ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกความเร็วสูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงอารมณ์ค้างตามไปหาเรื่อง โจ โกเมซ กองหลัง ลิเวอร์พูล ต่อในแคมป์ ทีมชาติอังกฤษ จากรายงานของ thesun.co.uk เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562
ในศึกบิ๊กแมตช์ที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านอัด แมนซิตี้ 3-1 ช่วงท้ายเกมมีจังหวะที่ สเตอร์ลิง ปะทะกับ โกเมซ ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกัน แต่หลังจากจบเกมก็มีรายงานว่าทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน และคืนดีกันเรียบร้อย
ต่อมาทั้ง สเตอร์ลิง และ โกเมซ ถูกเรียกติด ทีมชาติอังกฤษ ชุดสู้ศึก ยูโร 2020 รอบคัดเลือก โดยทั้งคู่พบกันที่ห้องอาหารศูนย์ฝึกเซนต์ จอร์จ ปาร์ค ของทีมชาติอังกฤษ ซึ่งทาง กองหลังหงส์แดง พยายามทักทาย ปีกเรือใบสีฟ้า แบบเป็นกันเองตามปกติ
แต่ทว่า สเตอร์ลิง ออกอาการหัวร้อนเข้าไปบีบคอของ โกเมซ ร้อนถึงเพื่อนร่วมทีมต้องเข้าไปห้ามทัพกันยกใหญ่ งานนี้กลายเป็นเรื่องเป็นราวจนทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ประกาศว่า ดาวเตะวัย 24 ปี จะถูกดรอปในเกมกับ มอนเตเนโกร ในวันที่ 14 พฤศจิกายน นี้
โดย FA ได้ออกแถลงกาณ์ระบุว่า "เอฟเอ ยืนยันว่า ราฮีม สเตอร์ลิง จะไม่ได้ลงสนามในเกมยูโร 2020 รอบคัดเลือกกับ มอนเตเนโกร อันเป็นผลมาจากความไม่สงบในพื้นที่ทีมส่วนตัวที่ เซนต์ จอร์จ ปาร์ค แต่เขาจะอยู่กับทีมต่อไป"
ส่วนทาง แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ กล่าวว่า "นี่คือหนึ่งในความท้าทาย และเป็นจุดแข็งที่ยอดเยี่ยมสำหรับเราคือ เราสามารถแยกการแข่งขันของสโมสรออกจากทีมชาติ โชคไม่ดีที่อารมณ์ของเกมมันยังใหม่อยู่"
"ความรู้สึกของผมคือการตัดสินใจที่เราทำไปนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องสำหรับทีม ขณะที่การตัดสินใจนี้ได้ทำตามข้อตกลงที่มีร่วมกันทั้งทีม มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องสนับสนุนผู้เล่น และให้ความสำคัญกับเกมในคืนวันพฤหัสบดี"
ขณะที่ล่าสุดทาง ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทาง อินสตาแกรม ส่วนตัว โดยยอมรับผิดที่ตัวเองอารมณ์ร้อนเกินไป และยืนยันว่าเคลียร์ใจกับทาง โจ โกเมซ เรียบร้อยแล้ว
ภาพจาก AFP