นิคกี้ บัตต์ ตำนานแข้ง แมนยู มั่นใจว่าถ้าหาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคุมทีมอยู่ตอนนี้คงจะเซ็นสัญญากับ เอเบเรชี่ เอเซ่ แนวรุกตัวเก่ง คริสตัล พาเลซ ร่วมบ้านผลบอลถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปนานแล้ว
แมนยู จมอยู่อันดับที่ 13 บนตารางบอล พรีเมียร์ลีก มีผลต่างประตูได้-เสียอยู่ที่ -6 ลูก โดยแพ้ไปแล้ว 11 นัด จาก 24 เกมในลีก ซึ่งทาง นิคกี้ บัตต์ กังวลว่าอาจต้องใช้เวลานานมากกว่าที่อดีตต้นสังกัดของเขาจะมีผลงานที่ดี และกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง
ซึ่งอดีตกองกลาง แมนยู มองว่าในยุคปัจจุบัน ปีศาจแดง นั้นไม่เลือกเซ็นสัญญากับนักเตะพรสวรรค์จากคู่แข่งใน พรีเมียร์ลีก อีกต่อไปแล้ว โดยยกตัวอย่างไปถึง เอเบเรชี่ เอเซ่ ว่าคงจะกลายเป็นผู้เล่น แมนยู ไปแล้วหาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคุมทีมอยู่ "ฟังนะ แมนยู ยังห่างไกลจากการลุ้นแชมป์เป็นล้านไมล์"
.jpg)
"ดูอย่าง ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, แมนซิตี้ หรือว่าแนวทางการสร้างทีม เชลซี แต่ดูเหมือนว่า แมนยู มีงานใหญ่รออยู่ข้างหน้า และจะต้องใช้เวลาอีก 3-4 หรือ 5 ปีกว่าที่พวกเขาจะอยู่ในตำแหน่งที่จะท้าทายได้อีกครั้ง พวกเขาอาจจะคว้าแชมป์มาได้ด้วยโชคช่วยเล็กน้อย แต่พวกเขาคงไม่สามารถลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า"
"ต้องใช้ความอดทนอย่างมาก มีการวางแผนอย่างหนัก ใช้เงินจำนวนมาก และการเซ็นสัญญาที่ดีเพื่อก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้น แม้ว่าผมจะรัก แมนยู มาก แต่พวกเขาก็คงไม่มีโอกาสที่พระเจ้าจะประทานถ้วยรางวัลมาให้ มันเป็นงานใหญ่ พวกเขาจะไม่ดึงผู้เล่น 10 คนเข้ามาในช่วงซัมเมอร์นี้ และลุ้นแชมป์ในฤดูกาลหน้าเลย มันจะไม่เกิดขึ้น"
"ไม่มีใครที่คอยบอกนักเตะดาวรุ่งว่าต้องทำอะไร และต้องฝึกซ้อมอย่างไรในตอนนี้ แมนยู ไม่มีกลุ่มผู้เล่นที่เป็นแกนหลักแบบนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงต้องควักสมุดเช็กออกมา และเซ็นสัญญากับนักเตะมูลค่า 80 ล้านปอนด์ที่พวกเขาเคยใช้งานมาก่อน"
"นักเตะอย่าง เอเบเรชี่ เอเซ่ ถ้าเป็นเมื่อสิบปีก่อน แมนยู คงยื่นข้อเสนอ 70-80 ล้านปอนด์ และคว้าเด็กหนุ่มคนนั้นมาแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาทำไม่ได้แล้ว เพราะพวกเขาไม่มีพลังดึงดูดอีกต่อไป และนั่นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด"
ข้อมูลจาก metro.co.uk
ภาพจาก AFP
