ข่าวใหญ่ของวงการฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดสัปดาห์นี้ก็คือการย้ายทีมของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่กำลังจะอำลา เลสเตอร์ ซิตี้ ไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากตอนนี้ทั้งสองสโมสรตกลงค่าตัวกันได้แล้ว เหลือแค่เจรจาเงื่อนไขส่วนตัวของนักเตะและเซ็นสัญญาให้เรียบร้อย
ค่าตัวของ แม็กไกวร์ อยู่ที่ 80 ล้านปอนด์และเมื่อการย้ายทีมเรียบร้อย เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 26 ปี จะกลายเป็นกองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก แซงหน้า เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ เมื่อ 18 เดือนก่อน
สำหรับ แม็กไกวร์ ย้ายจาก ฮัลล์ ซิตี้ มาเล่นให้ เลสเตอร์ เมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัวเพียง 12 ล้านปอนด์ (พร้อมเงื่อนไขจ่ายเพิ่มเป็น 17 ล้านปอนด์) ซึ่งนั่นหมายความว่า การขายให้ แมนยู ครั้งนี้ทีม "เดอะ ฟ็อกซ์" ทำกำไรได้เกือบ 7 เท่าในช่วงเวลา 2 ปี
และหากย้อนไปในเวลาแค่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีข้อมูลน่าสนใจที่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เลสเตอร์ ขายนักเตะทำกำไรได้มหาศาลแบบนี้ แต่ยังมีทั้ง เอ็นโกโล ก็องเต้, แดนนี่ ดริ้งค์วอเตอร์ และ ริยาด มาห์เรซ ที่ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้เล่นที่ซื้อมาถูกขายไปอย่างแพง เรียกว่าเป็นการซื้อขายที่ยอดเยี่ยมของ เลสเตอร์ จริง ๆ
4 นักเตะที่ เลสเตอร์ ซื้อมาถูกแต่ขายได้กำไรมหาศาล
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ซื้อมา 5.6 ล้านปอนด์ ขายไป 32 ล้านปอนด์
ก็องเต้ มาร่วมทีม เลสเตอร์ แบบโนเนม โดยย้ายจาก ก็อง ในฝรั่งเศส เมื่อปี 2015 แต่ใช้เวลาไม่นานก็สร้างชื่อให้ตัวเองกลายเป็นผู้เล่นที่ถูกยกให้เป็นกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก และบอกได้เลยว่าฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ ก็องเต้ นี่แหละที่มีส่วนอย่างมากในการพาทีมสร้างตำนานคว้าแชมป์ลีกมาครองได้แบบช็อกโลก
ฟอร์มโดดเด่นขนาดนี้ทำให้ ก็องเต้ ชีวิตโดดพรวดก้าวไปติดทีมชาติฝรั่งเศสได้ไปเล่น ยูโร 2016 และที่สุดแล้ว เก่งขนาดนี้เลยได้อยู่กับ เลสเตอร์ แค่ปีเดียว เชลซี ก็มาขอซื้อไปด้วยราคา 32 ล้านปอนด์
แดนนี่ ดริ้งค์วอเตอร์ ซื้อมา 8 แสนปอนด์ ขายไป 35 ล้านปอนด์
หลังจากไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ ดริ้งค์วอเตอร์ ถูก เลสเตอร์ ดึงมาร่วมทีมตั้งแต่เมื่อปี 2012 ในขณะที่ยังเล่นอยู่ในลีก แชมเปี้ยนชิพ โดยค่าตัวในตอนนั้นไม่มีการเปิดเผยแต่คาดว่าน่าจะประมาณ 8 แสนปอนด์เท่านั้น
จากนั้นเขาก็กลายเป็นนักเตะตัวหลักของ เลสเตอร์ มาตลอดจนถึงช่วงเวลามหัศจรรย์ที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ขณะที่ ดริ้งค์วอเตอร์ ก็ฟอร์มขึ้นจนก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษด้วย และในที่สุดก็ได้ย้ายตาม ก็องเต้ ไปเล่นกับ เชลซี ในปี 2017
ริยาด มาห์เรซ ซื้อมา 4.5 แสนปอนด์ ขายไป 60 ล้านปอนด์
มาห์เรซ เป็นอีกหนึ่งแข้งที่ เลสเตอร์ ซื้อมาตั้งแต่ตอนเล่นอยู่ในลีก แชมเปี้ยนชิพ โดยดึงมาจาก เลอ อาร์ฟ ในฝรั่งเศส ด้วยค่าตัวแค่หลักแสนปอนด์ แล้วจากนั้นก็พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาพร้อม ๆ กับทีมและเป็นสมาชิกคนสำคัญในชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก
จากนั้นปีกทีมชาติอัลจีเรียกลายเป็นผู้เล่นที่เนื้อหอมสุด ๆ มีข่าวกับทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรป และสุดท้ายก็ได้ย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2018 ค่าตัวสูงถึง 60 ล้านปอนด์
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซื้อมา 12 ล้านปอนด์
ว่าที่เจ้าของสถิตินักเตะที่ขายได้ค่าตัวสูงสุดของ เลสเตอร์ ย้ายมาจาก ฮัลล์ เมื่อสองปีก่อนและเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมมาตลอด ฟอร์มดีวันดีคืนจนก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษแถมยังโชว์ฟอร์มโดดเด่นสุด ๆ ใน ฟุตบอลโลก 2018 ด้วย
ในช่วงสองฤดูกาล แม็กไกวร์ ลงสนามให้ เลสเตอร์ ทั้งหมด 76 นัด ยิงได้ 5 ประตูรวมทุกรายการ
ข้อมูลจาก twitter.com/bet365
ภาพ AFP