
อาร์เซน่อล ถือว่าเป็นหนึ่งในทีมที่ได้รับการยกย่องว่าเจ๋งที่สุดทีมหนึ่งของโลก โดยมีกุนซือที่คุมทีมมาอย่างยาวนานอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ เป็นจอมทัพ และภายใต้การคุมทีมของเขาก็มีเหล่าพ่อค้าแข้งมากมายที่แจ้งเกิดขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน และก็มีไม่น้อยที่ไม่สามารถผลักดันตัวเองให้กลายเป็นสตาร์ได้สำเร็จ
ทว่าในครั้งนี้เราจะมาพูดถึงผู้เล่นที่ได้รับการยกย่องว่าแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวจากการปลุกปั้นของ อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ชาวฝรั่งเศส และผู้เล่นที่ว่านี้ใคร ๆ ก็น่าจะเดาออกจะต้องมีผู้เล่นอย่าง เธียร์รี่ อองรี ที่กลายเป็นตำนานของทีมอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ เดนนิส เบิร์กแคมป์ กองหน้าที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าคลาสสิกแบบสุด ๆ
20 ผู้เล่นที่เจ๋งที่สุดในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์
20) นิโกล่าส์ อเนลก้า (1997-99)
อดีตกองหน้าจอมฉาวที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ซื้อตัวเขามาจาก เปแอสเช ด้วยค่าตัวเพียงน้อยนิด 500,000 ปอนด์ ทว่าอีก 2 ปีให้หลังเขากลับย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวสุดมหาศาลกว่า 22.5 ล้านปอนด์ หลังจากซัดไป 17 ประตูให้กับไอ้ปืนใหญ่ แต่ที่จริงแล้วการที่เขาทำประตูได้มากมายขนาดนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเขาได้ลงยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าโดยมี "ไอซ์เบิร์ก" เดนนิส เบิร์กแคมป์ คอยหาจังหวะเจ๋ง ๆ จ่ายบอลให้
19) อเล็กซิส ซานเชซ (2014-ปัจจุบัน)
กองหน้าจอมพลิ้วชาวชิลี ถูก อาร์แซน เวนเกอร์ ดึงตัวมาจาก บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวมหาศาล ทว่าเขาก็ลงสนาม และตอบแทนค่าตัวนั้นได้อย่างเหมาะสมเลยทีเดียว จากตอนแรกที่ได้ลงเล่นในตำแหน่งริมเส้นล่าสุดเขาได้รับบทบาทกองหน้าตัวเป้าของทีมไปแล้วเรียบร้อย และก็หาจังหวะทำประตูได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ จากความเร็วที่เขามีบวกกับเทคนิคอันยอดเยี่ยม
18) กิลแบร์โต้ ซิลวา (2002-08)
กองกลางอารมณ์ศิลปินผู้ซึ่งชอบเล่นอูคูเลเล่เป็นชีวิตจิตใจ ได้ลงเล่นอย่างจริงจังด้วยการจับคู่ในแดนกลางกับ ปาทริค วิเอร่า เมื่อปี 2004 แม้ว่าจะย้ายมาตั้งแต่ปี 2002 ก็ตาม โดยจุดเด่นของมิดฟิลด์บราซิเลียนรายนี้อยู่ที่การเข้าสกัดบอลที่แม่นยำ และการวิ่งขึ้น-ลงได้อย่างไม่มีหมด ซึ่งหากจะให้เปรียบแบบเห็นภาพชัด ๆ เขาคือต้นแบบของ เชสก์ ฟาเบรกาส เลยก็ว่าได้
17) โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (2004-12)
สำหรับ อาร์วีพี แฟน ๆ ปืนใหญ่หลาย ๆ รายอาจจะมองว่าเขาคือ จูดาส คือ คนทรยศ แต่หากมองย้อนกลับไปในผลงานตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่รับใช้ทีมก็ต้องถือว่าเด็ดขาดจริง ๆ จากเด็กหนุ่มที่ย้ายมาด้วยตำแหน่งปีกซ้าย ทว่าการจบสกอร์นั้นแม่นยำอยู่ในระดับ 9 ส่งผลให้เขาถูกดันขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าอย่างจริงจัง และในช่วงระหว่างเดือนมกราคมปี 2011 ถึงเดือนพฤษภาคมปี 2012 เขาลงสนามไป 71 นัด ยิงได้ 58 ประตู ก่อนจะได้รับตำแหน่งกัปตันทีมภายหลังการจากไปของ เชสก์ ฟาเบรกาส