อังเคล ดิ มาเรีย ประวัติแข้งป้ายแดงแพงสุด ของ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram jorgelinacardoso ,dimaria_22 ,เฟซบุ๊ก Manchester United ·
 

ผลงานความสำเร็จของทีมเรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2013-2014 (พ.ศ. 2556-2557) ถือว่าโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบ 12 ปีของสโมสร และหนึ่งในผู้เล่นที่มีความสำคัญ เป็นกองกลางที่คอยขับเคลื่อนเกมของยอดทีมจากแดนกระทิงดุ คงหนีไม้พ้น อังเคล ดิ มาเรีย กองกลางและ ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ที่หุบเข้ามาเล่นตรงกลางเป็นตัวจ่ายบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และล่าสุดเจ้าตัวก็ย้ายซบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมจากอังกฤษเรียบร้อย ด้วยค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์ ดังนั้น เราจะมาเปิดประวัติของนักฟุตบอลคนเก่งคนนี้กัน

อังเคล ดิ มาเรีย ประวัติส่วนตัว ก่อนค้าแข้งอาชีพ

อังเคล ดิ มาเรีย มีชื่อเต็มคือ อังเคล ฟาเบียน ดิ มาเรีย เอร์นานเดซ ( Ángel Fabián Di María Hernández) เกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 ที่เมืองโรซาริโอ จังหวัดซานตาเฟ่ ประเทศอาร์เจนตินา น้ำหนัก 70 กิโลกรัม สูง 180 เซนติเมตร ซึ่งจุดเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลของ อังเคล ดิ มาเรีย ได้รับแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลมาจาก มิกูเอล พ่อของเขาที่อดีตเคยเป็นนักฟุตบอลเยาวชน แต่ต้องล้มเลิกความอาชีพนี้เนื่องจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่เข่า ทำให้ อังเคล ดิ มาเรีย รู้ดีว่าการเล่นฟุตบอลเท่านั้น ที่จะเป็นหนทางให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตได้

อังเคล ดิ มาเรีย เริ่มเล่นฟุตบอลตามที่แพทย์แนะนำเพื่อให้เขามีให้เล่นพละกำลังที่ดี เขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรเล็ก ๆ ในบ้านเกิด กระทั่งไปเตะตาแมวมอง จนถูกดึงตัวให้เข้าร่วมทีมกับสโมสร โรซาริโอ เซ็นทรัล ในปี พ.ศ. 2538 เพื่อแลกกับค่าตัวลูกฟุตบอล 30 ลูกให้กับสโมสรเดิม อังเคล ดิ มาเรีย อยู่กับสโมสรดังกล่าวจนได้เลื่อนชั้นจากทีมเยาวชนในปี พ.ศ. 2548 และเขาก็เข้าอยู่ในทีมชุดใหญ่ 2 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนกระทั่งมีโอกาสได้มาเล่นในยุโรปครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550

อังเคล ดิ มาเรีย กับการเล่นในสโมสร เบนฟิกา

ในปี พ.ศ. 2550 ก่อนที่ อังเคล ดิ มาเรีย จะได้ย้ายไปที่สโมสรเบนฟิก้า เขาได้รับความสนใจจากสโมสร รูบิน คาซาน ในรัสเซีย และก็เกือบเซ็นสัญญากับที่นี่ แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกความตั้งใจเสียก่อน นอกจากนี้ เขายังได้รับความสนใจจากสโมสร โบคา จูเนียร์ แต่สุดท้าย อังเคล ดิ มาเรีย ก็ตัดสินใจร่วมทีมเบนฟิก้า ด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร โดยการเซ็นสัญญาครั้งนี้ เพื่อเป็นตัวแทนของ ซิเมา ซาโบรซ่า อดีตกัปตันทีมที่ย้ายไปสโมสร แอตเลติโก มาดริด

อังเคล ดิ มาเรีย สามารถทำผลงานอันยอดเยี่ยมให้กับสโมสร จนสโมสรตัดสินใจที่จะต่อสัญญากับเขาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 และเพิ่มมูลค่าการฉีกสัญญาที่ 40 ล้านยูโร ซึ่งหลังจากนั้น ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานลูกหนังของอาร์เจนตินา ก็ถึงกับออกมายกย่อง อังเคล ดิ มาเรีย ว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังของอาร์เจนตินาคนต่อไป
 
 เขาอยู่ทีมจนถึงปี พ.ศ. 2552 และตัดสินใจย้ายไปทีม เรอัล มาดริด หลังจากที่ โชเซ่ มูรินโญ่ หัวหน้าโค้ชในขณะนั้น แสดงความสนใจอย่างมากที่จะต้องการดึงเขามาร่วมถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาเบว

อังเคล ดิ มาเรีย กับความสำเร็จสูงสุดที่สโมสร เรอัล มาดริด

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553 อังเคล ดิ มาเรีย ได้ย้ายมาร่วมทีม เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวกว่า 25 ล้านยูโร บวกกับเงินได้เพิ่มเติมอีก 11 ล้านยูโร ซึ่งเขาได้นั่งเครื่องบินจากกรุงบัวเอโนส ไอเรส บินมาตรวจร่างกายที่ถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิว ทันที

อังเคล ดิ มาเรีย ลงสนามให้กับทีมเป็นครั้งแรกในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ในนัดกระชับมิตรระหว่างเรอัล มาดริด และ คลับ อเมริกา และเขาสามารถทำประตูแรกให้กับทีมในนัดกระชับมิตรที่เรอัล มาดริด เอาชนะ เออร์กูเลส ซีเอฟ 3-1 ซึ่งจากนั้น อังเคล ดิ มาเรีย ก็ลงสนามครั้งแรกในนัดอย่างเป็นทางการที่ เรอัล มาดริด เสมอกับ เรอัล มายอร์ก้า 0-0 และทำประตูแรกอย่างเป็นทางการในนัดที่เรอัล มาดริด ชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1 ซึ่งประตูที่เป็นไฮไลท์ในปีนั้นของเขา คือการทำประตู 3–0 ที่ส่งให้ เรอัล มาดริด เอาชนะ โอลิมปิก ลียง และส่งผลให้ เรอัล มาดริด เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี

ในฤดูกาล 2011-2012 (พ.ศ. 2554-2555) อังเคล ดิ มาเรีย เริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะในนัดที่ เรอัล มาดริด แพ้ เลบานเต้ 1-0 ซึ่งในนัดนั้น อังเคล ดิ มาเรีย ได้ไปทำฟาวล์ ฆวนฟราน จนทำให้ทั้งสองทีมเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของอังเคล ดิ มาเรีย ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ เลือกให้เขาเข้ามารับบทมิดฟิลด์ตัวกลาง แทนที่กาก้า และเมซุต โอซิล


ในฤดูกาล 2012-2013 (พ.ศ. 2555-2556) อังเคล ดิ มาเรีย ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีนัก แต่เขาก็ยังมีช่วงเวลาที่น่าจดจำคือ การโยนลูกไปให้กับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำประตูทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้งเขายังได้รับการต่อสัญญาจากเรอัล มาดริด ไปจนถึงปี พ.ศ. 2561

การจากไปของ โชเซ่ มูรินโญ่ และการเข้ามาของ คาร์โล อันเชล็อตติ ในฤดูกาล 2013-2014 (พ.ศ. 2556-2557) ทำให้อังเคล ดิ มาเรีย ต้องย้ายจากการเล่นในตำแหน่งปีก ไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกแทน พร้อมกับยึดครองตำแหน่งตัวจริงนี้ได้อย่างเหนียวแน่นเคียงข้าง ลูก้า โมดริช และ ชาบี้ อลอนโซ่ ซึ่งการเล่นในตำแหน่งใหม่นี้ ทำให้อังเคล ดิ มาเรีย กลายเป็นจอมแอสซิสต์ของทีม และเมื่อจบซีซั่น เขาก็ได้กลายเป็นคนที่แอสซิสต์สูงสุดด้วยจำนวน 17 ประตูด้วยกัน

ผลงานที่โดดเด่นในฤดูกาลนี้ของ อังเคล ดิ มาเรีย คือการทำเกมรุกที่จัดจ้าน โดยเฉพาะในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ผลงานของเขาโดดเด่น จนพาทีมคว้าถ้วยนี้ได้สำเร็จ และทำให้เขาได้รับรางวัล  man of the match อีกด้วย

กระทั่งวันที่ 26 สิงหาคม 2557 อังเคล ดิ มาเรีย ก็เป็นนักเตะของแมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ ด้วยค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์

 อังเคล ดิ มาเรีย กับผลงานในระดับทีมชาติ

อังเคล ดิ มาเรีย ได้รับการคัดเลือกให้ติดทีมชาติอาร์เจนตินา รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีในปี พ.ศ. 2550 และได้ลงเล่นในรายการ  2007 South American Youth Championship ในปารากวัย และฟุตบอลชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีที่แคนาดา ซึ่งในรายการนี้ อังเคล ดิ มาเรีย สามารถทำประตูได้ 3 ประตูด้วยกัน

ในปี พ.ศ. 2551  อังเคล ดิ มาเรีย ได้ถูกเรียกตัวให้ติดทีมชาติเพื่อไปทำศึกฟุตบอล ในกีฬาโอลิมปิกปี 2008 (พ.ศ. 2551) ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งเขาสามารถทำประตูได้จากการผ่านบอลของ ลิโอเนล เมสซี่ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย จนทีมชาติอาร์เจนตินา สามารถเอาชนะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไปได้ อีกทั้ง อังเคล ดิ มาเรีย ยังสามารถทำประตูชัยในนัดที่ทีมชาติอาร์เจนตินา พบกับทีมชาติไนจีเรีย และทำให้เขาสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาครองได้เป็นผลสำเร็จ

ในทีมชุดใหญ่ของอาร์เจนตินา อังเคล ดิ มาเรีย ติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในนัดที่อาร์เจนตินา พบกับปารากวัย เมื่อปี พ.ศ. 2551 และในปี พ.ศ. 2553  อังเคล ดิ มาเรีย ก็เป็นหนึ่งในรายชื่อ 23 ผู้เล่นของอาร์เจนตินา ที่ได้รับคัดเลือกให้ไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 (พ.ศ. 2553) ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งทีมอาร์เจนตินาทำผลงานได้เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น

ประตูแรกในนามทีมชาติของ อังเคล ดิ มาเรีย เกิดขึ้นในนัดกระชับมิตรที่อาร์เจนตินาพบกับไอร์แลนด์ ซึ่งอาร์เจนตินาสามารถเอาชนะไปได้ 1-0

ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 (พ.ศ. 2557) ที่บราซิล อังเคล ดิ มาเรีย ได้ร่วมเล่นกับทีมเพียงแค่ 12 ครั้ง และได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีชื่อติดทีมชาติไปร่วมฟุตบอลโลก 2014 (พ.ศ. 2557)  ซึ่งเขาเองสามารถทำประตูในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่อาร์เจนตินาพบกับสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม ใน 8 ทีมสุดท้าย ในนัดที่อาร์เจนตินาพบกับเบลเยี่ยม อังเคล ดิ มาเรีย มีอาการบาดเจ็บจากกล้ามเนื้อสะโพกฉีก ทำให้เขาถูกหามออกจากสนาม และเขาเองก็ต้องพลาดทุกเกมที่เหลือในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ซึ่งอาร์เจนตินา สามารถคว้าเพียงรางวัลรองชนะเลิศได้ในศึกครั้งนี้ หลังจากพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติเยอรมนี

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า อังเคล ดิ มาเรีย จะไม่ได้อยู่ช่วยทีมทุกนัด แต่เขาก็ยังติด 1 ใน 10 นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์อีกด้วย

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและชีวิตครอบครัวของ อังเคล ดิ มาเรีย

อังเคล ดิ มาเรีย แต่งงานกับแฟนสาว จอร์เจลิน่า ในปี พ.ศ. 2554 และในปี พ.ศ. 2556 แฟนสาวของเขาก็ได้ให้กำเนิดลูกสาว มีอา ก่อนกำหนดถึง 3 เดือน เป็นเหตุให้เด็กน้อยต้องอยู่ในห้องไอซียูที่โรงพยาบาลในกรุงมาดริด ซึ่งในขณะนั้น ทีมเรอัล มาดริด เพิ่งซื้อตัวกาเร็ธ เบล เข้ามาในทีม และทางทีมเองก็ต้องการที่จะขาย อังเคล ดิ มาเรีย ทว่าเขากลับยืนยันที่จะอยู่กับทีมต่อไป เนื่องจากปัญหาสุขภาพของลูกสาว พร้อมกับพัฒนาฝีเท้าของตัวเองขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ยึดครองตำแหน่งกองกลางตัวรุก

 โชคดีที่ มีอา สามารถผ่านพ้นวิกฤตินั้นมาได้ และในวันเกิดปีแรกของลูกสาว จอร์เจลิน่า ภรรยาของ อังเคล ดิ มาเรีย ก็ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมว่า "ไม่มีใครนอกจากพ่อและแม่ที่รู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน ที่ได้เห็นหน้าของลูกปกคลุมไปด้วยสายระโยงระยาง ไม่มีอะไรที่จะเศร้าไปว่าการกลับมาจากโรงพยาบาลด้วยวงแขนที่ว่างเปล่า น้ำตาไหลท่วมหมอนของเราทุกคืน และตอนนี้เราสามารถบอกได้ว่าหนูเป็นเด็กที่แข็งแรง สุขภาพดี และมีความสุข หนูชนะในศึกหนักครั้งนั้นเพื่อชีวิตของหนู เพื่อชีวิตของเรา"

ก่อนที่ อังเคล ดิ มาเรีย จะออกจากทีมเบนฟิก้า เขาและเพื่อน ๆ ในวัยเด็ก 6 คน ได้สักที่แขนด้วยคำว่า "To be born in El Perdriel was and will be the best thing that has ever happened to me in my life."  หรือที่แปลว่า "การได้เกิดที่  El Perdriel (ย่านคนจนในอาร์เจนติน่า) ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต และจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป"

 

ประวัติ อังเคล ดิ มาเรีย

         ชื่อ อังเคล ดิ มาเรีย
         ชื่อเต็ม  อังเคล ฟาเบียน ดิ มาเรีย เฮอร์นานเดซ  (Ángel Fabián Di María Hernández)
         วันเกิด 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531
         น้ำหนัก 70 กิโลกรัม
         ส่วนสูง 180 เซนติเมตร

สโมสร

         โรซาริโอ เซ็นทรัล
         เบนฟิก้า
         เรอัล มาดริด

เกียรติประวัติที่ได้รับ

เบนฟิก้า

         Primeira Liga: 2009–10
         Taça da Liga (2): 2008–09, 2009–10

เรอัล มาดริด

         UEFA Champions League: 2013–14
         UEFA Super Cup: 2014
         La Liga: 2011–12
         Copa del Rey : 2010–11, 2013–14
         Supercopa de España: 2012

ทีมชาติอาร์เจนตินา

         ชนะเลิศ FIFA World Youth Championship: 2007
         เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ กรุงปักกิ่ง 2008
         รองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2014

 

 

 

 

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อังเคล ดิ มาเรีย ประวัติแข้งป้ายแดงแพงสุด ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อัปเดตล่าสุด 27 สิงหาคม 2557 เวลา 16:42:08 21,157 อ่าน
TOP