ลิโอเนล เมสซี่ สานต่อตำนานฮีโร่ลูกหนังของชาวอาร์เจนตินาอย่างสมบูรณ์แบบด้วยแชมป์โลก

        ถึงนาทีนี้แฟนบอลหลายต่อหลายคนทั่วโลกต่างก็คงรู้สึกร่วมยินดีกับการคว้าแชมป์โลกของ ลิโอเนล เมสซี่ และทีมชาติอาร์เจนตินา

        เกมนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2565 ทีม "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนตินา เอาชนะ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ในการดวลจุดโทษ 4-2 หลังจากผลบอลในช่วงต่อเวลาพิเศษเสมอกัน 3-3 โดยที่หลายคนยกให้แมตช์นี้คือนัดชิงบอลโลกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

        สำหรับอาร์เจนตินา นี่คือแชมป์โลกสมัยที่ 3 หลังจากสองหนก่อนหน้านี้พลพรรค "ฟ้า-ขาว" เคยได้แชมป์ในปี 1978 และ 1986

        และสำหรับ เมสซี่ นี่คือโทรฟี่แชมป์ที่เขารอคอยมานานและมาทำได้สำเร็จเอาเมื่อเข้าสู่ช่วงท้าย ๆ ของการเล่นฟุตบอลทั้งที่ตัวเองก็ได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกมานานเกินกว่าทศวรรษ

ไอ้หนูเมสซี่เมื่อครั้งเริ่มกลายเป็นความหวังของทีมชาติอาร์เจนตินา

        เมสซี่ เริ่มแจ้งเกิดกับ บาร์เซโลน่า ตั้งแต่ในช่วงปี 2005 และใช้เวลาไม่นานในการกลายมาเป็นผู้เล่นตัวท็อปของวงการ ช่วยให้ บาร์ซ่า ได้ทั้งแชมป์ ลา ลีกา และ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงพาอาร์เจนตินาคว้าเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก 2008 ได้ด้วย ก่อนจะก้าวไปครอง บัลลง ดอร์ ครั้งแรกในปี 2009

        ความเก่งกาจในระดับนั้น ทำให้ เมสซี่ กลายเป็นคนที่แบกความหวังของชาวอาร์เจนตินา ในการที่จะนำทีมไปสู่แชมป์โลกให้ได้อีกครั้งเหมือนที่ครั้งหนึ่ง ดีเอโก้ มาราโดน่า เคยเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกแล้วก็สามารถพา "ฟ้า-ขาว" เป็นแชมป์ เวิลด์ คัพ ได้สำเร็จด้วย

        ทั้งนี้ เมสซี่ กับ มาราโดน่า เคยมีโอกาสผนึกกำลังกันใน ฟุตบอลโลก 2010 โดย "เสือเตี้ย" รับบทบาทเทรนเนอร์ของทีม ส่วน เมสซี่ เป็นสตาร์คนสำคัญสวมเสื้อหมายเลข 10 แต่ในปีนั้น อาร์เจนตินาก็จบเส้นทางไว้แค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยพ่ายต่อเยอรมนี 0-4 

        นับตั้งแต่นั้นเรื่อยมา เมสซี่ ยังคงโลดแล่นสร้างผลงานระบือลือลั่นกวาดแชมป์ในระดับสโมสรอย่างต่อเนื่อง แต่ผลงานกับทีมชาติกลับยังคงเป็นคำถามที่ค้างคาใจ เพราะในฟุตบอลโลกหนต่อ ๆ มา อาร์เจนตินาก็ยังไม่สามารถไปถึงแชมป์ได้ ส่วนในทัวร์นาเมนต์ โกปา อเมริกา ที่ทีมเข้าชิง 2 ครั้งติดในปี 2015 และ 2016 เมสซี่ ก็พาทีมได้แค่รองแชมป์เท่านั้น

ผ่านความผิดหวังกับทีมชาติอาร์เจนตินามาหลายครั้ง

        จนมาถึงศึก โกปา อเมริกา 2021 นั่นกลายเป็นเหมือนการปลดล็อกสำหรับ เมสซี่ เมื่อเขานำทีมผงาดชูถ้วยแชมป์

        และในที่สุดภาพที่ชาวอาร์เจนตินาและแฟนบอลอีกหลายคนทั่วโลกหวังจะได้เห็นก็เกิดขึ้นจริงใน เวิลด์ คัพ ที่กาตาร์ เมื่อ เมสซี่ นำทีม "ฟ้า-ขาว" คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ ทำให้เขาก้าวไปเป็นฮีโร่ลูกหนังของชาวอาร์เจนไตน์ตามรอย มาราโดน่า ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมทั้งยังทำเป็นการตอกย้ำสถานะของ เมสซี่ ในฐานะหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย

        "ผมโชคดีที่ประสบความสำเร็จมาเกือบทุกอย่าง และนี่คือสิ่งที่ผมรอคอย นี่คือแชมป์ที่ผมต้องการมาตลอดชีวิต มันเป็นความฝันของผมตั้งแต่เด็ก" นั่นคือคำพูดของ ลิโอเนล เมสซี่ ในวัย 35 ปี ผู้ที่ตอนนี้ได้ชูถ้วยฟีฟ่าอย่างที่ฝันแล้ว

ภาพแห่งความสุขสมหวังที่หลายคนรอมานาน

ภาพ AFP