วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
7 ธ.ค. 62 | พรีเมียร์ลีก | เอฟเวอร์ตัน | 3 - 1 | เชลซี |
5 ธ.ค. 62 | พรีเมียร์ลีก | เชลซี | 2 - 1 | แอสตัน วิลล่า |
30 พ.ย. 62 | พรีเมียร์ลีก | เชลซี | 0 - 1 | เวสต์แฮม |
28 พ.ย. 62 | ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก | บาเลนเซีย | 2 - 2 | เชลซี |
24 พ.ย. 62 | พรีเมียร์ลีก | แมนฯ ซิตี้ | 2 - 1 | เชลซี |
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช คือผู้ที่ส่ง เชลซี ให้หยุดเส้นทางใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไว้แค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
เชลซี เริ่มต้นไม่ดีนัก เมื่อถูกทีมเยือนยิงประตูขึ้นนำก่อนจาก อาเดรียง ราบิโอต์ ในนาทีที่ 16 แต่ความหวังในการเข้ารอบก็มาถูกจุดประกายจากประตูตีเสมอของ ดีเอโก้ คอสต้า ในอีก 10 นาทีต่อมา
อย่างไรก็ตาม ความหวังของ เชลซี ดับวูบลงด้วยประตูขึ้นนำ 2-1 ของ เปแอสเช โดย อิบราฮิโมวิช ในช่วงครึ่งหลัง
ก่อนลงสนามเกมนี้ อิบราฮิโมวิช ปฏิเสธว่าไม่ได้มีความคิดที่จะแก้คืนจากการที่เคยโดนใบแดงไล่ออกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อ 12 เดือนก่อน แต่ประตูนี้น่าจะเป็นการปลดความอัดอั้นในใจที่เก็บมาตลอดของดาวยิงทีมชาติสวีเดน
สำหรับ เปแอสเช นี่คือการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยส์ ลีกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่ เชลซี คงต้องรอเวลาที่จะกลับมาอีกครั้งเพราะปีหน้าพวกเขาคงจะไม่ได้กลับมาเล่นในถ้วยนี้
เชลซี เกมนี้จะไม่มี จอห์น เทอร์รี่ กับ เคิร์ท ซูม่า ที่ได้รับบาดเจ็บ ทว่า แกรี่ เคฮิลล์ ก็จะลงจับคู่กับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช อย่างไม่มีปัญหา ส่วนในตำแหน่งแบ็คซ้าย บาบ้า ราห์มาน จะได้ลงทำหน้าที่แทน เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ที่ถูกโยกมาประจำการฝั่งขวาตามเดิม