ย้อนดู 12 นักเตะฮอลแลนด์ที่เคยค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีทั้งประสบความสำเร็จอย่างมาก และประสบความล้มเหลวเช่นกัน จะมีใครบ้างนั้นไปติดตามกัน
หลังจากที่ แมนยู บรรลุข้อตกลงมูลค่า 40 ล้านปอนด์ กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม คว้าตัว ดอนนี ฟาน เดอ เบค มิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์มาร่วมทีมได้สำเร็จ ซึ่งเหลือเพียงแค่การชูเสื้อเปิดตัวอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพราะแข้งใหม่ป้ายแดงยังติดภารกิจโปรแกรมบอลทีมชาติกับฮอลแลนด์อยู่
การย้ายมาร่วมทีมปีศาจแดงของ ฟาน เดอ เบค จะทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะดัตช์คนที่ 13 ในประวัติศาสตร์ของทีมดัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกด้วย แต่จำกันได้ไหมว่า 12 คนก่อนหน้านี้มีใครกันบ้างเรามาย้อนดู 12 นักเตะฮอลแลนด์ที่เคยค้าแข้งกับ แมนยุ ใครรุ่ง ใครร่วงมาดูกัน
อาร์โนลด์ เมอร์เฮน (Arnold Muhren)
แฟนบอลยุคก่อนอาจจะรู้จัก อาร์โนลด์ เมอร์เฮน ในบทบาทของการเป็นคนที่แอสซิสต์ให้ มาร์โก แวน บาสเทน ทำประตูในเกมที่ทีมชาติฮอลแลนด์พบกับสหภาพโซเวียตในโปรแกรมบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในปี 1988 แต่กองกลางชาวดัตช์ก็ประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งในประเทศอังกฤษเช่นกัน
หลังจากที่ เมอร์เฮน คว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ กับ อิปสวิชทาวน์ เมื่อปี 1981 ก่อนย้ายมาร่วมทีม แมนยู โดยเจ้าตัวใช้เวลาในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 3 ปีด้วยกัน และลงเล่นไปทั้งหมด 98 นัด ซึ่งเจ้าตัวอยู่ในทีมปีศาจแดงชุดที่เอาชนะ ไบร์ทตัน เมื่อปี 1983 คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ
ยอร์ดี้ ครัฟฟ์ (Jordi Cruyff)
.jpg)
ครั้งหนึ่งแฟนบอล แมนยู คงจะรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อทายาทของสุดยอดตำนานนักเตะอย่างโยฮัน ครัฟฟ์ ย้ายมาเล่นให้กับทีมปีศาจแดง ยอร์ดี้ ครัฟฟ์ ย้ายจาก บาร์เซโลนา มาร่วมทีมเมื่อปี 1996 แต่ช่วงเวลาที่เจ้าตัวค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั้น ได้ถูกอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด
ในช่วงแรกเขาเริ่มต้นอาชีพในอังกฤษได้อย่างสดใส ก่อนที่ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันนั้น ยอร์ดี้ จะได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า เขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บและกลับมาเป็นกำลังสำคัญของทีมได้อีกครั้งในต้นฤดูกาล 1998-1999 ปีที่ทีมคว้าสามแชมป์ แต่เขาก็ถูกส่งไปเล่นกับ เชลตา บีโก ด้วยสัญญายืมตัวก่อนจะได้สัมผัสกับถ้วยรางวัล
ไรมอนด์ ฟาน เดอ ฮาว (Raimond Van Der Gouw)
มือกาวชาวดัตช์ที่ถูกดึงตัวเข้ามาร่วมทีมโดยมีจุดประสงค์หลักคือเพื่อเป็นตัวสำรองของ ปีเตอร์ ชไมเคิล เท่านั้น แต่ ฟาน เดอ ฮาว กลับมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโชว์ฟอร์มเซฟได้อย่างยอดเยี่ยมในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อปี 1997 และรอบก่อนรองชนะเลิศกับ ยูเวนตุส ในรายการเดียวกัน เมื่อปี 1998
ก่อนที่ในปี 2000 ฟาน เดอ ฮาว จะกลายมาเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งผู้รักษาประตู ซึ่งปีนั้น แมนยู คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้อีกด้วย ที่สำคัญเจ้าตัวยังสวมบทบาทเป็นโค้ชผู้รักษาประตูคอยติวมือกาวรุ่นน้องในช่วงที่อยู่กับยูไนเต็ด เขาจึงเป็นคนหนึ่งที่มีความสำคัญมาก ๆ ในห้องแต่งตัวเลยทีเดียว
ยาป สตัม (Jaap Stam)
สตัม กลายเป็นนักเตะชาวดัตช์ที่ค่าตัวแพงที่สุดในยุคนั้นหลังย้ายมาร่วมทีม แมนยู ด้วยค่าตัว 10.6 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1998 ซึ่งเขาได้เข้ามาเติมเต็มให้แผงแนวรับของทีมปีศาจแดงแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมคว้า 3 แชมป์เมื่อปี 1999
แม้ ยาป สตัม จะอำลาทีมไปแบบไม่น่าประทับใจเท่าไรนัก หลังมีปัญหากับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนถูกขายให้กับ ลาซิโอ ในราคา 16 ล้านปอนด์ก็ตาม แต่เซ็นเตอร์แบ็กชาวฮอลแลนด์ก้ถือว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดที่ลงเล่นให้กับ แมนยู ที่แฟน ๆ มักจะนึกถึงอยู่เสมอ
รุด ฟาน นิสเตอรอย (Ruud van Nistelrooy)
จอมถล่มประตูชาวดัตช์ที่เป็นขวัญใจแฟน แมนยู ตลอดกาล รุด ฟาน นิสเตอรอย จัดเป็นสุดยอดกองหน้าคนหนึ่งในวงการฟุตบอล ตลอดระยะเวลที่ค้าแข้งกับทีมปีศาจแดง 5 ฤดูกาล เข้าสามารถยิงประตูได้เกินหลัก 20 ลูกถึง 4 ฤดูกาลด้วยกัน
แต่ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าเขาจะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ แมนยู ได้เพียงสมัยเดียวเท่านั้น ก่อนที่ พี่ม้า ฉายาที่แฟนบอลชาวไทยใช้เรียกกันจะมีปัญหากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จนทำให้เขาต้องย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ในที่สุด
เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ (Edwin Van Der Sar)
สุดยอดนายทวารตลอดกาลของ แมนยู ที่แฟนบอลหลายคนยังเสียดายชะตาฟ้ากำหนดให้เขาย้ายมาเฝ้าเสาในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช้าเกินไป แม้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จะย้ายมาด้วยอายุที่มากถึง 34 ปี แล้ว แต่เขาก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และมีปีที่ดีที่สุดกับทีมอีกด้วย
มือกาวชาวดัตช์โชว์ช็อตเซฟมหัศจรรย์ได้มากมายหลายครั้ง แต่ที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลปีศาจแดงได้ดีที่สุดน่าจะเป็นการเซฟลูกจุดโทษของ นิโคล่า อเนลกา ช่วยให้ แมนยู เอาชนะจุดโทษ เชลซี คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 3 มาครองได้สำเร็จ
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (Robin van Persie)
เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาอยู่กับทีมเลยทีเดียวสำหรับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ย้ายจาก อาร์เซนอล มาร่วม แมนยู เมื่อปี 2012 โดยเขามีส่วนช่วยให้ ยูไนเต็ด ทวงแชมป์ พรีเมียร์ลีก คืนมาจาก แมนซิตี้ ได้สำเร็จรวมถึง ฟาน เพอร์ซี่ ยังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำมาครองด้วยเช่นกัน
แต่หลังจากที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือจากการคุมทีม ฟอร์มของหัวหอกชาวดัตช์ก็ตกลงไปพอสมควร ก่อนที่เจ้าตัวจะฝากผลงาน 58 ประตูตลอดระยะเวลา 3 ปีในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยอำลาทีมไปในยุคของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล ที่มักดรอปดาวยิงชาติเดียวกันไว้ที่ม้านั่งสำรอง
อเล็กซานเดอร์ บุทเนอร์ (Alexander Buttner)
แบ็กซ้ายชาวฮอลแลนด์ที่ถูกคาดหมายว่าจะมีอนาคตที่สดใสกับ แมนยู เมื่อ อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ เปิดตัวได้อย่างสวยหรู หลังย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2012 โดย บุทเนอร์ สามารถทำได้ 2 แอสซิสต์ ในเกม พรีเมียร์ลีก กับ วีแกน
แต่การกลับมาลงสนามอีกครั้งของ ปาทริซ เอฟร่า แบ็กชาวฝรั่งเศส ทำให้โอกาสของ บุตต์เนอร์ ในทีมน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยได้รับโอกาสลงเล่นเพียง 27 เกมเท่านั้น ฝากผลงาน 2 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม ดินาโม มอสโค
ดาลีย์ บลินด์ (Daley Blind)
แข้งชาวดัตช์ที่ย้ายเข้ามาในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล เมื่อปี 2014 และเป็นกำลังสำคัญของทีมอยู่สองฤดูกาลด้วยกัน ดาลีย์ บลินด์ จัดเป้นผู้เล่นสารพัดประโยชน์คนหนึ่ง เพราะเขาสามารถเล่นได้ทั้ง แบ็กซ้าย, เซ็นเตอร์แบ็ก และ มิดฟิลด์ตัวรับ
บลินด์ มีส่วนร่วมในการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2016 และแชมป์ ยูโรป้า ลีก เมื่อปี 2017 ก่อนที่โอกาสในการลงสนามของเขาในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ จะลดน้อยลงเรื่อย ๆ และย้ายกลับมาเล่นกับทีมบ้านเกิด อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
เมมฟิส เดปาย (Memphis Depay)
ปีกชาวดัตช์ที่ย้ายมาพร้อมกับความคาดหวังอย่างมากเมื่อปี 2015 หลังทำผลงานได้ดีในทีมชาติฮอลแลนด์ ช่วงที่ หลุยส์ ฟาน กัล รับงานคุมทีมชาติอยู่ แต่ เมมฟิส เดปาย กลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยทำได้เพียง 7 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 53 นัด
และเมื่อ ฟาน กัล ถูกปลดออกจากตำแหน่ง เดปาย แทบจะไม่ได้รับโอกาสจากกุนซือที่มาแทนอย่าง มูรินโญ่ เลย ก่อนจะเก็บข้าวของย้ายไปร่วมทีม โอลิมปิก ลียง และกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนมีข่าวลือออกมาว่า เขาอาจจะได้รับโอกาสกับ แมนยู อีกครั้งหนึ่ง
ทิโมธี โฟซู-เมนซ่าห์ (Timothy Fosu-Mensah)
ดาวรุ่งชาวฮอลแลนด์ก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ของ แมนยู ได้ 5 ฤดูกาลแล้ว แต่ ทิโมธี โฟซู-เมนซ่าห์ ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งที่ถาวรภายในทีมได้ แนวรับที่สามารถขยับขึ้นมาเล่นเป็นกองกลางได้ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ ฟูแล่ม และ คริสตัล พาเลซ แต่ก็ทำผลงานได้ดีระดับหนึ่งเท่านั้น
แข้งวัย 22 ปี ได้รับโอกาสจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เมื่อช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดี โอกาสของ โฟซู-เมนซ่าห์ ในยุคของกุนซือชาวนอร์เวย์ยังมีอยู่ แต่เขาต้องใช้ความพยายามและอดทนเพื่อรอคอยโอกาส และคว้ามันเอาไว้ให้ได้
ทาฮิธ ชอง (Tahith Chong)
ดาวรุ่งมหัศจรรย์ชาวดัตช์กำลังกลายเป็นที่น่าจะมีอนาคตที่สดใสในโรงละครแห่งความฝันนี้ หลังมีลีลาการเล่นที่ไม่ธรรมดา ทาฮิธ ชอง ก้าวเข้ามาวนเวียนอยู่ในทีมชุดแรกของ แมนยู มาแล้ว 2 ฤดูกาลด้วยกัน แต่แน่นอนว่าด้วยความที่อายุยังน้อย ทำให้ฟอร์มการเล่นยังไม่สม่ำเสมอนัก
ชอง เล่นเกมกับทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 16 เกมด้วยกัน และในซีซั่นที่จะถึงนี้เขาถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ แวร์เดอร์ เบรเมน ทีมดังเยอรมนี หลังตัดสินใจต่อสัญญาใหม่กับทีมปีศาจแดงออกไปเป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้หากลองสังเกตุกันเล่น ๆ นักเตะดัตช์ที่มีคำว่า ฟาน (Van) อยู่ในชื่อล้วนแต่ประสบความสำเร็จ และสามารถคว้าแชมป์ร่วมกับ แมนยู ได้ทุกคน ดังนั้นคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากแฟนปีศาจแดงจะอดมโนไม่ได้ว่า ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค จะเป็นอีกหนึ่งนักเตะฮอลแลนด์ที่ประสบความสำเร็จ และพาทีมกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
ภาพจาก : AFP
