ช่วงส่งท้ายปีนี้ แฟนแมนยู ทั้งหลายคงพากันชื่นฉ่ำหัวใจกับผลงานของทีมรัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ล่าสุดเปิดบ้านเฉือนชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ พุ่งขึ้นรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงได้แล้ว
แม้จะเริ่มต้นเดือนธันวาคมได้ไม่ค่อยสวยนักด้วยการร่วงตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ผลบอลใน พรีเมียร์ลีก ของ แมนยู นับได้ว่าร้อนแรงจากการลงเล่นไป 6 นัด เก็บได้ถึง 14 แต้ม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งชัยชนะที่พาทีมขยับขึ้นไปจ่อหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล เมื่อคืนนี้ มาจากประตูชัยของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 93 ซึ่งการคว้าชัยแบบนี้เคยเป็นแบบฉบับของ แมนยู ในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนถูกเรียกว่า "เฟอร์กี้ ไทม์"
เกมนัดนี้ เซอร์ อเล็กซ์ ได้เข้ามานั่งชมอยู่ในสนามด้วย ซึ่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีม แมนยู กล่าวว่า "มันคือเป้าหมายหนึ่งที่เราตั้งไว้ในระหว่างที่คุยกันตั้งแต่เมื่อต้นซีซั่น เพราะปีก่อนเราเก็บแต้มจากการยิงในช่วงท้ายเกมไม่ได้มากนัก เรามีวิถีของสโมสรในเรื่องนี้ แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ (ในช่วงสถานการณ์ปกติ) เรามีกองเชียร์เต็มสนามคอยช่วยให้มันเกิดขึ้น แต่เราก็ทำได้ไม่บ่อยนัก ตอนนี้เราเก็บคะแนนได้จากการยิงในช่วงท้ายเกมได้บ่อยขึ้น ซึ่งมันเป็นทั้งเรื่องของสภาพร่างกายและจิตใจด้วย"
"เรามีโชคเข้าข้างสำหรับลูกยิงแฉลบในเกมนี้ แต่มันก็สะท้อนว่าคุณสู้ไม่ถอย และนั่นคือเรื่องที่ทีมได้พัฒนาขึ้นมาเรื่องทัศนคติที่จะไม่ยอมแพ้ เราทำได้หลายครั้งแล้วในซีซั่นนี้และมันเริ่มจะกลายเป็นความคุ้นชินซึ่งเยี่ยมมาก"
การขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงแบบนี้ โดยตามหลัง ลิเวอร์พูล แค่ 2 คะแนน ย่อมทำให้มีการพูดถึงโอกาสที่จะได้ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่ โซลชาร์ ยังขอสงวนท่าทียังไม่ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้
"เอาละ เราคงจะคิดถึงเกมนัดต่อไปมากกว่า เราอาจจะดูน่าเบื่อมากที่ตอบแบบนี้แต่เราคงมองอะไรไกลเกินไปไม่ได้ เราอยู่ในอันดับที่ดีในตอนนี้แต่ลีกมันยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งทางเลย มันต้องสู้กันอีกยาว ๆ เรายังเล่นกันไม่ดีอย่างที่เราต้องการแต่เราเอาชนะทีมที่เล่นด้วยยากได้ อย่าง วูล์ฟส เราก็เจอกับงานยากและนี่เป็นครั้งแรกของผมที่ชนะพวกเขาได้ในเกมลีก"
"สำหรับผมนี่คือพัฒนาการที่สำคัญ เมื่อเวลาคุณเล่นไม่ดีแต่เอาชนะได้" โอเล่ กล่าวปิดท้าย
ภาพ AFP
