ฟุตบอลโลก 2018 : อุรุกวัย - โปรตุเกส

เอดินสัน คาวานี่ เหมา 2 ตุงพา อุรุกวัย เฉือน โปรตุเกส กรุยทางสู่รอบ 8 ทีม แต่ตัวเองได้รับบาดเจ็บต้องรอเช็กอาการ

เริ่มเกมครึ่งแรก เป็นทาง อุรุกวัย ที่ได้ประตูออกนำไปอย่างรวดเร็วใน น.7 จากการขึ้นเกมมาทางฝั่งขวาของ เอดินสัน คาวานี่ ก่อนจะสวิตช์บอลข้ามไปซ้ายให้ หลุยส์ ซัวเรซ ดึงหลอกกองหลังโปรตุเกมหนึ่งจังหวะแล้วจัดการครอสไปที่จุดนัดพบเสาสอง เอดินสัน คาวานี่ วิ่งมาโขกโป้ง 1-0 อุรุกวัย ขึ้นนำ โปรตุเกส ไปก่อน 1-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

เข้าสู่ครึ่งหลัง น.54 โปรตุเกส มาได้ลูกเตะมุมแล้วเลือกเล่นสั้นเขี่ยเปลี่ยนจุดให้ ราฟาเอล เกอร์เรโร่ ครอสเข้ามาที่กลางประตู เปเป้ วิ่งสอดมาแบบโล่ง ๆ ก่อนจะโขกเข้าประตูไปให้ โปรตุเกส ตีเสมอ อุรุกวัย สำเร็จ เป็น 1-1 จากนั้น น.61 บอลเปิดยาวจากแดนหลังของอุรุกวัยขึ้นมา เปเป้ ได้โหม่งทว่าไม่ดีไปเข้าทาง เบนทาคูร์ จ่ายเรียดมาให้ เอดินสัน คาวานี่ ที่ริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนที่ดาวยิงจากเปแอสเชจะเอี้ยวตัวหน่อย ๆ แล้วปั่นด้วยขวาบอลโค้งเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม อุรุกวัย ขึ้นนำ โปรตุเกส อีกครั้งเป็น 2-1 แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นไม่นานเจ้าตัวจะได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม

หมดเวลาการแข่งขัน อุรุกวัย เอาชนะ โปรตุเกส ไปได้ 2-1 และในรอบ 8 ทีมสุดท้ายพวกเขาจะต้องไปพบกับทาง ฝรั่งเศส ต่อไป

เกมที่สองของฟุตบอลโลก 2018 นับว่าสมน้ำสมเนื้อเป็นอย่างยิ่ง อุรุกวัยอดีตแชมป์โลก 2 สมัยที่นำโดย หลุยส์ ซัวเรซ และ เอดินสัน คาวานี่ จะพบกับ แชมป์ยุโรป โปรตุเกส ที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นำทีม

จอมโหด อุรุกวัย ผ่านเข้ารอบมาด้วยฟอร์มเพอร์เฟ็คต์ ชนะคู่แข่ง 3 นัดรวดในรอบแรกเก็บ 9 คะแนนเต็ม ยังไม่โดนคู่แข่งยิงแม้แต่ลูกเดียว ฟอร์มการเล่นดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะนัดสุดท้ายที่ถล่มเจ้าภาพรัสเซียไปถึง 3-0

ขณะที่ โปรตุเกส เริ่มต้นด้วยการเก็บ 1 คะแนนในเกมบิ๊กแมตช์กับสเปน และต้องลุ้นระทึกนิดหน่อยในเกมสุดท้ายแต่ก็เข้ารอบมาได้ตามคาด

ทั้งอุรุกวัยและโปรตุเกสเคยเจอกันแค่ 2 ครั้งในประวัติศาสตร์ หนล่าสุดเกิดขึ้นในปี 1972 ซึ่งจบด้วยสกอร์ 1-1 และนี่คือครั้งแรกที่จะดวลกันในฟุตบอลโลก