เบ็คแฮม เผยรู้ตัวว่าถึงเวลาแขวนสตั๊ดหลังโดน เมสซี่ กระชากหนี


ภาพประกอบจาก AFP

เดวิด เบ็คแฮม ดารานักเตะลูกหนังคนดังชาวอังกฤษ กำลังจะยุติบทบาทการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หลังช่วงเวลา 20 ปีในการค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, แอลเอ แกแล็คซี่, เอซี มิลาน และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งทำให้เจ้าตัวกลายเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์

"เดลี่เมล์" หนังสือพิมพ์ดังของอังกฤษ รายงานว่า เบ็คแฮม ได้เปิดเผยถึงเหตุผลที่ตัดสินใจประกาศอำลาสนามในครั้งนี้ โดยเป็นการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ แกรี่ เนวิลล์ เพื่อนร่วมทีมที่สนิทที่สุดตั้งแต่สมัยเล่นด้วยกันที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

กองกลางอดีตทีมชาติอังกฤษซึ่งเพิ่งอายุครบ 38 ปีเต็ม เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน กล่าวว่า "ผมคิดว่าผมรู้ตัวตอนที่ เมสซี่ วิ่งผ่านหน้าผมไปในเกมกับ บาร์ซ่า แต่ที่สุดแล้วผมก็ภูมิใจกับแชมป์ทุกรายการที่ผมเคยทำได้"

"หลายปีที่ผ่านมา เวลาผมเห็นเพื่อนนักฟุตบอลคนอื่นเลิกเล่น เมื่อคุณเข้าไปถาม พวกเขาก็พูดเหมือนๆ กันว่าคุณจะรู้ตัวเองว่าเมื่อไหร่จะถึงวันที่คุณพร้อม และผมคิดว่าผมรู้ดีว่าตัวเองจะพร้อมเมื่อไหร่ ซึ่งผมคิดว่าผมพร้อมแล้ว แน่นอนมันเป็นการตัดสินใจที่ยากมากเพราะผมยังรู้สึกว่าตัวเองน่าจะเล่นเกมระดับสูงได้ต่อไป แบบที่ผมยังเล่นได้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา"

"แต่ผมบอกตัวเองอยู่ตลอดว่า ผมอยากจะจากไปในขณะที่อยู่ในจุดสูงสุด ถ้าคุณมาบอกผมเมื่อ 8 เดือนที่แล้วว่าผมจะได้เล่นใน ลีกเอิง ได้เป็นแชมป์ เฟร้นช์ คัพ ได้แชมป์ลีกและลงเอยแบบนี้ผมคงจะเถียงไปเลยว่า "ไม่มีทาง" แต่แล้วผมก็มีโอกาสได้มาเล่นให้ เปแอสเช และตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่สมควรแล้ว"

ทั้งนี้ เบ็คแฮม ยังหวังว่าผลงานที่ตนเองได้สร้างสมมาตลอด 20 ปี จะสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ ได้โดยระบุว่า "ผมอยากให้ทุกคนมองผมในฐานะนักฟุตบอลที่ทำงานหนักและเป็นคนที่มีความหลงใหลในเกมฟุตบอลจริงๆ ทุกครั้งที่ก้าวลงสนาม ผมทุ่มเททุกอย่างเท่าที่ผมทำได้ เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึก ในฐานะที่ผมกำลังจะมาถึงเกมท้ายในการเล่นอาชีพแล้ว นั่นคือภาพที่ผมเห็นเมื่อย้อนกลับไปดูตัวเอง และผมหวังว่าทุกคนจะเห็นผมแบบนั้น ผมคิดว่าชีวิตของผมและการเล่นฟุตบอลของผมตลอดหลายปีที่ผ่านมามันเป็นแบบนี้"

"ที่สุดแล้ว ผมได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่เคยเล่นให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และเล่นร่วมกับนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ผมได้เล่นภายใต้การคุมทีมโดยผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก และประสบความสำเร็จมาเกือบทุกอย่างในวงการฟุตบอล"

"ผมคิดว่ามันเป็นความฝันของนักกีฬาทุกคน เป็นฝันของนักฟุตบอลทุกคนที่อยากจะไปถึงจุดสูงสุด ไม่ว่าจะในแง่ของฟอร์มการเล่นหรือตำแหน่งแชมป์ มันไม่เกิดขึ้นบ่อยนักหรอก ผมโชคดีตอนที่ย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เราได้แชมป์ลีก ตอนที่ผมย้ายจาก เรอัล มาดริด เราก็ได้แชมป์ลีก ผมย้ายออกจาก แอลเอ แกแล็คซี่ หลังจากเราได้แชมป์ลีก 2 สมัย และตอนนี้ผมมาที่ เปแอสเช เราก็ได้แชมป์"

"การอำลาแบบนี้มันยอดเยี่ยม ผมคิดว่าทุกคนจะย้อนกลับไปมองและเห็นว่ามันเป็นแบบนั้น คุณจากไปในฐานะแชมเปี้ยน และนี่คือเหตุผลที่ผมคิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว" เบ็คแฮม กล่าว


เกียรติประวัติ เดวิด เบ็คแฮม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
พรีเมียร์ลีก (6): 1995–96, 1996–97, 1998–99, 1999–2000, 2000–01, 2002–03
เอฟเอ คัพ (2): 1995–96, 1998–99
เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ (4): 1993, 1994, 1996, 1997
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (1): 1998–99
อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ (1): 1999

เรอัล มาดริด
ลา ลีกา (1): 2006–07
ซูเปอร์ โกปา (1): 2003

แอลเอ แกแล็คซี่
เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ คัพ (2): 2011, 2012

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
ลีกเอิง (1): 2012–13


รางวัลเกียรติยศ
- รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (1): 1996–97
- นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษยอดเยี่ยม (1): 2003
- บุคคลกีฬายอดแห่งปีโดย บีบีซี (1): 2001
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีโดย ยูฟ่า (2): 2001,2003
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสร เรอัล มาดริด (1): 2005–2006
- ทีมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (4): 1996–97,1997–98,1998–99,1999–2000
- 1 ใน 100 นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษของ ฟีฟ่า
- หอเกียรติยศฟุตบอลอังกฤษ: 2008
- รางวัลเชิดชูเกียรติบุคคลกีฬาแห่งปีโดย บีบีซี (1): 2010


เครื่องอิสริยาภรณ์และรางวัลพิเศษอื่นๆ
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นโอบีอี Officer of the Order of the British Empire 
- ทูตพิเศษองค์กรยูนิเซฟ (2005–ปัจจุบัน)


สถิติ
- ผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดใน 4 ประเทศ (อังกฤษ, สเปน, สหรัฐฯ, ฝรั่งเศส)
- ผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 3 สมัย 
- ผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ครบ 100 นัด
- เป็นผู้เล่นคนที่ 400 ในทำเนียบนักฟุตบอลของสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
- อันดับ 3 ผู้เล่นที่ผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก 152 ครั้งจากการลงเล่น 265 นัด
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เบ็คแฮม เผยรู้ตัวว่าถึงเวลาแขวนสตั๊ดหลังโดน เมสซี่ กระชากหนี โพสต์เมื่อ 17 พฤษภาคม 2556 เวลา 12:20:37
TOP