เผยเรื่องราวที่ แมนยู เคยพลาดโอกาสในการเซ็นสัญญากับยอดกองกลางอย่าง มิคาเอล เอสเซียง ที่ว่ากันว่าจะเข้ามาแทนที่ของ รอย คีน หลังจากที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาโน้มน้าวให้นักเตะย้ายไปเล่นให้ เชลซี ด้วยการโทรไปกล่อมแบบวันเว้นวัน
ย้อนไปในปี 2005 เชลซี จัดการปาดหน้า แมนยู คว้าตัว เอสเซียง จาก ลียง มาร่วมทัพ โดย อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติกานา ลงสนามลุยโปรแกรมบอลให้ สิงโตน้ำเงินคราม ไปถึง 256 นัด และช่วยทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, พรีเมียร์ลีก 2 สมัย เอฟเอคัพ 3 สมัย และ ลีก คัพ 1 สมัย ตลอด 9 ปีในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์
แต่เส้นทางการค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก ของ เอสเซียง อาจแตกต่างออกไปหากเขาไม่ได้คุยโทรศัพท์กับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา รวมถึงถ้าเขาไม่ได้ไปทานบาร์บีคิวที่บ้านของอดีตเพื่อนร่วมทีม ลียง และ เชลซี อย่าง ฟลอร็องต์ มาลูด้า
มิคาเอล เอสเซียง ย้อนความหลังว่า "ปีที่ 2 ของผมที่ ลียง ผมกลับมามีความสุขมากที่ได้เริ่มต้นพรีซีซั่นกับพวกเขา นั่นคือตอนที่ทีมอื่น ๆ เริ่มติดต่อเข้ามาโดยมีทั้ง เชลซี และ แมนยู เมื่อถึงจุดนั้นผมก็อยากจะย้ายไป ยูไนเต็ด แต่แล้ว มูรินโญ่ ก็เข้ามาคุยกับผมแบบวันเว้นวัน และเขาก็พูดแบบชัดเจนได้ใจผมมาก ว่าเขาต้องการให้ผมไปร่วมทีม เชลซี และมีเพียง เชลซี เท่านั้นที่สามารถจ่ายค่าตัวของผมได้"
"มันไม่ง่ายเลยนะ แต่ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ผมได้คุยกับ โชเซ่ เป็นตอนที่ผมไปที่บ้านของ ฟลอร็องต์ มาลูด้า เพื่อกินบาร์บีคิว จากนั้นระหว่างทำบาร์บีคิวกันอยู่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ก็โทรเข้ามาหา มาลูด้า ทั้งคู่สนิทกันมาก จากนั้น ดร็อกบา ก็ถามเขาว่า 'ถ้านายได้เจอ มิคาเอล นายช่วยไปบอกเขาว่า โชเซ่ ต้องการเบอร์ของเขา โชเซ่ อยากจะคุยกับเขาได้ไหม ?' แต่ทาง มาลูด้า ก็ตอบไปว่า 'ไม่ มิคาเอล อยู่ที่นี่แล้ว เรากำลังกินบาร์บีคิวกันอยู่"
"จากนั้น มาลูด้า ก็ยื่นโทรศัพท์ให้ผม และผมก็เริ่มคุยกับ ดร็อกบา และนั่นคือวิธีที่เราเริ่มต้นกัน ผมก็เลยส่งเบอร์ของผมไปให้เขา และเขาก็ส่งต่อให้ โชเซ่ และทุกอย่างก็เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องราวการย้ายทีมที่แปลกประหลาดมาก" อดีตดาวเตะวัย 40 ปี กล่าวปิดท้าย
ข้อมูลจาก dailystar.co.uk/sport/football
ภาพจาก AFP
