รวม 5 นักเตะเยอรมันชื่อดัง ฝีเท้าจัดจ้าน ที่ย้ายมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ บางคนคว้าแชมป์ได้อย่างมากมาย บางคนโชว์ฟอร์มเยี่ยมแต่ยังไม่มีแชมป์ติดมือ ซึ่งจะมีใครบ้างนั้นไปดูกัน
หากจะพูดถึงทีมชาติที่เป็นมหาอำนาจลูกหนังโลกในตอนนี้ แน่นอว่าต้องมีชื่อของทีมชาติเยอรมนีอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน เจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก 4 สมัย ไม่เคยขาดแคลนนักเตะฝีเท้าดี บางคนประสบความสำเร็จในลีกประเทศตัวเองอย่าง บุนเดสลีกา บางคนประสบความสำเร็จในลีกชั้นนำอื่น ๆ อย่าง ลา ลีกา, กัลโช่ เซเรีย อา โดยเฉพาะ พรีเมียร์ลีก
แต่ใช่ว่าทุกคนที่มาเล่นยังต่างแดนแล้วจะประสบความสำเร็จ บางคนอาจมีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิต บางคนปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลของประเทศนั้น ๆ ไม่ได้ แต่วันนี้เราขอเน้นไปที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก และมีนักเตะเยอรมันฝีเท้าดีมาฝากผลงานเอาไว้อย่างมากมาย แต่ใครบ้างที่คือแข้งเมืองเบียร์ที่ดีที่สุดใน 5 อันดับนี้ ไปดูกัน
1. เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์
หนึ่งในการย้ายทีมครั้งประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ต้องบันทึกไว้ หลังดาวยิงทีมชาติเยอรมนี เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ย้ายมาร่วมทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมดังแห่งกรุงลอนดอน ซึ่งในช่วงนั้นทุกคนต่างรู้ดีว่า ทีมชาติอังกฤษ กับ ทีมชาติเยอรมนี นั้นไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไรนัก การย้ายมาเล่นที่อังกฤษของศูนย์หน้าเมืองเบียร์จึงเป็นที่ฮือฮาไม่น้อย
คลิ้นส์มันน์ ย้ายมาโลดแล่นบนลีกสูงสุดแดนผู้ดีในฤดูกาล 1994/1995 โดยเจ้าตัวได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในยุโรป รวมถึงลูกเล่นตุกติกต่าง ๆ ดาวเตะเจ้าของฉายา ฉลามขาว คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนั้นด้วยผลงาน 21 ประตู จากการลงเล่น 41 นัดในทุกรายการ ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายไปเล่นให้ทีมในบ้านเกิดอย่าง บาเยิร์น มิวนิค
2. ดีทมาร์ ฮามันน์
ตำนานกองกลางของ ลิเวอร์พูล ว่าที่แชมป์ พรีเมียร์ ที่กำลังจะกลับมาทำการแข่งขันตาม โปรแกรมบอล เดิมในสัปดาห์หน้า ก่อนหน้านี้ ดีทมาร์ ฮามันน์ ค้าแข้งอยู่กับทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิ่ล ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีม หงส์แดง ในปี 1999 ซึ่งเจ้าตัวลงสนามรับใช้ทีมดังถิ่น แอนด์ฟิลด์ 191 นัดด้วยกัน
ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ค้าแข้งกับทีม หงส์แดง แม้จะไม่เคยได้สมัผัสแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวก็สามารถช่วยให้ทีมคว้าแชมป์บอลถ้วยได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีกคัพ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย จากนั้น ฮามันน์ ได้อำลาทีมไป แต่เจ้าตัวก็ยังคงเลือกที่จะค้าแข้งในอังกฤษต่อ และได้ย้ายไปร่วมทีม โบลตัน, แมนซิตี้ และ เอ็มเค ดอนส์
3. มิชาเอล บัลลัค
อดีตจอมทัพคนเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค และ ทีมชาติเยอรมนี ย้ายมาร่วมทีม เชลซี แบบไร้ค่าตัวเมื่อปี 2006 ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในช่วงแรก มิชาเอล บัลลัค ดูจะมีปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งเจ้าตัวก็ใช้เวลาอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะคืนฟอร์มเก่งสมัยที่ค้าแข้งกับทีมเสือใต้
ตลอดระยะเวลา 4 ปีกับทีมสิงห์บลูส์ บัลลัค ลงสนามไปทั้งหมด 105 นัด ทำได้ 17 ประตู ช่วยให้ต้นสังกัด คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีกคัพ 1 สมัย แต่ที่น่าผิดหวังเห็นจะเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ จอมทัพเมืองเบียร์ยังไม่เคยได้สัมผัส หลังพ่ายให้กับ แมนยู เมื่อปี 2008 และย้อนกลับไปในปี 2001 เจ้าตัวเคยเข้าชิงเจ้ายุโรปกับต้นสังกัดเก่า ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาแล้วแต่ก็พ่ายให้กับ เรอัล มาดริด เช่นกัน
4. เมซุต โอซิล
อดีตกองกลาง แวร์เดอร์ เบรเมน เป็นนักเตะในระดับแถวหน้าเพียงไม่กี่คนที่ถูกแฟนบอลวิพากษ์ วิจารณ์ถึงสไตล์การเล่นที่ไม่ค่อยวิ่งไล่บอล เมซุต โอซิล ย้ายจาก เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา สเปน มาร่วมทีม อาร์เซนอล เมื่อปี 2013 และแค่เพียงปีแรกเท่านั้น โอซิล ก็ช่วยให้ทีมปืนใหญ่คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ ก่อนจะทำได้อีก 2 สมัย คือฤดูกาล 2014/2015 และ 2016/2017
สตาร์ทีมชาติเยอรมนี จัดเป็นยอดมิดฟิลด์จอมสร้างสรรค์คนหนึ่ง หลังเจ้าตัวเคยทำสถิติเป็นนักเตะที่ทำได้ถึง 50 แอสซิสต์เร็วที่สุดโดยใช้เวลาเพียง 141 นัดเท่านั้น ก่อนที่สถิติดังกล่าวจะถูกทำลายลงโดย เควิน เดอ บรอยน์ กองกลาง แมนซิตี้ แม้เขาจะถูกตั้งข้อสงสัยในวิธีการเล่น แต่ผลงานของเขาก็ยังคงยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยน แม้จะมีช่วงฟอร์มตกลงไปบ้างก็ตาม
5. ลีรอย ซาเน่
อดีตปีกจอมพลิ้วของ ชาลเก้ 04 ย้ายมาร่วมทีม แมนซิตี้ เมื่อปี 2016 ด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์ แค่เพียงปีแรก ลีรอย ซาเน่ ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทันที โดยทำได้ถึง 9 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 37 นัด ต่อมาในฤดูกาล 2017/2018 เจ้าตัวโชว์ฟอร์มเด่นอย่างต่อเนื่องจนถึงขั้นถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย
แต่ถึงแม้จะทำผลงานได้ดีกับสโมสรแค่ไหน แต่กับทีมชาติเยอรมนีนั้น ซาเน่ กลับต้องเจอเรื่องราวสุดผิดหวัง เมื่อเจ้าตัวถูกตัดชื่ออกจากทัพอินทรีเหล็กชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งปีกความเร็วสูงก็ออกมาเปิดใจในภายหลังว่า รู้สึกผิดหวัง แต่เคารพการตัดสินใจของ โยอาคิม เลิฟ ปัจจุบัน ปีกวัย 24 ปี ลงสนามให้เรือใบสีฟ้าไปแล้ว 134 นัด ยิงได้ 39 ประตู ซึ่งเจ้าตัวตกเป็นข่าวว่าเตรียมย้ายกลับไปค้าแข้งกับทีมบ้านเกิดอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ในซัมเมอร์นี้
ภาพจาก : AFP