ลิเวอร์พูล สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งหลังโชว์ฟอร์มสุดหินใน พรีเมียร์ลีก ในเกมล่าสุดที่บุกไปเฉือน เบิร์นลี่ย์ ด้วยผลบอลสด 1-0 จากประตูชัยของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซึ่งซัดจุดโทษในนาทีที่ 90+5 พาทีมแชมป์เก่าคว้าสามแต้มสำคัญที่ เทิร์ฟมัวร์
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-26 ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ดูเหมือนว่าแชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล ได้สร้างนิยามใหม่ในการเอาชนะคู่แข่งขึ้นมา พวกเขากลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่เก็บชัยชนะ 4 นัดติดต่อกันด้วยการทำประตูในช่วง 10 นาทีสุดท้ายหรือช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
นี่คือสิ่งที่สะท้อนทั้งความนิ่ง, สภาพจิตใจอันแข็งแกร่ง และ DNA ของผู้ล่าแชมป์อย่างแท้จริง เริ่มต้นจากเกมเปิดฤดูกาลเมื่อ หงส์แดง ทำท่าจะสะดุดแต่ เฟเดริโก้ เคียซ่า กับ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ก็มายิงคนละเม็ดในช่วงท้าย พลิกเชือด บอร์นมัธ อย่างระทึก
.jpg)
ก่อนที่เกมถัดไปจะยิ่งดราม่าหนักขึ้นเมื่อดาวรุ่งวัย 16 ปีอย่าง ริโอ เอ็นกูโมฮา ก้าวขึ้นมาเป็นฮีโร่ ซัดประตูชัยนาทีที่ 100 ในการบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล จากนั้น โดมินิค โซบอสไล ได้ขีดเส้นความเชื่อให้ทีมชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เมื่อซัดฟรีคิกสุดสวยนาที 83 ดับความหวัง อาร์เซน่อล ในศึกบิ๊กแมตช์ที่ แอนฟิลด์
และล่าสุดดูเหมือนว่า เบิร์นลี่ย์ กำลังจะทำให้ ลิเวอร์พูล ทำแต้มตกหล่น แต่แล้วจู่ ๆ ฮันนิบาล ทำให้ทีมเสียจุดโทษสุดดราม่าจากจังหวะแฮนด์บอล และเป็น ซาล่าห์ ที่แสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็นแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่กดดันด้วยการสังหารจุดโทษได้แบบเด็ดขาด
"ดราม่า" อาจเป็นคำที่ใช้ได้ดี แต่สิ่งที่สะท้อนจากชัยชนะเหล่านี้คือนิยามแห่งการไม่ยอมแพ้ ลิเวอร์พูล ในยุค สล็อต กำลังแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีทั้งคุณภาพเชิงแท็กติก และหัวใจนักสู้ที่จะก้าวไปถึงแชมป์อีกครั้ง ฤดูกาลยังอีกยาวไกล แต่ทุกทีมคงรับรู้แล้วว่าการเจอ ลิเวอร์พูล เกมมันคงไม่จบง่าย ๆ จนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดสุดท้าย
ข้อมูลจาก goal.com/en
ภาพจาก AFP






