วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
10 พ.ย. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 3 - 0 | เลสเตอร์ |
8 พ.ย. 67 | ยูฟ่า ยูโรปา ลีก | แมนฯ ยูไนเต็ด | 2 - 0 | พีเอโอเค |
3 พ.ย. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 1 - 1 | เชลซี |
31 ต.ค. 67 | คาราบาว คัพ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 5 - 2 | เลสเตอร์ |
27 ต.ค. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | เวสต์แฮม | 2 - 1 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
10 พ.ย. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | ลิเวอร์พูล | 2 - 0 | แอสตัน วิลล่า |
6 พ.ย. 67 | ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก | ลิเวอร์พูล | 4 - 0 | เลเวอร์คูเซ่น |
2 พ.ย. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | ลิเวอร์พูล | 2 - 1 | ไบรท์ตัน |
31 ต.ค. 67 | คาราบาว คัพ | ไบรท์ตัน | 2 - 3 | ลิเวอร์พูล |
27 ต.ค. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | อาร์เซนอล | 2 - 2 | ลิเวอร์พูล |
ดียาโล่ ฮีโร่ปีศาจแดง
ศึกแดงเดือด เวอร์ชั่น เอฟเอ คัพ สู้กันสุดมันถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที สุดท้ายเป็น แมนยู ที่มาได้ประตูชัยในช่วงก่อนหมดเวลาเฉือนเอาชนะ ลิเวอร์พูล ด้วยผลบอลสด 4-3 ลอยลำเข้ารอบรองชนะเลิศไปได้แบบสุดระทึก
โดยบอลวันนี้ แมนยู ออกนำไปก่อนตั้งแต่ 10 นาทีแรกจากจังหวะตามซ้ำจ่อ ๆ ของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ จากนั้น ลิเวอร์พูล ค่อย ๆ ตั้งเกม และครองบอลบุกจนกระทั่งรัวสองประตูพลิกแซงได้จากลูกยิงของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ยิงไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่น
และจังหวะขึ้นนำของ ลิเวอร์พูล มากจากจังหวะที่ โจ โกเมซ ตัดบอลจาก บรูโน่ ก่อนเปิดเข้ากรอบเขตโทษให้ ดาร์วิน นูนเญซ ยิงไปติดเซฟของ อ็องเดร โอนาน่า บอลมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซัดจ่อ ๆ ด้วยขวาเบียดเช็ดเสาเข้าไป
ครึ่งหลังเป็น ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลทำเกมบุกมากกว่า แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ และมาโดน แมนยู ตามตีเสมอจนได้ในช่วงท้ายเกมจาก แอนโทนี่ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง และช่วงก่อนหมดเวลาเจ้าถิ่นเกือบได้ประตูชัย แต่ทว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปยิงผ่านเสาออกไป จบ 90 นาทีเสมอกัน 2-2 ทำให้ต้องไปลุ้นกันต่ออีก 30 นาทีในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ในช่วงต่อเวลาพิเศษเป็นทาง ลิเวอร์พูล ที่มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ตัวสำรองรับบอลจากนอกกรอบเขตโทษตั้งป้อมยิงด้วยซ้ายบอลไปแฉลบ คริสเตีย อีริคเซ่น เปลี่ยนทางหนีมือ โอนาน่า เข้ามุมไป
แต่ฝั่ง แมนยู ก็มาตามตีเสมออีกครั้งจากความผิดพลาดของ ดาร์วิน นูนเญซ จ่ายบอลไปติด แม็คโทมิเนย์ จ่ายเข้าเขตโทษให้ แรชฟอร์ด ยิงตามน้ำรอบนี้ไม่พลาดกลายเป็นประตูตีเสมอ 3-3
จากนั้นในจังหวะที่ ลิเวอร์พูล กำลังลุ้นประตูจากลูกเตะมุม อามาด ดียาโล่ ฉกบอลได้จาก เอลเลียตต์ ไปถึง อาเลฆันโดร การ์นาโช่ ใช้ความเร็วดวลกับ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ก่อนจ่ายคืนให้ ดียาโล่ ยิงด้วยซ้ายเข้าเสาไกล และกลายเป็นประตูชัยส่งให้ ปีศาจแดง พลิกแซงชนะไปด้วยสกอร์ 4-3 พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปได้สำเร็จ