ในช่วงปีที่ผ่านมาวงการฟุตบอลไทยจะบอกว่าเดินหน้าไปข้างหน้าบ้างไหม ก็อาจจะเป็นแง่ในเรื่องของนักเตะเสียมากกว่า เพราะว่า 4 นักเตะไทยอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ต่างได้โอกาสย้ายไปค้าแข้งยังต่างแดนกันหมด โดย เมสซี่เจ ต้องบอกว่านี่คือปีทองของเขาเลย ส่วน กวินทร์ ก็ได้ย้ายไปเล่นในยุโรปสมใจอยาก ขณะที่ มุ้ย กับ อุ้ม ก็มีโอกาสได้ไปสัมผัสเกมของเจลีกเสียที
แน่นอนว่ามีเรื่องดี ๆ ก็ต้องมีเรื่องที่แย่ ๆ บ้าง เพราะว่าในปีนี้วงการฟุตบอลไทยต้องมาเสียบุคคลากรที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของการพัฒนาฟุตบอลไทยตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนไปถึงระดับอินเตอร์เลย นั่นก็คือการจากไปของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ปธ.สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวตกที่ประเทศอังกฤษ นอกจากนั้น ทีมชาติไทย เอง ในปีนี้ก็เรียกได้ว่าไม่มีแชมป์อะไรติดมือให้แฟนบอลได้ยิ้มแย้มบ้างเลย
เหตุการณ์สำคัญฟุตบอลไทย 2018
- ธีรศิลป์ แดงดา ควง ธีราทร บุญมาทัน ลุย เจลีก
ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน 2 ดาวเตะทีมชาติไทย ผู้ที่ใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้ไปเล่น เจลีก กับเขาบ้าง ในที่สุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทั้ง 2 คนก็ได้มีโอกาสทำตามอย่างที่ใจหวังเมื่อ ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า ได้มาขอยืมตัว มุ้ย ไปเล่นให้ในโควต้าอาเซียน เช่นเดียวกับทาง อุ้ม ที่ วิซเซล โกเบ ขอยืมตัวไปใช้งานเช่นกัน แม้ว่าจะไม่มีการซื้อขาดเกิดขึ้น แต่ว่าทั้งสองรายต่างก็ได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับมากมายมายเช่นกัน
- กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ โบยบินสู่ลีกยุโรปดั่งใจหวัง
เจ้าตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารมือ 1 ทีมชาติไทย ได้รับโอกาสให้ย้ายไปลงเล่นยังลีกรองของเบลเยียมกับทาง โอเอช ลูเวิน ด้วยค่าตัวที่เรียกได้ว่าแพงที่สุดของบรรดานักเตะทีมชาติไทยทั้งหมด ซึ่งนี่คือสิ่งที่ ตอง หวังมาตลอดว่าสักครั้งหนึ่งอยากจะลองไปวัดฝีมือตัวเองที่ยุโรปดูบ้าง และมีความเป็นไปได้ว่า ลูเวิน จะไม่ใช่ทีมสุดท้ายของ ตอง ในเวทียุโรป เพราะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าตัวได้รับ เวิร์ก เพอร์มิต จากนั้นโอกาสที่จะออกไปยังประเทศอื่นในยุโรปก็มีสูงทีเดียว บางทีอาจจะเป็น เลสเตอร์ ก็เป็นได้
- ปีทองของ เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์
คอนซาโดเล ซัปโปโร ได้ตกลงซื้อตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไปร่วมทีมอย่างถาวร ตั้งแต่สัญญายืมตัว 1 ปีครึ่งยังไม่หมดลง นั่นเป็นเพราะว่า ดาวเตะร่างเล็ก สามารถเค้นฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเขาออกมาได้แบบไร้ที่ติ และนั่นคือสิ่งที่ ยอดทีมจากเมืองเหนือของญี่ปุ่น คิดไม่ผิด เพราะว่าตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา เจ ช่วยทีมได้อย่างมากมาย และได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอยู่ตลอด ก่อนจะพาทีมจบการแข่งขันได้ที่อันดับ 4
แถมในท้ายที่สุดแล้วทาง คอนซาโดเล ซัปโปโร ยังได้เลือกให้ เจ เป็นผู้เล่น MVP หรือ ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำปีของสโมสรอีกด้วย แต่สิ่งที่การันตีคุณภาพของดาวเตะทีมชาติไทยได้เป็นอย่างดีคือ เขาได้รับเลือกให้ติดเป็น 1 ใน 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลขอ เจลีก อีกด้วย ซึ่งนี่คือสิ่งที่นักเตะไทยคนแรกสามารถทำได้สำเร็จ
และด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ทำให้ทาง ซัปโปโร ต้องรีบตั้งค่าตัว เจ ให้มากกว่าเดิมเพื่อเป็นการกันท่าบรรดาทีมต่าง ๆ ที่ต้องกันตาเป็นมัน โดยทาง ซัปโปโร ได้ตั้งค่าตัวของเจเอาไว้ในตอนนี้กว่า 200 ล้านบาทเลยทีเดียว
- ทีมชาติไทย ตกรอบแรก เอเชียน เกมส์ แบบไม่ชนะใครเลย
สำหรับผลงานของทีมชาติไทยในปีนี้อาจจะไม่มีอะไรโดดเด่นเลยจริง ๆ เพราะว่าแม้กระทั่งรายการที่เราอาจจะหวังได้ไปถึงรอบน็อกเอาต์กลับต้องมาร่วงตกรอบแบบผลงานสุดห่วย เพราะเพียงแค่เกมเปิดสนามก็พ่ายให้ทีมรองบ่อนอย่าง บังคลาเทศ ไปแบบพลิกความคาดหมายแล้ว และสุดท้ายด้วยผลงานที่ไม่กระเตื้องเลย ส่งผลทีม ทีมชาติไทยยู-23 ปีต้องกระเด็นตกรอบแรกไปแบบไม่ชนะใครเลย ซึ่งถือว่าย่ำแสุด ๆ
- สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ตัดสินใจอำลาทีมชาติไทย
ตี๋ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ยอดมือกาวฝีมือดีของไทย ได้ตัดสินใจว่าเขาจะยุติบทบาทในนามทีมชาติลงเอาไว้เพียงเท่านี้ หลังรับใช้ชาติมาอย่างยาวนานกว่า 14 ปี เนื่องจากว่าอยากจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรุ่นน้องได้สัมผัสเกมระดับชาติมากยิ่งขึ้น โดยเกมอำลา ตี๋ นั้นได้จัดขึ้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสโมสรต้นสังกัดของเขานั่นเอง โดยเกมนั้น สินทวีชัย ได้ลงเล่น 14 นาที ตามช่วงเวลาที่เขารับใช้ชาติมาตลอด และทีมชาติไทย เอาชนะ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ไปได้ 1-0
- การจากไปของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา
คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ปธ.สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่พยายามจะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง ทั้งการเอาเด็กไทยฝีเท้าดีไปขัดเกลายังอะคาเดมี่ของเลสเตอร์ รวมไปถึงการสร้างโครงการดี ๆ มากมายให้กับเยาวนชนไทย แต่ว่าโชคร้ายที่ท่านต้องมาจากไปก่อนเวลาอันควร หลังประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก
- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผงาดแชมป์ไทยลีกสมัย 6
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากสามารถพิชิตแชมป์ไทยลีกได้เป็นสมัยที่ 6 และนี่คือสโมสรแรกในประเทศไทยที่คว้าแชมป์ลีกได้ถึง 6 สมัย
ขณะที่ การท่าเรือ กลายเป็นทีมที่สร้างผลงานได้เกินความคาดหมายหลังจากทะยานขึ้นมาจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 3 ของตารางการแข่งขัน
- บีจี เอฟซี ตกชั้นจากไทยลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี
การแข่งขันไทยลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา เกิดเรื่องที่ไม่น่าเชื่อขึ้นมาจนได้ เพราะว่าทีมเก่าแก่ และมีงบประมาณสูงตลอดทุกปีอย่าง บีจี เอฟซี มีอันต้องตกชั้นไปเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่เข้ามาเทกโอเวอร์ธนาคารกรุงไทย
โดยผลงานในปีนี้ของ บีจี เอฟซี ถือว่าไม่ค่อยดีมาตั้งแรกเริ่ม แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนชื่อสโมสรจากบางกอกกล๊าส มาเป็น บีจี เอฟซี เปลี่ยนสีประจำสโมสรจากสีเขียวมาเป็นสีฟ้า หรือแม้ประทั่งเปลี่ยนหญ้าเทียมมาเป็นหญ้าจริงก็ตาม อีกทั้งยังทุ่มทุนดึง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มาร่วมทีม แต่สุดท้ายในฤดูกาลหน้า พวกเขาต้องลงไปตั้งไข่กันใหม่ใน ไทยลีก 2
- ทีมชาติไทย กระเด็นตกรอบรองชนะเลิศเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ
ทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันซูซูกิ คัพ ในฐานะแชมป์เก่า และมาเพื่อป้องกันแชมป์ พร้อมกับความหวังมากมายที่แฟนบอลฝากเอาไว้ หลังจากปีนี้ฟุตบอลไทยยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง ซึ่งผลงานออกสตาร์ทจัดได้ว่าดูดีหลังไล่ต้อนติมอร์ เลสเต ไปแบบขาดลอย ทว่ามันเหมือนกับลูกดอกอาบยาพิษที่แฟน ๆ ได้รับ เพราะพิษมันค่อย ๆ เริ่มกระจายจนเชื่อว่าไทยเราจะเอาแชมป์มาครองได้
แต่สุดท้ายแล้วเมื่อมาถึงรอบรองชนะเลิศ เกมแรก ไทย ทำได้แค่บุกออกยันเสมอกับ มาเลเซีย แบบไม่คิดจะเอาชนะเลยด้วยซ้ำ โดยมองเพียงแค่ไม่เสียประตู และไม่แพ้กลับบ้าน เกมรุกของไทยหายไป และได้ผลลักธ์ที่ดีกลับมา แต่ในเกมที่สองในบ้านตัวเอง ไทย ก็ยังไม่ชนะ มาเลเซีย อีก และเสมอกันไป 2-2 ซึ่งแน่นอนว่าสกอร์นี้ไทยแพ้อเวย์โกลตกรอบไป จนกลายเป็นประเด็นขึ้นมาว่า มิโลวาน ราเยวัช ทำไมถึงต้องเล่นแบบกลัวมาเลเซียขนาดนี้
- แฟนบอลไทย งง แท็กติก มิโลวาน ราเยวัช
ด้วยแท็กติกของ มิโลวาน ราเยวัช นั้น แม้แต่นักบอกเองยังบ่นว่าเล่นรับมากเกินไป แต่ทุกคนก็เข้าใจดี และเป็นมืออาชีพจึงทำตามที่โค้ชสั่ง แต่สุดท้ายจากเกมที่ไทยตกรอบ แฟนบอลงงว่าทำไม มิโล่ ถึงต้องวางแผนได้กลัวมาเลเซียขนาดนี้ เพราะว่าตามแผนแล้วคือเราคือที่ 1 ของอาเซียน ซึ่งเจอทีมระดับนี้มันต้องไล่ต้อน ไม่ใช่ปล่อยให้เขามาไล่ต้อนเรา แถมเล่นในบ้านกลับเล่นแบบไม่เอาเลยแบบนี้ เป็นผลงานที่แฟนบอลไทยรับไม่ได้
หลาย ๆ คนบอกว่าถ้าจะแพ้ ให้สู้เต็มที่แล้วแพ้ยังดีกว่าไม่สู้แล้วดันแพ้อีก พร้อมกระแสให้ปลดออก แต่ว่านายกสมาคมฟุตบอลมองว่าไม่จำเป็นต้องไล่ออกสักหน่อย เพราะตามสัญญาคือชี้วัดผลงานกันที่ เอเชียน คัพ 2019 และหากว่าไทยที่ได้โอกาสเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี มีอันต้องตกรอบก่อนเวลาอันควร จากนั้นจึงจะมีการปลดอีกทีหนึ่ง
และนี่คือการประมวลเหตุการณ์ของวงการฟุตบอลไทยตลอดช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีทั้งเรื่องดี และร้ายผสมกันไป แต่แฟนบอลคงรอไม่นานที่จะได้กลับมาจับตาผลงานของทีมชาติไทยอีกครั้ง เพราะว่า เอเชียน คัพ 2019 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และทีมชาติไทยจะเริ่้มเกมแรกในวันที่ 6 มกราคม 2562 โดยจะพบกับ อินเดีย
ภาพข่าว : AFP, facebook.com/BuriramUnitedFC, facebook.com/changsuek, facebook.com/BangkokGlassFC, facebook.com/consadole