วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
17 พ.ย. 67 | ฟุตบอลอุ่นเครื่อง | ทีมชาติไทย | 1 - 1 | ลาว |
14 พ.ย. 67 | ฟุตบอลอุ่นเครื่อง | ทีมชาติไทย | 0 - 0 | เลบานอน |
14 ต.ค. 67 | ฟุตบอลอุ่นเครื่อง | ซีเรีย | 1 - 2 | ทีมชาติไทย |
11 ต.ค. 67 | ฟุตบอลอุ่นเครื่อง | ทีมชาติไทย | 3 - 1 | ฟิลิปปินส์ |
10 ก.ย. 67 | ฟุตบอลอุ่นเครื่อง | เวียดนาม | 1 - 2 | ทีมชาติไทย |
วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
14 พ.ย. 67 | ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย | อิรัก | 0 - 0 | จอร์แดน |
15 ต.ค. 67 | ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย | จอร์แดน | 4 - 0 | โอมาน |
10 ต.ค. 67 | ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย | จอร์แดน | 0 - 2 | เกาหลีใต้ |
10 ก.ย. 67 | ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย | ปาเลสไตน์ | 1 - 3 | จอร์แดน |
6 ก.ย. 67 | ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย | จอร์แดน | 1 - 1 | คูเวต |
ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ลงสนามนัดชิงชนะเลิศ คิงส์คัพ ด้วยเป้าหมายในการคว้าแชมป์กลับมาครองให้ได้หลังจากห่างหายไป 9 ปี เกมนี้ต้องเจอกับคู่แข่งที่ถือว่าเป็นทีมชั้นนำของเอเชียอีกทีมหนึ่งอย่าง จอร์แดน
เกมในครึ่งแรก ทีมชาติไทยสามารถครองบอลทำเกมได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังไม่สามารถหาช่องเข้าทำได้ถนัด ขณะที่ จอร์แดน พยายามจะคอยอาศัยจังหวะสวนกลับแต่ก็ไม่ได้ทำอันตรายอะไรให้แนวรับของทีมไทยได้เช่นกัน เนื่องจากส่วนใหญ่เน้นไปที่เกมรับรัดกุม
อย่างไรก็ตาม เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้แค่ 6 นาที ทีมชาติไทยก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา ได้บอลทางริมเส้นด้านขวาแล้วตักโด่งเข้ามาในกรอบเขตโทษ ให้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ตั้งป้อมวอลเลย์จังหวะแรกโดนไม่ดี แต่ยังเก็บตกได้ในจังหวะสอง และซัดเข้าไปไม่พลาด
หลังโดนยิงไปก่อน จอร์แดนพยายามเปิดเกมรุกมากขึ้นพร้อมกับเริ่มเล่นนอกเกมใส่ผู้เล่นไทย ขณะที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายประตูของไทยต้องออกแรงป้องกันลูกยาก ๆ มากขึ้น
จนกระทั่งนาทีที่ 80 ทีมชาติไทยก็มาได้ประตูที่สอง จากจังหวะขึ้นเกมทางขวาเหมือนเดิมแล้ว อดิศักดิ์ ไกรศร พาบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนจะปาดเข้ากลางให้ ธีรศิลป์ ข้ามหลอก บอลมาถึง เกริกฤทธิ์ คนเดิมบรรจงแปเสยตาข่ายเข้าไป
ช่วงเวลา 10 นาทีที่เหลือ จอร์แดนไม่อาจทำอะไรได้ ทีมชาติไทยคุมสถานการณ์จนจบเกมเป็นฝ่ายเอาชนะ 2-0 คว้าแชมป์ไปครองได้เป็นสมัยที่ 14
ทีมชาติไทยนัดนี้จะปรับหมากทดลองเล่นโดยใช้แผงหลัง 3 คน อดิศร พรหมรักษ์, มิก้า ชูนวลศรี และ สุพรรณ ทองสงค์ แล้วให้ ธีราทร บุญมาทัน กับ ทริสตัน สมชาย โด เล่นเป็นวิงแบ็ก แดนกลางจะดัน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ขึ้นไปคุมเกมคู่กับ สารัช อยู่เย็น "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ คอยทำเกมรุก และกองหน้าจะให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ยืนคู่กับ ธีรศิลป์ แดงดา
สำหรับ จอร์แดน ชุดนี้เป็นชุดใหญ่ทีมเดียวกับที่เล่นบอลโลกรอบคัดเลือกซึ่งเคยเอาชนะ ออสเตรเลียได้ด้วย แต่เกมแรกที่ชนะมาได้มาได้เพราะทาง ยูเออี ใช้ผู้เล่นชุดสอง ส่วนสถิติที่ผ่านมาในการพบกับทีมชาติไทยก็ถือว่าเหนือกว่า เจอกันมา 6 นัด เสมอกัน 5 และชนะทีมไทยได้ 1 นัด
จอร์แดนถือว่าศักยภาพเหนือกว่าซีเรียที่ไทยเจอในเกมแรก แต่ถ้าลูกทีมของโค้ชซิโก้ เล่นได้ตามมาตรฐานเหมือนในครึ่งแรกของนัดก่อนก็ถือว่าไม่เป็นรอง