ย้อนสถิติทีมชาติไทยในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

"ช้างศึก" ทีมชาติไทย ถือว่าครองความเป็นหนึ่งของย่านอาเซียนมาอย่างยาวนานบนนถนนสายลูกหนัง ทว่าหากมองเลยไปในระดับเอเชียหรือว่าระดับโลกทีมชาติไทยยังไม่สามารถก้าวไปอยู่ตรงจุดที่เรียกว่า "แนวหน้า" ได้เลย เพราะว่าโควต้าฟุตบอลโลกของโซนเอเชียในระยะหลัง ๆ มานี้ทีมที่ได้ไปก็หน้าเดิม ๆ คือ ญี่ปุ่น กับ เกาหลีใต้ หรืออาจจะมี เกาหลีเหนือ, ซาอุดิอาระเบีย, อิหร่าน และออสเตรเลีย หลุดไปแจมบ้างตามโอกาส

ทว่าหลังจากที่ทีมชาติไทยชุดนี้ที่มี "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คุมทีมผลงานของแข้งช้างศึกก็ดูดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะด้วยแนวทางการทำทีมที่เน้นสร้างทีมขึ้นมาเพื่ออนาคต โดยให้โอกาสเหล่าแข้งช้างหนุ่มมากมายได้เข้ามาอยู่ในทีม และแจ้งเกิดไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งผลงานแรกคือการคว้าอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 2014 ตามด้วยแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ นั่นทำให้ความหวังของทีมชาติไทยกับฟุตบอลโลกเริ่มดูมีความหวังมากขึ้น

ผลงานของเส้นทางฟุตบอลโลก 11 ครั้งที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 1974

กุนซือ : กุนเทอร์ กลอมบ์

การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1974 ถือว่าเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันรายการลูกหนังโลกครั้งแรกของทีมชาติไทย โดยการแข่งขันในครั้งนั้น เยอรมันตะวันตก เป็นชาติเจ้าภาพ และแน่นอนว่าชาติเล็ก ๆ อย่างไทยก็ชิมลางในรอบคัดเลือกได้ตามความคาดหมายด้วยการแพ้รวดในรอบคัดเลือก และไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้เลย

วิทยา เลาหกุล เก่งถึงขนาดที่เคยไปค้าแข้งในบุนเดสลิกามาแล้ว

ฟุตบอลโลก 1978

กุนซือ : เพเทอร์ ชนิทเกอร์

ผู้เล่นตัวหลัก : เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง, วิทยา เลาหกุล, นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์

ศึกเวิลด์คัพในครั้งนี้มี อาร์เจนตินา เป็นชาติเจ้าภาพ โดยทีมชาติไทยอยู่ในยุคของผู้เล่นจอมอัจฉริยะอย่าง วิทยา เลาหกุล ได้ลงเล่นในรอบคัดเลือกเช่นเดิมอยู่สายเดียวกับ ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยการแข่งขันในครั้งนี้ไทยมีผลงานดีขึ้นมากกว่าเดิม หลังจากเอาชนะ อินโดนีเซีย ไปได้ 3-2 ซึ่งเกมดังกล่าวไทยได้ประตูจาก เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง, เชิดศักดิ์ ชัยบุตร และนิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์

ฟุตบอลโลก 1982

กุนซือ : ประวิทย์ ไชยสาม

ผู้เล่นตัวหลัก : วิชัย ไวทยางกูร, ทรงวุฒิ ขันธฑัต, ภักดี โชยะสิทธิ์

ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกหนที่ 3 ของประเทศไทย ในครั้งนี้ ทัพช้างศึก ต้องเจอคู่ปรับร่วมกลุ่มอย่าง คูเวต, เกาหลีใต้ และมาเลเซีย โดยผลการแข่งขันในครั้งนี้ ไทย เสมอ 1 และแพ้อีก 2 เกมด้วยกัน ซึ่งยุคนี้ไทยมีผู้จัดการทีมคือ ประวิทย์ ไชยสาม ส่วนนักฟุตบอลก็จะเป็นพวก วิชัย ไวทยางกูร, ทรงวุฒิ ขันธฑัต และภักดี โชยะสิทธิ์

แต่ละคนในชุดนี้ฝีเท้าถือว่าเจนจัดแบบสุด ๆ

ฟุตบอลโลก 1986

กุนซือ : บัวร์กฮาร์ด ซีเซอ

ผู้เล่นตัวหลัก : นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง, สมพงษ์ วัฒนา, เฉลิมวุฒิ สง่าพล 

ทีมชาติไทยในยุคของ บัวร์กฮาร์ด ซีเซอ เทรนเนอร์ชาวเยอรมนี ได้เรียกผู้เล่นฝีเท้าดีเข้ามาสู่ทีมมากมายไม่ว่าจะเป็น ธนิศร์ อารีสง่ากุล, นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง หรือว่าดาวรุ่งเพชรเม็ดงามอย่าง วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ มาร่วมทัพ ซึ่งเวิลด์คัพในครั้งนี้ เม็กซิโก เป็นชาติเจ้าภาพ

โดยการแข่งขันในครั้งนี้ ไทย สามารถเก็บชัยชนะได้อีกหนึ่งครั้งเหนือ บังกลาเทศ ด้วยสกอร์ 3-0 ซึ่งเกมนั้น ธนิศร์ อารีสง่ากุล, ศักดริน ทองมี และวิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ เป็นผู้ทำประตู แต่ไฮไลต์จริง ๆ มันอยู่ที่เกมสุดท้าย ซึ่งไทยไม่ได้มีลุ้นอะไรแล้วแต่ต้องเดินทางไปแข่งขันกับอินเดียด้วยผู้เล่นเพียงแค่ 13 คน แต่สุดท้ายแล้ว สุทิน ไชยกิตติ ผู้เล่นกองหลังเกิดได้รับบาดเจ็บส่งผลให้  นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง ที่เป็นนายทวารต้องลงไปเล่นเป็นกองหน้า และสุดท้ายเขาสามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายประตูทีมชาติคนแรกที่สามารถยิงประตูได้

เดอะ ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตกองหน้าดาราเอเชียของประเทศไทย

ฟุตบอลโลก 1990

กุนซือ : คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่

ผู้เล่นตัวหลัก : ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, ประเสริฐ ช้างมูล, วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์

การแข่งขันฟุตบอลโลก 1990 ที่มีอิตาลีเป็นเจ้าภาพ ไทยได้ลงเล่นในรอบคัดเลือกอีกครั้ง โดยอยู่ร่วมกลุ่มกับ จีน, อิหร่าน และบังกลาเทศ ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ไทยเปิดหัวได้ดีด้วยการเก็บชัยชนะได้ในนัดแรกเหนือบังกลาเทศคู่ปรับเก่า 1-0 จากประตูชัยของ "เพชรฆาตหน้าหยก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน

ทว่าสุดท้ายแล้วอีก 5 นัดที่เหลือ ทัพช้างศึก กลับแพ้รวด แน่นอนว่าทีมชาติไทยในยุคแรกของ คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่ ก็ยังไปไม่ถึงฝัน

ฟุตบอลโลก 1994 

กุนซือ : ปีเตอร์ สตับบ์

ผู้เล่นตัวหลัก : ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ส่งเสริม มาเพิ่ม

ทีมชาติไทยได้เลือกใช้บริการกุนซือจากเยอรมนีอีกครั้ง โดยรอบนี้ได้ตัว ปีเตอร์ สตับบ์ เข้ามาคุมทีม ซึ่งการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มในครั้งนี้ฟีฟ่าได้เลือกใช้กฎใหม่กับชาติจากเอเชียโดยให้ลงแข่งขันกัน 2 เลก โดยเลกแรกแข่งขันกันที่ญี่ปุ่น ส่วนเลกที่ 2 แข่งขันกันที่ ยูเออี

ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นยุคเริ่มต้นของดรีมทีม โดย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยคนปัจจุบัน ได้เข้ามาสู่ทำเนียบทีมชาติในฐานะดาวรุ่งแล้ว ขณะที่ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ดาวยิงรุ่นพี่กำลังอยู่ในช่วงที่พีคสุด ๆ โดยสามารถทำแฮตทริกได้ถึง 2 ครั้งกับ บังกลาเทศ และศรีลังกา แน่นอนว่าครั้งนี้ทีมชาติไทยมาไกลทีเดียวด้วยการเก็บชัยชนะได้ถึง 4 แมตช์กาารแข่งขัน แต่ก็ยังไม่ดีพอกับรอบคัดเลือกรอบที่ 2

ฟุตบอลโลก 1998

กุนซือ : วิทยา เลาหกุล

ผู้เล่นตัวหลัก : เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์, ดุสิต เฉลิมแสน, สุรชัย จตุรภัทรพงศ์

ในรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 1998 ที่มีฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ทางฟีฟ่ากำหนดให้ ทีมจากเอเอฟซีเข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลกได้ 3.5 ประเทศ (ทีมที่สี่จะแข่งเพลย์ออฟกับทีมจากโอเอฟซี) การเพิ่มจำนวนนี้เนื่องจากทีมที่ร่วมเล่นทั่วโลกเพิ่มจาก 24 เป็น 32 ประเทศ มีประเทศร่วมแข่งขันทั้งหมด 36 ประเทศ โดยทีมชาติไทยอยู่สาย 6 ซึ่งประกอบไปด้วย เกาหลีใต้ ไทย และ ฮ่องกง ซึ่งในครั้งนี้ไทยชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 2 ครั้ง ทำให้ไม่ผ่านรอบคัดเลือกรอบแรก

ทว่าผู้เล่นอย่าง เนติพงษ์ ศรีทิองอินทร์, กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ หรือว่า ดุสิต เฉลิมแสน ก็กลายเป็นนักเตะที่คุ้นตาแฟนบอลไปแล้ว

ธชตวัน ศรีปาน อีกหนึ่งยอดเพลย์เมคเกอร์ในตำนานแห่งทัพช้างศึก

ฟุตบอลโลก 2002

กุนซือ : ปีเตอร์ วิธ

ผู้เล่นตัวหลัก : เศกสรรค์ ปิตุรัตน์, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, เทิดศักดิ์ ใจมั่น

ทีมชาติไทยในยุคของกุนซือชาวอังกฤษคนแรกในประวัติศาสตร์อย่าง ปีเตอร์ วิธ สามารถทำผลงานได้อย่างเอกอุจริง ๆ โดยในยุคดังกล่าวทีมชาติไทยมีนักเตะฝีเท้าฉกรรจ์อยู่ในทีมอื้อซ่าเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ธชตวัน (ตะวัน) ศรีปาน, เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ หรือว่า เทิดศักดิ์ ใจมั่น ซึ่งผลการแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบแรก 6 เกมแรก ไทย ชนะ 5 เสมอ 1 ลอยลำเข้ารอบที่ 2 ไปอย่างสง่าผ่าเผย

ทว่าเมื่อเข้าสู่รอบที่ 2 ไทยต้องเจอกับทีมระดับหัวแถวของเอเชียอย่างแท้จริงไม่ว่าจะเป็น อิรัก, ซาอุดิอาระเบีย, อิหร่าน หรือว่า บาห์เรน ซึ่งในรอบที่ 2 นี้ ทัพช้างศึกไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย และต้องตกรอบไปในที่สุดแต่ก็ถือว่านี่เป็นผลงานการผ่านรอบคัดเลือกรอบแรกได้อย่างสมเกียรติ

ฟุตบอลโลก 2006

กุนซือ : ชาญวิทย์ ผลชีวิน

ผู้เล่นตัวหลัก : เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ธชตวัน ศรีปาน, สุธี สุขสมกิจ

ฟุตบอลโลก 2006 แข่งขันกันที่ เยอรมนี โดยฟีฟ่ากำหนดให้ ทีมจากเอเอฟซีเข้าร่วมแข่งขันได้ 4.5 ประเทศ (ทีมที่ห้าจะแข่งเพลย์ออฟกับทีมจากคอนคาเคฟ) โดยทีมชาติไทยในตอนนั้นมี "อ.หรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน เป็นกุนซือใหญ่ พร้อมด้วยผู้เล่นที่มีฝีเท้าดีเสริมเข้าทีมมาอีกหลายรายจากชุดเดิมไม่ว่าจะเป็น "โจ้ 5หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี, สุธี สุขสมกิจ หรือว่า อานนท์ นานอก แต่สุดท้ายแล้วไทยแลนด์ก็ไปไม่ถึงฝันอีกครั้ง

ฟุตบอลโลก 2010

กุนซือ : ไบรอัน ร็อบสัน

ผู้เล่นตัวหลัก : ศรายุทธ ชัยดำดี, ดัสกร ทองเหลา, นิรุจน์ สุระเสียง 

มาถึงฟุตบอลโลกปี 2010 ฟีฟ่าได้จัดระบบใหม่อีกครั้ง โดยนับตามอันดับทีมวางซึ่งรอบแรก ไทย เอาชนะ มาเก๊า ไป-กลับ 13-2 พร้อมกับแจ้งเกิดดาวยิงสายเลือดใหม่อย่าง ธีรเทพ วิโนทัย กับ ธีรศิลป์ แดงดา

ส่วนรอบที่ 2 ไทย ต้องเจอกับ เยเมน และเมื่อรวมผลการแข่งขัน 2 นัด ไทย เอาชนะ เยเมน ด้วยสกอร์รวม 2-1 ได้เข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มรอบที่ 3 โดยพบกับ ญี่ปุ่น, โอมาน และบาห์เรน ซึ่งผลการแข่งขันทั้งหมด ไทย เสมอ 1 แพ้ไปอีก 5 ตกรอบอีกครั้ง

ธีรศิลป์ แดงดา ซัดประตูให้ทีมชาติไทย แต่สุดท้ายก็ต้องตกรอบคัดเลือก

ฟุตบอลโลก 2014

กุนซือ : วินฟรีด เชเฟอร์

ผู้เล่นตัวหลัก : ธีรศิลป์ แดงดา, ดัสกร ทองเหลา, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

วินฟรีด เชเฟอร์ คือชื่อของกุนซือทีมชาติไทยชุดลุยฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย 2014 โดยการแข่งขันรอบคัดเลือกรอบแรกต้องเล่นแบบ เหย้า-เยือน ซึ่งไทยพบกับปาเลสไตน์ และรวมสกอร์สองนัดไทยเอาชนะไปได้ 3-2

ก่อนที่ในรอยคัดเลือกไทยต้องพบกับ ออสเตรเลีย, ซาอุดิอาระเบีย และโอมาน ซึ่งผลการแข่งขัน ไทย เสมอ 1 แพ้4 ตกรอบไปตามระเบียบ

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ย้อนสถิติทีมชาติไทยในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก อัปเดตล่าสุด 10 มิถุนายน 2558 เวลา 16:20:46 43,053 อ่าน
TOP