โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ อดีตกองหน้าขวัญใจแฟนบอล ลิเวอร์พูล เปิดเผยว่า เขาต้องคอยทำหน้าที่เป็นนักดับเพลิงดับความหัวร้อนระหว่าง ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ สมัยที่ทั้งสามร่วมงานกันในถิ่น แอนฟิลด์
หลังจากการมาถึงของ ซาล่าห์ ในปี 2017 ได้ก่อกำเนิดตำนาน 3 ประสาน ฟีร์มิโน่-มาเน่-ซาล่าห์ ซึ่งตลอดช่วง 5 ปี นักเตะทั้งสามมีส่วนสำคัญในการพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ โดยทำประตูรวมกันไปถึง 427 ประตู
อย่างไรก็ตาม ฟีร์มิโน่ ยอมรับว่าระหว่าง มาเน่ และ ซาล่าห์ เคยมีช่วงเวลาตึงเครียดเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว อย่างเช่นในแมตช์กับ เบิร์นลีย์ ในปี 2019 ที่ มาเน่ โวยวายใส่ ซาล่าห์ ที่ไม่จ่ายบอลให้ กระทั่งระบายความหงุดหงิดใส่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตอนถูกเปลี่ยนตัว "ผมเห็นหน้าตาที่บูดบึ้ง ภาษากาย ความไม่พอใจ เมื่ออีกคนโกรธ"
"ผมรู้สึกได้ถึงความตึงเครียด ผมคือคนที่คอยเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาในเกมรุก รวมถึงรับบทนักดับเพลิงคอยดับไฟในช่วงเวลาเหล่านั้นอีกด้วย สำหรับหลาย ๆ คนคงคิดว่านี่เป็นความขัดแย้งครั้งแรกระหว่าง ซาดิโอ กับ โม และคิดว่ามันคงเป็นครั้งสุดท้าย"
"แต่ผมรู้ว่ามันเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ฤดูกาล 2018-2019 ซึ่งสัญชาตญาณและหน้าที่ของผมคือต้องช่วยคลี่คลายสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ซาล่าห์ และ มาเน่ เคยมีปัญหากันมาก่อนแล้ว แต่ครั้งนั้นที่ เบิร์นลี่ย์ ทุกอย่างเกิดขึ้นบนสนามจนโลกได้เห็นกันหมด"
ทั้งนี้ มาเน่ เป็นคนแรกที่ย้ายทีมปิดฉาว 6 ปีในบ้านผลบอลถิ่น แอนฟิลด์ ไปร่วมทัพ บาเยิร์น เมื่อปี 2022 แต่อยู่เยอรมนีได้ไม่นาน เจ้าตัวก็ย้ายไปสโมสร อัล นาสเซอร์ หลังจากนั้นก็เกิดปัญหาทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีม ลีรอย ซาเน่ ขณะที่ ฟีร์มิโน่ ยุติการค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล เป็นเวลา 8 ปี และย้ายไปเล่นใน ซาอุดีอาระเบีย เช่นเดียวกับ มาเน่ โดยร่วมทีม อัล-อาห์ลี
ขอบคุณข้อมูลจาก thesun.co.uk
ภาพจาก AFP
