รวม 9 นักฟุตบอลฝีเท้าระดับท็อปที่เล่นได้ดีใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่กลับกลายเป็นแค่นักเตะธรรมดาคนหนึ่งเมื่อย้ายไปเล่นยังลีกต่างแดน
ทุกวันนี้เราอาจเห็นนักฟุตบอลชื่อดังที่เคยโชว์ฝีเท้าในเวที พรีเมียร์ลีก ไปประสบความสำเร็จยังลีกต่างแดนอย่าง ลา ลีกา สเปน, กัลโช่ เซเรีย อา หรือ บุนเดสลีกา เยอรมนี ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คงหนีไม่พ้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยิงประตูถล่มทลายทั้งกับ เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส
ส่วนคนอื่น ๆ ที่มีผลงานจัดว่าดีเอาตัวรอดในลีกต่างแดนได้ มีแชมป์ติดไม้ติดมือก็มี หลุยส์ ซัวเรส, แกเร็ธ เบล, ลูก้า โมดริช, เธียรี่ อองรี และ ปาทริค วิเอรา แต่จำกันได้หรือไม่ว่า ก็มีนักฟุตบอลฝีเท้าดีจำนวนไม่น้อยที่โชว์ฟอร์มเยี่ยม ในลีกอังกฤษที่กลับมาแข่งขันตาม โปรแกรมบอล เดิมแล้ว แต่กลับล้มเหลวเมื่อย้ายไปเล่นยังต่างแดน
1. ไมเคิล โอเว่น - Michael Owen
เริ่มกันที่คนแรก ไมเคิล โอเว่น ชื่อนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก อดีตดาวเตะขวัญใจแฟน ลิเวอร์พูล ที่โชว์ฟอร์มเยี่ยมยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำช่วยให้ทีมหงส์แดงคว้าแชมป์บอลถ้วยได้ถึงสามรายการเมื่อปี 2001 จากฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของเจ้าตัวนั้นทำให้สามารถคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ มาครองได้สำเร็จ
และในปีเดียวกันนั้นเอง เรอัล มาดริด ทีมดัง ลา ลีกา สเปน ก็จัดการคว้าตัวดาวยิงทีมชาติอังกฤษไปร่วมทีม แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด อาจจะด้วยปัญหาสภาพแวดล้อมต่าง ๆ หรือระบบของทีม เมื่อ โอเว่น ได้รับโอกาสลงสนามเพียง 15 เกมเท่านั้น แม้จะสามารถยิงได้ถึง 18 ประตูก็ตาม ก่อนที่ในฤดูกาลถัดมาเขาก็ถูกขายให้กับ นิวคาสเซิ่ล
2. อเล็กซานเดอร์ เคล็บ - Alexander Hleb
อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติเบลารุส ที่เป็นดาวเด่นของ อาร์เซนอล ในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ อเล็กซานเดอร์ เคล็บ ย้ายจาก สตุ๊ดการ์ด ทีมดัง บุนเดสลีกา มาร่วมทีมปืนใหญ่ เมื่อปี 2005 ก่อนจะโชว์ฟอร์มเก่งจนไปเตะตา บาร์เซโลนา ที่ดึงตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2008
แต่ก็เป็นโชคไม่ดีสำหรับเขา เคล็บ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนม้านั่งสำรองในถิ่น คัมป์นู และเขาได้รับโอกาสในการลงสนามเพียงน้อยนิดเท่านั้น ก่อนที่เขาจะถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวถึง 3 สโมสรด้วยกันทั้ง สตุ๊ดการ์ด, เบอร์มิ่งแฮม และโวล์ฟบวร์ก ก่อนที่ชื่อของเขาจะค่อย ๆ เงียบหายไป
3. โจนาธาน วู้ดเกต - Jonathan Woodgate
เรอัล มาดริด ยังคงอยากลองเสี่ยงกับนักเตะสัญชาติอังกฤษอีกครั้งหลังเคยล้มเหลวกับ ไมเคิล โอเว่น โจนาธาน วู้ดเกต ปราการหลังดาวรุ่งที่ได้รับการยกย่องว่าจะเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็กชั้นแนวหน้าของวงการฟุตบอล แต่ติดที่เจ้าตัวมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด ซึ่งทีมราชันชุดขาวก็สร้างความฮือฮา และไม่สนอาการบาดเจ็บแต่อย่างใดด้วยการดึงตัว วู้ดเกต จาก นิวคาสเซิ่ล มาร่วมทีมในปี 2004
แต่กว่าจะได้ประเดิมสนามก็ต้องรอจนถึงเดือนกันยายนปี 2005 และได้รับโอกาสลงสนามเพียง 14 เกมเท่านั้น ซึ่งฟอร์มการเล่นของเขาก็น่าผิดหวังอย่างมาก เพราะทั้งทำเข้าประตูตัวเอง และถูกไล่ออกจากสนาม จนย้ายกลับมาเล่นกับทีมลีกผู้ดีอย่าง มิดเดิ้ลโบรส์
4. เปาโล ดิ คานิโอ - Paulo Di Canio
ดาวเตะชาวอิตาลีเป็นผู้เล่นที่เปรียบเสมือนฮีโร่ และอยู่ในความทรงจำของแฟน ๆ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่เมื่อครั้งที่เขาย้ายกลับไปเล่นกับ ลาซิโอ ฟอร์มการเล่นของเขาที่ทำได้กับทีมขุนค้อนได้หายไป อาจเพราะอารมณ์ที่ร้อนแรงส่วนตัวของเขา รวมถึงความสัมพันธ์กับสโมสรที่ก็ไม่ค่อยดีนักเช่นกัน
ก่อนจะย้ายมาโชว์ฟอร์มเก่งกับ เวสต์แฮม เปาโล ดิ คานิโอ เคยเล่นให้กับ เชลติก และ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ในปี 1996-1999 ก่อนจะย้ายร่วมทีมดังลอนดอนในปีเดียวกันและกลายเป็นดาวเด่นประจำทีมโดยเจ้าตัวลงเล่นทั้งหมด 118 นัด ทำได้ทั้งหมด 47 ประตูด้วยกัน
5. ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - Philippe Coutinho
อีกหนึ่งคนที่ (เคย) เป็นขวัญใจของแฟนบอล ลิเวอร์พูล ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จอมทัพบราซิเลียน ในช่วงสมัยที่เจ้าตัวยังค้าแข้งกับทีมว่าที่แชมป์ พรีเมียร์ลีก 2019/2020 คูตินโญ่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะฝีเท้าจัดจ้านคนหนึ่งในเวที พรีเมียร์ลีก รวมถึงในยุโรปเลยด้วยซ้ำ
กองกลางชาวบราซิลย้ายมาร่วมทีมหงส์แดงเมื่อปี 2013 ด้วยค่าตัวเพียง 8.5 ล้านปอนด์เท่านั้น และในปี 2018 เจ้าตัวตัดสินใจอำลา ลิเวอร์พูล ย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของสโมสร ก่อนจะไปใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ม้านั่งสำรองจนต้องย้ายไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสัญญายืมตัว
6. ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น - Eidur Gudjohnsen
ดาวยิงชาวไอซ์แลนด์ฉายแววเด่นในฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ที่ยังค้าแข้งอยู่กับ โบลตัน ก่อนที่ เชลซี จะดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2000 และประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสองสมัยในฤดูกาล 2004/2005 และ 2005/2006 ในยุคของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่
และในปี 2006 บาร์เซโลนา ได้ตัดสินใจดึงตัว ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ไปร่วมทีมเพื่อหวังเป็นตัวแทนของ เฮนริค ลาร์สัน ที่อำลาทีมไป แต่เขากลับไม่สามารถเล่นได้ดีเหมือนตอนที่อยู่กับทีมสิงห์บลูส์ ก่อนที่ฤดูกาลต่อมาเจ้าตัวจะย้ายไปร่วมทีม โมนาโก ในช่วงสั้น ๆ รวมถึงกลับมายัง พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง กับ สเปอร์ส, สโต๊ค ซิตี้ และ ฟูแล่ม
7. แอชลีย์ โคล - Ashley Cole
อดีตแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลกเคยสร้างความขุ่นเคืองให้กับแฟนบอล อาร์เซนอล มาแล้วเมื่อครั้งโบกมือลาทีมแล้วย้ายไปอยู่กับอริร่วมเมือง เชลซี เมื่อปี 2006 ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งมาอธิบายถึงเหตุผลที่ย้ายทีมว่าไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน แต่เพราะทีมปืนใหญ่กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงนั่นเอง
แอชลีย์ โคล ประสบความสำเร็จอย่างมากหลังย้ายมาอยู่กับ เชลซี เขาสามารถคว้าแชมป์ได้เกือบทุกรายการ โดยเฉพาะ แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เขาเคยผิดหวังเมื่อครั้งอยู่กับ อาร์เซนอล ในปี 2014 แบ็กซ้ายชาวอังกฤษตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม โรม่า ยักษ์ใหญ่ กัลโช่ เซเรีย อา แต่ก็โชว์ผลงานไม่เข้าตาและโดนยกเลิกสัญญาในปี 2016
8. เนมานย่า วิดิช - Nemanja Vidic
เซ็นเตอร์แบ็กโนเนมชาวเซอร์เบียถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดึงตัวมาร่วมทีม แมนยู เมื่อปี 2006 ซึ่ง เนมานย่า วิดิช ก็ตอบแทนความไว้วางใจของป๋าเฟอร์กี้ได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งของทีมปีศาจแดง
เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น และหลุดเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง วิดิช จึงตัดสินใจอำลาทีมในปี 2014 และย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน แต่เขาก็ได้ลงเล่นเพียงไม่กี่นัดเท่านั้นเพราะถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้สภาพร่างกายไม่ดีเหมือนเดิมจนต้องประกาศเลิกเล่นในเดือนมกราคมปี 2016
9. เชส ฟาเบรกาส - Cesc Fabregas
อีกหนึ่งนักเตะที่ไม่ประสบความสำเร็จกับ บาร์เซโลนา อีกแล้ว สำหรับ เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจากศูนย์ฝึกลามาเซีย อคาเดมี่ของทีมเจ้าบุญทุ่ม ที่ อาร์เซนอล ไปดึงตัวมาร่วมทีมตั้งแต่อายุยังน้อย และกลายมาเป็นกำลังสำคัญในทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์
จากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของ ฟาเบรกาส กับทีมปืนใหญ่ ทำให้ บาร์เซโลนา ดึงตัวจอมทัพกระทิงดุกลับมาเล่นที่บ้านเกิดอีกครั้งในปี 2011 ซึ่งตัวนักเตะเองก็มีความปารถนาที่จะกลับมายังถิ่น คัมป์นู อยู่แล้วเช่นกัน
แม้ในช่วงแรกทุกอย่างจะไปได้สวย แต่เมื่อเขาถูกจับไปเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด เชส ก็ไม่สามารถทำผลงานได้ดีเหมือนเดิม ก่อนจะอำลาทีมในวัยเด็กของเขากลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้งกับ เชลซี
ภาพจาก : AFP