อุสมาน เดมเบเล่ คว้ารางวัล บัลลงดอร์ 2025 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่หลังพา เปแอสเช ทำผลงานไร้เทียมทานในฤดูกาลที่แล้ว ขณะที่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซูเปอร์สตาร์ ลิเวอร์พูล ต้องผิดหวังอีกครั้ง
โดย เดมเบเล่ ทำไป 8 ประตู 6 แอสซิสต์ จาก 15 เกมใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่แล้ว พร้อมเป็นหัวใจสำคัญทำให้ เปแอสเช สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้เขายังพาทีมทำผลงานร้อนแรงคว้าแชมป์รายการในฝรั่งเศส
สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าดาวซัลโว และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ ลีกเอิง รวมถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2024-25 ซึ่งเขากลายเป็นนักเตะฝรั่งเศสคนที่ 6 ที่ได้รับ บัลลงดอร์ ต่อจาก เรย์มงด์ โกปา, มิเชล พลาตินี่, ฌอง-ปิแอร์ ปาแปง, ซีเนอดีน ซีดาน และ คาริม เบนเซม่า
ขณะที่ โม ซาล่าห์ ที่จบฤดูกาล 2024-25 ด้วยผลงานสุดร้อนแรง ยิง 29 ประตู 18 แอสซิสต์จาก 38 เกมในบ้านผลบอล พรีเมียร์ลีก พร้อมพา ลิเวอร์พูล ซิวแชมป์ลีก แต่ยังไม่เพียงพอให้เขาคว้ารางวัลลูกบอลทองคำในปีนี้
สรุปรางวัลทั้งหมดของ Ballon d’Or 2025

บัลลงดอร์ชาย – อุสมาน เดมเบเล่ (เปแอสเช, ฝรั่งเศส)
บัลลงดอร์หญิง – ไอตาน่า บอนมาตี้ (บาร์เซโลน่า, สเปน)
โคปา โทรฟี่ – รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอายุต่ำกว่า 21 ปี
ชาย : ลามีน ยามาล (บาร์เซโลน่า)
หญิง : วิคกี้ โลเปซ (บาร์เซโลน่า)
ยาชิน โทรฟี่ – ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม
ชาย : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (เปแอสเช / แมนซิตี้)
หญิง : ฮันนาห์ แฮมป์ตัน (เชลซี)
เกิร์ด มุลเลอร์ โทรฟี่ – ดาวยิงสูงสุด
ชาย : วิคตอร์ โยเคเรส (สปอร์ติ้ง / อาร์เซน่อล)
หญิง : เอวา พายอร์ (บาร์เซโลน่า)
โยฮัน ครัฟฟ์ โทรฟี่ – โค้ชยอดเยี่ยม
ชาย : หลุยส์ เอ็นริเก้ (เปแอสเช)
หญิง : ซาริน่า วีคมัน (ทีมชาติอังกฤษ)
สโมสรยอดเยี่ยม
ชาย : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
หญิง : อาร์เซน่อล
ข้อมูลจาก metro.co.uk/sport/football
ภาพจาก AFP






