ฟุตบอลโลก 2018 ปิดฉากลงไปแล้วโดยสมบูรณ์ หลังจากนี้ก็ต้องรออีก 4 ปีกว่าจะถึงศึก ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2022 กาตาร์ หรือความจริงแล้ว แฟนบอลอย่างเรา ๆ ก็เตรียมตัวกลับมารอดูฟุตบอลลีกยุโรป ซึ่งก็กำลังอยู่ในช่วงพรีซีซั่น และจะเปิดฤดูกาลใหม่ในอีกราว ๆ 1 เดือนข้างหน้า
แต่ก่อนที่ฟุตบอลโลกหนนี้จะผ่านไปกลายเป็นความทรงจำ นี่คือตัวเลขสถิติที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาราว ๆ 1 เดือนที่รัสเซีย และมันจะถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกต่อไป
รวมสถิติน่าสนใจใน ฟุตบอลโลก 2018
169 - ฟุตบอลโลก 2018 มีการทำประตูกันทั้งหมด 169 ประตู (เฉลี่ยต่อนัด 2.64) เป็นสถิติมากที่สุดอันดับ 2 นับตั้งแต่การแข่งขันเปลี่ยนมาเป็น 32 ปี โดยสถิติยิงกันมากที่สุดคือศึก ฟร้องซ์ 98 กับ บราซิล 2014 ที่มีประตูเกิดขึ้น 171 ประตูเท่ากัน
43 - ฟุตบอลโลกครั้งนี้มีการทำประตูจากลูกตั้งเตะถึง 73 ครั้งจาก 169 ประตู นับเป็น 43% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของฟุตบอลโลก
22 - มีการทำประตูจากจุดโทษถึง 22 ครั้งซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่มีการแข่งขันมาเช่นกัน
9 - นอกจากนี้ยังมีการยิงประตูเกิดขึ้นหลังจากนาทีที่ 90 มากถึง 9 ประตู (ไม่นับการเล่นต่อเวลาพิเศษ) นี่ก็เป็นสถิติใหม่ของฟุตบอลโลกด้วย
4 - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นทำเนียบเป็นผู้เล่นคนที่ 4 ที่ยิงประตูได้ในมหกรรมฟุตบอลโลกถึง 4 ครั้ง (2006, 2010, 2014 และ 2018) ต่อจาก เปเล่, อูเว่ ซีเลอร์ และ มิโรสลาฟ โคลเซ่
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พาโปรตุเกสคว้าแชมป์เหมือนตอน ยูโร 2016 ไม่ได้ แต่ก็ฝากผลงานไว้ 4 ประตู
45 ปี 161 วัน - เอสซัม เอล-ฮาดารี่ นายทวารวัยดึกทีมชาติอียิปต์สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ลงเล่นฟุตบอลโลก ทำลายสถิติเดิมของ ฟาริด มอนดรากอน นายทวารรชาวโคลอมเบีย และทีเด็ดคือ เอล-ฮาดารี่ ยังโชว์เซฟจุดโทษได้อีกต่างหาก
U-20 - อย่างที่เราทราบกัน คีแล็ง เอ็มบ๊าปเป้ เจ้าของรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์นี้ ได้บันทึกชื่อตัวเองในฐานะผู้เล่นคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ยิงได้ 2 ประตูใน 1 แมตช์ (เกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฝรั่งเศส 4-2 อาร์เจนตินา) ในขณะที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี ก่อนหน้านี้เคยมีคำเดียวที่ทำได้ก็คือ ราชันลูกหนังโลก เปเล่
23 - ฟุตบอลโลกครั้งนี้ มีโค้ช 23 คนที่ได้ทำหน้าที่คุมทีมเล่น เวิลด์ คัพ เป็นครั้งแรก และคนที่ทำผลงานดีที่สุดก็คือ ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือทีมชาติโครเอเชีย
3 - ดิดิเยร์ เดส์ช็องป์ส คือคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ได้ทั้งในฐานะผู้เล่นและโค้ช ต่อจาก มาริโอ ซากัลโล่ ของบราซิล และ ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ ของเยอรมนี เดส์ช็องป์ส เป็นกัปตันทีม "ตราไก่" นำเพื่อนร่วมทีมชูถ้วยแชมป์ใน ฟุตบอลโลก 98 เมื่อ 20 ปีก่อน
ไอ้หนูเอ็มบ๊าปเป้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวไม่ใช่ในฐานะดาวรุ่ง แต่ในฐานะที่กำลังจะก้าวไปเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก
3 - ขณะที่ โยอาคิม เลิฟ กลายเป็นเทรนเนอร์ทีมแชมป์โลกคนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ที่นำทีมกลับมาป้องกันแชมป์แล้วตกรอบแรก ก่อนหน้านี้ทั้ง มาร์เชลโล่ ลิปปี้ (อิตาลี) และ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ (สเปน) ก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน
0 - ชัยชนะของรัสเซียที่ถล่มซาอุดีอาระเบีย 5-0 ในเกมเปิดสนาม ทำให้ผลงานของชาติเจ้าภาพในการลงเล่นเกมประเดิมสนามยังคงเป็นสถิติไร้พ่ายต่อไปตั้งแต่บอลโลกเตะกันมา 21 ครั้ง (ชนะ 16 เสมอ 6 - ปี 2002 มีเจ้าภาพ 2 ทีม)
7 - ทีมชาติเม็กซิโก เป็นทีมที่ทำผลงานสม่ำเสมอมากที่สุดจริง ๆ เพราะนี่เป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันนับตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 1994 ที่พวกเขาจบการแข่งขันที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
7 - เช่นเดียวกับ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านเข้าถึงรอบน็อกเอาต์ได้ทั้งหมด 7 ครั้งและพวกเขายังไม่เคยเก็บชัยชนะได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
แฮร์รี่ เคน นำทีมชาติอังกฤษทำผลงานดีที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี
9 - ทีมชาติอังกฤษ ทำประตูจากลูกตั้งเตะได้ 9 ครั้งเป็นสถิติมากที่สุดนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1966
1 - ปอล ป็อกบา คือผู้เล่นคนแรกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก และเป็นผู้เล่นจาก พรีเมียร์ลีก คนแรกในรอบ 20 คนก่อนหน้านี้คือ เอ็มมานูเอล เปอตีต์ ที่ยิงให้ ฝรั่งเศส ชนะ บราซิล 3-0 เมื่อปี 1998
1 - มาริโอ มานด์ซูคิช คือผู้เล่นคนที่ 2 ที่ยิงประตูได้และทำเข้าประตูตัวเองในเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก ก่อนหน้านี้ เอร์นี่ บรันด์ทส ของฮอลแลนด์เคยทำเหมือนกันในปี 1978
4-2 - สกอร์ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกที่ยิงกันมากที่สุดอันดับสองเท่ากับปี 1930, 1938 และ 1966 ส่วนเกมชิงชนะเลิศที่มีการยิงกันมากที่สุดคือ บราซิล 5-2 สวีเดน เมื่อปี 1958
ข้อมูลจาก skysports.com
ภาพ AFP