สโต๊ค ซิตี้ มีผู้เล่นเจ็บอยู่สามรายเช่น เซอร์ดาน ชากิรี่ และ แจ็ค บัตแลนด์, ผู้รักษาประตู ลี แกรนท์, เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ กับ ไรอัน ชอว์ครอสส์, แบ็คซ้ายเนเธอร์แลรด์ เอริค ปีเตอร์ส, แบ็คขวา เจฟฟ์ คาเมรอน, แดนกลางชาร์ลี อดัม, เกล็นน์ วีแลน, โจ อัลเลน, รามาดาน โซบี, มาร์โค อาร์เนาโตวิช, หน้าเป้า ปีเตอร์ เคร้าช์ หรือ ไซโด้ เบราฮิโน่
ลิเวอร์พูล ยังหมดสิทธิ์ใช้ ซาดิโอ มาเน่, อดัม ลัลลาน่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ยังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่, ผู้รักษาประตูชาวเบลเยียม ซิมง มินโญเลต์, เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ โจเอล มาติป กับ เดยัน ลอฟเรน, แบ็คซ้าย เจมส์ มิลเนอร์, แบ็คขวา เนธาเนียล ไคลน์, กองกลาง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, ลูคัส เลว่า, เอ็มเร่ ชาน, สามแนวรุก ดีว็อค โอรีกี, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
ที่สนาม เบน 365 สเตเดี้ยม สโต๊ค ซิตี้ อันดับ 12 ห้านัดหลัง ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3 ล่าสุดออกไปแพ้ต่อ เบิร์นลี่ย์ สลับมาที่ ลิเวอร์พูล อันดับ 3 ห้านัดหลัง ชนะ 3 เสมอ 2 ล่าสุดทำได้แค่เสมอในบ้านกับ บอร์นมัธ กับเกมนี้ ช่างปั้นหม้อ ที่ฟอร์มตกอย่างหนัก แพ้สามนัดติดต่อกัน ต้องรับมือ หงษ์แดง ที่พึ่งมีอาการฝืดให้เห็นอีกครั้ง แต่การเจอกันสองครั้งล่าสุดเมื่อปีก่อน ลูกทีมคล็อปป์ ทำได้ดีกว่า แม้ครั้งนี้จะมาเยือนก็ตาม แต่ความชัดเจนในการจบสกอร์ไว้ใจได้เสมอ ดูแล้วสามแต้มไม่น่ายากเกินไป
ฟันธง : หงส์แดง แรงสั่งได้