แฟนบอลชาวไทย หลายกลุ่มเกิดอาการมึนงงกับรูปแบบการเล่นของทีมชาติไทยในสไตล์ของ มิโลวาน ราเยวัช โดยหลังเกมที่ไทยทำได้แค่เสมอกับฟิลิปปินส์นั้น ซึ่งมีหลายกระแสออกมาชี้ว่าเป็นการแข่งขันที่น่าเบื่อมาก ๆ เพราะทีมไทยไม่พยายามจะบุกเลย แต่บางส่วนก็มองว่าเป็นเพราะรูปแบบการเล่นที่รัดกุม และด้วยสภาพสนามที่ค่อนข้างย่ำแย่เลยทำให้ผลงานของทัพช้างศึกออกมาแบบนี้
ทีมชาติไทย บุกไปเสมอกับ ฟิลิปปินส์ 1-1 ในการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 รอบแบ่งกลุ่ม แม้ว่าไทยจะเป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน ทว่าสุดท้ายแล้วก็มาโดนตีเสมอจนได้ ซึ่งลูกตีเสมอก็ถือว่ามีดวงพอสมควรเลยสำหรับเจ้าบ้าน แต่ที่เป็นประเด็นของแฟนบอลชาวไทยนั่นก็คือ สไตล์การเล่นของทัพช้างศึกในเกมนี้ช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน
โดยเกมนี้เหล่าแฟนบอลต่างพากันสงสัยว่าแท็กติกจริง ๆ ของ มิโลวาน ราเยวัช คืออะไรกันแน่ระหว่าง รับแล้วรอสวน หรือว่า รับแล้วรอรับ เพราะว่าตัวเลขการครองบอลที่ออกมานั้นมันช่างต่างกันเหลือเกินคือ ฟิลิปปินส์ ครองบอล 60% ส่วนทีมชาติไทยครองบอลเพียงแค่ 40% เท่านั้น แถมเรื่องจังหวะการเข้าทำประตูนั้น ดิ อาซกาล ยิงไปทั้งสิ้น 12 ครั้ง ส่วน ทัพช้างศึก โอกาสเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น และยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียว ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่เป็นประตู
แน่นอนว่าผลงานที่ออกมานั้นไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจของแฟนบอลมากนัก ซึ่งส่วนมากก็มองว่าการไปเจอกับ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีแรงกิ้งค์ไม่ได้ต่างกับ ไทย มากนัก และมีทางบอลที่สูสีจำเป็นต้องรับมากเว่อร์ขนาดนั้นไหม ? ขณะที่อีกส่วนมองว่า มันเป็นสไตล์การทำทีมของ มิโล่ อยู่แล้วที่เน้นผลการแข่งขันเป็นหลัก หรือบ้างก็มองว่า ไทยเรากำลังซ้อมเล่นรับแล้วรอสวนให้เป๊ะเพื่อเอาไปใช้ในศึกเอเชียน คัพ 2019 ต่อไป แต่ที่แน่ ๆ อย่างเห็นกันคือ สภาพสนามที่ดูแล้วไม่อำนวยเลย แต่ยังไงซะก็ต้องยอมรับว่าอีกฝั่งเขาก็เล่นสนามเดียวกับเรา แต่อาจจะคุ้นชินกับสภาพมากกว่าเท่านั้นเอง
ทั้งนี้ ในเกมสุดท้ายเพื่อหาแชมป์กลุ่ม และรองแชมป์กลุ่มเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศนั้น ทีมชาติไทย ยังดูได้เปรียบนิด ๆ เมื่อได้ลงเล่นในบ้านตัวเองพบ สิงคโปร์ ส่วน ฟิลิปปินส์ ต้องออกไปเยือน อินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าเป็นงานหนักใช้ได้ทีเดียว
ภาพข่าว : facebook.com/changsuek