเคยบอกไว้กับแฟนบอล "หงส์แดง" เมื่อตอนมาถึงครั้งแรกว่าต้องใช้เวลาสำหรับการสร้างทีมสู่ความสำเร็จ

แฟน ลิเวอร์พูล ยังคงเชื่อมั่นและรอคอยจะได้เห็นมนต์ขลังของ คล็อปป์ ที่เคยทำได้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และปีนี้แม้การเสริมทีมจะดูเงียบ ๆ ไปหน่อย แต่ถ้าเกิดสามารถปรับแก้ข้อบกพร่องที่เคยมี จูนเครื่องลงตัวได้ ใครจะไปรู้ว่า ลิเวอร์พูล จะร้อนแรงขนาดไหน


อาร์เซน่อล

แม้แฟน อาร์เซน่อล จะตั้งความหวังทุกปีจนเลิกหวังไปแล้ว แต่ใครจะกล้าตัดพลพรรค เดอะ กันเนอร์ส จากการลุ้นแชมป์ 

ปีที่แล้ว แม้จะถือว่าผลงานของ อาร์แซน เวนเกอร์ กับ อาร์เซน่อล ตกลงเพราะหลุดท็อป 4 อดเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ปีนี้มีตัวใหม่มาเพิ่ม แถมสองตัวเก่ง เมซุต โอซิล กับ อเล็กซิส ซานเชซ ก็ยังอยู่ด้วย กับการชนะ เชลซี ใน คอมมิวนิตี้ ชิลด์ นั่นแสดงให้เห็นว่า อาร์เซน่อล ก็ยังสู้ได้ทุกทีม เหลือแค่ความสม่ำเสมอและความเด็ดขาดเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ


เอฟเวอร์ตัน

ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน คือม้ามืดหมายเลข 1 ที่จะมาสร้างเซอร์ไพรส์ในฤดูกาลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย จริงอยู่ที่การคว้าแชมป์อาจจะเป็นเรื่องที่ยังไกลเกินไป แต่ด้วยศักยภาพและการทำทีมในสไตล์ของ โรนัลด์ คูมัน เอฟเวอร์ตัน น่าจะสร้างปัญหาให้ทุกทีมได้เลย

ภาพจาก AFP

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พรีเมียร์ลีก 2017-18 - ปีนี้ดุเดือดกว่าทุกครั้งแน่นอน โพสต์เมื่อ 9 สิงหาคม 2560 เวลา 17:02:59 18,058 อ่าน
TOP