ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : เรอัล มาดริด - โวล์ฟสบวร์ก

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ งัดฟอร์มเก่งยิงแฮตทริกนำ เรอัล มาดริด เอาชนะ โวล์ฟสบวร์ก 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยสกอร์รวม 3-2

ทีมเยือนจากเยอรมนีมาเยือน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ด้วยความหวัง หลังจากตุนสกอร์ 2-0 มาจากเกมแรก ทว่า เจ็ทโด้ มาซัดสองประตูในช่วงเวลาห่างกันแค่ 88 วินาทีให้ เรอัล มาดริด ไล่คืน 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนจะมาอัดฟรีคิกเป็นประตูที่ 3 ในนาที 77

ประตูจากเกมนี้ทำให้ โรนัลโด้ ยิงไปแล้วรวม 16 ประตูใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เหลืออีกเพียงลูกเดียวก็จะเท่ากับสถิติสูงสุดที่เจ้าตัวทำไว้ในฤดูกาล 2013-14 และนียังนับเป็นสถิติแฮตทริกครั้งที่ 5 เท่ากับที่ ลิโอเนล เมสซี่ ทำได้

ส่วน เรอัล มาดริด นี่เป็นการผ่านเข้ารอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งที่ 11 และเป็นฤดูกาลที่ 6 ติดต่อกัน

เรอัล มาดริด ได้ ราฟาเอล วาราน หายเจ็บน่องกลับมาแล้ว และคนอื่น ๆ ก็พร้อมลงสนามทั้งหมด โดยเทรนเนอร์ ซีเนอดีน ซีดาน ให้ตัวหลักทั้ง แกเร็ธ เบล, โทนี่ โครส, คาริม เบนเซม่า และ ลูก้า โมดริช พักมาเต็มที่ในเกมลีก ทำให้ ฮาเมส โรดริเกซ ที่ฟอร์มอย่างแจ่มคงต้องกลับไปนั่งสำรอง

ด้าน โวล์ฟสบวร์ก กุนซือ ดีเตอร์ เฮคกิ้ง น่าจะใช้ทีมชุดเดียวกับที่ชนะนัดแรก 2-0 ให้ อังเดร เชือร์เร่ ยืนหัวหอก แดนหลังมีสองแข้งบราซิเลียน นัลโด้ กับ ดานเต้ เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กัน

เกมแรกที่เยอรมนี ทีมจาก บุนเดสลีกา เอาชนะ ยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา ได้ อย่างที่ไม่มีใครคาดมาก่อน ทว่าการยิงแค่ 2 ประตูเพื่อเอาคืนหรือมากกว่านั้น ก็คงไม่มีใครกล้าบอกว่า เรอัล มาดริด จะทำไม่ได้เหมือนกัน