เดยัน ลอฟเรน ปราการหลัง เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ยอมรับตั้งใจเล่นงานใส่ เซร์คิโอ รามอส เพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับอดีตเพื่อนร่วมทีม ลิเวอร์พูล สุดซี้อย่าง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ จากรายงานของ mirror.co.uk เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563
ย้อนไปใน โปรแกรมบอล นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2017-18 ที่ เรอัล มาดริด เอาชนะ ลิเวอร์พููล ไป 3-1 มีเหตุกาณ์ที่ ซาล่าห์ ได้รับบาดเจ็บหัวไหล่ในช่วงต้นเกมจนเล่นต่อไปไหวจากจังหวะปะทะกับ รามอส ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่ววงการลูกหนังจนถึงวันนี้ก็ยังพูดกันไม่จบ
และต่อมาช่วงพฤศจิกายน 2018 ในเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่ โครเอเชีย ชนะ สเปน 3-2 มีจังหวะที่ ลอฟเลน ศอกใส่ รามอส ซึ่งหลังจบเกม แนวรับตราหมากรุก ได้ไฟล์สดผ่านโลกออนไลน์ โดยเขาทำท่าชักศอกขึ้นมาแล้วบอกว่า "เป็นไงล่ะ โดนศอกเข้าไปเต็ม ๆ ไม่เท่าไหร่นี่หว่า อาฮะ 3-2 จบนะ"
ซึ่งล่าสุด ลอฟเลน ก็ออกมายอมรับว่าเขาจงใจอัด รามอส เพื่อเป็นการแก้แค้นให้กับ ซาล่าห์ เพื่อนซี้ของเขา "ผมจงใจเล่นงาน รามอส หลังจากที่เขาทำให้ ซาล่าห์ บาดเจ็บหรือเปล่า ? แน่นอน มันเป็นแบบนั้น"
"ลูก้า โมดริช พยายามลดความตึงเครียดระหว่างผมกับ รามอส และเรากำลังเผชิญหน้ากับ สเปน ซึ่งผมจงใจตีศอกใส่เขา และบอกเขาว่า ตอนนี้ถือว่าเราหายกันแล้วนะ"
"ผมเคารพ รามอส ในฐานะผู้เล่น และสิ่งที่เขาทำเพื่อทีมของเขา เขาคว้าแชมป์มาแล้วมากมาย แต่ในทางกลับกันเขาทำพฤติกรรมบางอย่างที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย ในการทำร้ายนักเตะด้วยกัน ผมไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โต แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ รามอส ทำนั้นมีเจตนาที่จะทำร้ายเพื่อนของผม จึงถึงเวลาชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ"
"นัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เราเล่นได้ดีกว่า เรอัล มาดริด มาก ก่อนที่ ซาล่าห์ จะได้รับบาดเจ็บ การเสียเขาไปเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา และหลังจากที่เขาโดนเปลี่ยนตัวออกไป มาดริด ก็เป็นฝ่ายครองเกมเอาไว้ได้ในที่สุด"
ภาพจาก AFP