13 อันดับการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เจอร์เก้น คล็อปป์

        เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกุนซือระดับแถวหน้าของโลก หลังประสบความสำเร็จร่วมกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยคุมทัพ เสือเหลือง ตั้งแต่ปี 2008 และสามารถพาทีมผงาดแชมป์ บุนเดสลีกา ได้ 2 สมัย ก่อนย้ายไปคุมทัพ ลิเวอร์พูล ในปี 2015

        และในที่สุด เจเค ก็สามารถนำ ลิเวอร์พูล กลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ต่อเนื่องมาในปี 2019 และล่าสุดใน โปรแกรมบอล ฤดูกาล 2019-20 กับแชมป์ลีกสูงสุดในรอบ 30 ปีของ หงส์แดง

        แน่นอนว่ามีนักเตะมากมายที่สร้างชื่อขึ้นมาภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ และ ลิเวอร์พูล นี่คือ 13 อันดับการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เจอร์เก้น คล็อปป์

 

        13. โจเอล มาติป

        ชาลเก้ 04 ย้ายไป ลิเวอร์พูล แบบไม่มีค่าตัว (2016)

        คล็อปป์ เคยกล่าวไว้ว่า มาติป เป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดในอาชีพของเขา แม้ว่าปราการหลังชาวแคเมอรูนอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกแรก รวมถึงถูกอาการเจ็บรบกวนอยู่บ่อย ๆ แต่เมื่อได้ลงสนามเขาก็คือกองหลังที่ เจเค ไว้ใจได้เสมอ เรียกได้ว่าเกินคุ้มกับการย้ายทีมแบบฟรี ๆ

 

        12. วูกัส ปิชต์แชก

        แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ย้ายไป ดอร์ทมุนด์ แบบไม่มีค่าตัว (2010)

        ปิชต์แชก อีกหนึ่งนักเตะฟรีสุดคุ้มของ คล็อปป์ เขากลายเป็นฟูลแบ็กคนสำคัญของ ดอร์ทมุนด์ นับตั้งแต่ปี 2010 จนมาถึงปัจจุบันที่เขาอายุ 34 ปีแล้ว และยังคงยืนหยัดได้อย่างต่อเนื่องเป็นฤดูกาลที่ 10 ติดต่อกัน

 

        11. อิลคาย กุนโดกัน

        เนิร์นแบร์ก ย้ายไป ดอร์ทมุนด์ 4.95 ล้านปอนด์ (2011)

        กุนโดกัน เป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จของ ดอร์ทมุนด์ ในยุคของ คล็อปป์ และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกมรุกได้ดีคนหนึ่ง ซึ่งทีม เสือเหลือง ทำกำไรได้จากการขาย ดาวเตะทีมชาติเยอรมนี ไปให้กับ แมนซิตี้ ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ในปี 2016

 

        10. ชินจิ คากาวะ

        เซเรโซ โอซาก้า ย้ายไป ดอร์ทมุนด์ แบบไม่มีค่าตัว (2010)

        คากาวะ มีบทบาทสำคัญกับการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา 2 สมัยของ ดอร์ทมุนด์ ซึ่งถ้าไม่ชอบจริง คล็อปป์ ก็คงไม่เซ็นสัญญากับเขาถึงสองหนทั้งในปี 2010 และปี 2014 ที่ดึงตัว ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น กลับมาจาก แมนยู

 

        9. แอนดี้ โรเบิร์ตสัน

        ฮัลล์ ย้ายไป ลิเวอร์พูล 8.10 ล้านปอนด์ (2017)

        หลังจากย้ายร่วมทัพ ลิเวอร์พูล โรเบิร์ตสัน ก็ค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับการทำทีมของ คล็อปป์ จนยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวจริงได้แบบถาวร โดยผ่านมา 3 ฤดูกาล เขาลงสนามให้ หงส์แดง ไปแล้วถึง 127 เกม และได้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในฟูลแบ็กที่ดีที่สุดของโลกไปเรียบร้อยแล้ว

 

        8. มาร์โก รอยส์

        มึนเช่นกลัดบัค ย้ายไป ดอร์ทมุนด์ 15.39 ล้านปอนด์ (2012)

        เส้นทางสายลูกหนังของ รอยส์ จะรุ่งเรืองกว่านี้หากไม่ถูกอาการบาดเจ็บคอยเล่นงาน อย่างไรก็ตาม ดาวเตะทีมชาติเยอรมนี ได้พิสูจน์แล้วว่าเขามีดีพอที่จะเป็นกำลังสำคัญของ ดอร์ทมุนด์ และเป็นหนึ่งในปีกระดับแถวหน้าของยุโรป กับผลงาน 129 ประตูจากการลงสนาม 266 นัดให้กับ เสือเหลือง

 

        7. ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง

        แซงต์-เอเตียน ย้ายไป ดอร์ทมุนด์ 11.70 ล้านปอนด์ (2013)

        คล็อปป์ ปั้นให้ โอบาเมยอง กลายเป็นจอมถล่มประตู โดย กองหน้าทีมชาติกาบอง ซัดไปเบาะ ๆ 141 ประตู จาก 213 นัด ตลอด 4 ปีครึ่งในการค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ ก่อนที่ทีมดังแห่งเยอรมันจะทำกำไรมหาศาลจากการขาย โอบา ไปให้ อาร์เซนอล ด้วยค่าตัวถึง 56 ล้านปอนด์ ในปี 2018

 

        6. อลิสซอน เบ็คเกอร์

        โรม่า ย้ายไป ลิเวอร์พูล 56.25 ล้านปอนด์ (2018)

        ลิเวอร์พูล สร้างความประหลาดใจด้วยการยอมทุ่มเงินเป็นสถิติโลกเพื่อคว้าตัว อลิสซอน มาเฝ้าเสา มาถึงตอนนี้ คล็อปป์ ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาคิดถูกเพราะ นายด่านทีมชาติบราซิล ได้เข้ามายกระดับให้กับทีมหงส์แดงอย่างแท้จริง

 

        5. ซาดิโอ มาเน่

        เซาธ์แฮมป์ตัน ย้ายไป ลิเวอร์พูล 37.08 ล้านปอนด์ (2016)

        หนึ่งในผู้เล่นรายแรก ๆ ที่ คล็อปป์ คว้ามาร่วมทัพ ลิเวอร์พูล ก็คือ มาเน่ และมาถึงตอนนี้ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม เจเค ถึงอยากได้ ดาวยิงเซเนกัล รายนี้มาเป็นลูกทีม กับผลงาน 81 ประตูจาก 170 นัด และเขาก็คือหนึ่งใน 3 แนวรุกสุดอันตรายร่วมกับ โม ซาล่าห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

 

        4. โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

        โรม่า ย้ายไป ลิเวอร์พูล 37.80 ล้านปอนด์ (2017)

        ในซัมเมอร์ 2017 ซาล่าห์ ไม่ใช่ตัวเลือกเดียวของ คล็อปป์ แต่การตัดสินใจสุดท้ายเขาได้เลือก แข้งทีมชาติอียิปต์ และหลังจากนั้นก็คือประวัติศาสตร์ ซาล่าห์ ระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาทันที โดยทำสถิติยิงใน พรีเมียร์ลีก ไปถึง 32 ประตูจากตำแหน่งปีก และถึงตอนนี้ผ่านมา 152 นัด ยอดรวมอยู่ที่ 94 ประตูเข้าไปแล้ว

 

        3. มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์

        บาเยิร์น ย้ายไป ดอร์ทมุนด์ 3.78 ล้านปอนด์ (2009)

        ฮุมเมิ่ลส์ เป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จของ ดอร์ทมุนด์ ภายใต้การคุมทีมของ คล็อปป์ โดยหนแรกของเขากับทัพ เสือเหลือง เขาลงคุมเกมรับให้ทีมไปถึง 309 นัดตลอด 8 ฤดูกาล

 

        2. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

        เลช พอซนาน ย้ายไป ดอร์ทมุนด์ 4.28 ล้านปอนด์ (2010)

        เลวานดอฟสกี้ เกือบจะได้ย้ายไปเล่นในอังกฤษกับ แบล็กเบิร์น แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการเซ็นสัญญากับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 4.28 ล้านปอนด์ ซึ่งฤดูกาลแรกเขายิงไปได้เพียง 9 ประตู แต่หลังจากนั้น กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ ก็กลายเป็นสุดยอดดาวยิงของโลก กับผลงาน 94 ประตูจาก 144 เกมกับทัพ เสือเหลือง ก่อนจะย้ายไปสร้างตำนานร่วมกับ บาเยิร์น ในปี 2014

 

        1. เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค

        เซาธ์แฮมป์ตัน ย้ายไป ลิเวอร์พูล 76.19 ล้านปอนด์ (2018)

        ลิเวอร์พูล สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ในวงการลูกหนังเมื่อพวกเขาคว้าตัว ฟาน ไดจ์ค มาร่วมทัพด้วยค่าตัวสถิติโลกในตำแหน่งกองหลัง แต่เสียงวิจารณ์ก็ได้หายไปอย่างรวดเร็วเมื่อ แข้งทีมชาติฮอลแลนด์ เข้ามาเปลี่ยนโฉมแนวรับของทีมไปอย่างสิ้นเชิง และทำให้เกมรับเป็นจุดแข็งของ หงส์แดง ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

        มาถึงตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฟาน ไดจ์ค คือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของโลก เรียกได้ว่าเงินที่ ลิเวอร์พูล เสียไป กับความสำเร็จที่พวกเขาได้กลับมานั้นถือว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

 

ข้อมูลจาก givemesport.com

ภาพจาก AFP

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
13 อันดับการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โพสต์เมื่อ 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 16:17:28 21,228 อ่าน
TOP