วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
13 ก.พ. 62 | ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก | แมนฯ ยูไนเต็ด | 0 - 2 | เปแอสเช |
9 ก.พ. 62 | พรีเมียร์ลีก | ฟูแล่ม | 0 - 3 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
3 ก.พ. 62 | พรีเมียร์ลีก | เลสเตอร์ | 0 - 1 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
30 ม.ค. 62 | พรีเมียร์ลีก | แมนฯ ยูไนเต็ด | 2 - 2 | เบิร์นลี่ย์ |
26 ม.ค. 62 | เอฟเอ คัพ | อาร์เซน่อล | 1 - 3 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
14 ก.พ. 62 | ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก | สเปอร์ส | 3 - 0 | ดอร์ทมุนด์ |
10 ก.พ. 62 | พรีเมียร์ลีก | สเปอร์ส | 3 - 1 | เลสเตอร์ |
2 ก.พ. 62 | พรีเมียร์ลีก | สเปอร์ส | 1 - 0 | นิวคาสเซิ่ล |
31 ม.ค. 62 | พรีเมียร์ลีก | สเปอร์ส | 2 - 1 | วัตฟอร์ด |
27 ม.ค. 62 | เอฟเอ คัพ | คริสตัล พาเลซ | 2 - 0 | สเปอร์ส |
โชเซ่ มูรินโญ่ ยังคงมีไพ่ตายในการเปลี่ยนตัวได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคยเมื่อส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงสนามมาเป็นโจ๊กเกอร์ และสามารถยิงประตูชัยให้ทีมได้สำเร็จ
แมนยู เปิดบ้านพบ สเปอร์ส ซึ่งระหว่างเกมแน่นอนว่า ทีมเยือน สามารถคุมเกม และมีโอกาสยิงมากกว่า ทว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องมาพลาดท่าให้แมนยูในช่วงท้ายเกม เมื่อ ดาบิด เด เคอา เปิดบอลยาวขึ้นหน้ามา โรเมลู ลูกากู โขกชงต่อให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ ช่วยให้ แมนยู เอาชนะ สเปอร์ส ไปได้แบบหืดจับ 1-0
หลังจบเกมนี้ แมนยู เหลือแต้มตาม แมนซิตี้่ ที่ยังไม่ได้ลงแข่งเหลือแค่ 2 แต้มเท่านั้น