ทำเป็นเล่นไป !! แมนยู อาจต้องกังวลเรื่องการตกชั้นแล้วจริง ๆ

        ก่อนรับงาน รูเบน อโมริม เคยคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าการเข้ามาคุมทีม แมนยู จะเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ และต้องเจอกับพายุลูกใหญ่ แต่ตัวเขาเองก็คงไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายถึงขั้นต้องมากังวลเรื่องลุ้นหนีตกชั้น

        ผลงานอันจืดชืดในเกมล่าสุดที่ แมนยู บุกไปพ่าย สเปอร์ส ด้วยผลบอลสด 0-1 เป็นอีกจุดด่างพร้อยในฤดูกาลนี้ที่เกินการควบคุมไปแล้ว ซึ่งทำให้พวกเขาตกต่ำจมอยู่อันดับ 15 ของตารางบอล พรีเมียร์ลีก

        แม้ว่าจะผ่านมา 12 ปีแล้วนับตั้งแต่การคว้าแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายของพวกเขา แต่ แมนยู ยังคงเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุค พรีเมียร์ลีก และเป็น 1 ใน 6 ทีมที่ไม่เคยตกชั้นเลยตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันขึ้นในปี 1992 และต้องย้อนไปถึง 50 ปี ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาร่วงลงจากลีกสูงสุดของอังกฤษ

        แต่ฤดูกาลนี้สถานการณ์ใน พรีเมียร์ลีก ดูเหมือนจะเลวร้ายยิ่งกว่าที่เคย เมื่อช่วงเดือนมกราคม อโมริม เป็นคนแรกที่เอ่ยปากยอมรับว่า แมนยู อาจต้องเหนื่อยลุ้นหนีตกชั้น หลังจากพ่ายแพ้ติดต่อกัน 3 นัดให้กับ บอร์นมัธ, วูล์ฟส์ และ นิวคาสเซิ่ล ในช่วงคริสต์มาส

        หลังจากนั้นทีมของ อโมริม ตอบโต้ด้วยการบุกไปเสมอ ลิเวอร์พูล จากนั้นก็กลับมาเปิดบ้านชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่นัดต่อมาดันถูก ไบรท์ตัน เล่นงานถึงถิ่น ก่อนจะบุกไปชนะ ฟูแล่ม แต่ดีใจได้ไม่นานก็วนลูปพ่ายคาบ้านให้กับ คริสตัล พาเลซ ก่อนจะบุกไปแพ้ สเปอร์ส ในเกมล่าสุด

        

        แมนยู แพ้ไปแล้ว 12 จาก 25 นัดในฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นการพ่ายแพ้มากที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1973-74 และซีซั่นนั้นจบลงด้วยการตกชั้น นี่คือสัญญาณเตือนภัยที่บ่งบอกได้ว่าการหนีตกชั้นอาจกลายเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับ ปีศาจแดง แล้วจริง ๆ

        อย่างไรก็ตาม แมนยู ยังพอโล่งใจได้บ้างเมื่อพวกเขามีอยู่ 29 แต้มห่างจากโซนตกชั้น 12 แต้ม ขณะที่อันดับ 18-19 อย่าง อิปสวิช กับ เลสเตอร์ มี 17 แต้ม และทีมบ๊วย เซาธ์แฮมป์ตัน มีเพียง 9 แต้ม ส่วนอีก 2 ทีมที่ แมนยู ไม่ควรมองข้ามคือ เวสต์แฮม อันดับ 16 มี 27 และ วูล์ฟส์ อันดับ 17 มี 19 แต้ม

        นับตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก เปลี่ยนมาแข่งขันแบบ 38 เกมในปี 1995 ทีมที่ต้องการอยู่รอดจำเป็นต้องทำคะแนนเฉลี่ย 35.6 แต้ม ซึ่ง ฟอเรสต์ รอดพ้นการตกชั้นมาได้ในฤดูกาลที่แล้วด้วยคะแนน 32 แต้ม

        มองกลับมาที่ แมนยู เพื่อความอุ่นใจพวกเขาต้องชนะให้ได้สัก 2 นัดเป็นอย่างน้อย ทว่าเมื่อดูจากสิ่งที่เกิดในฤดูกาลนี้การเก็บชัยชนะในแต่ละนัดดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากเย็นสำหรับพวกเขาไปแล้ว

        ซึ่ง 2 เกมต่อจากนี้ถือว่าไม่ใช่งานง่ายสำหรับ แมนยู แน่นอน โดยนัดต่อไปพวกเขาต้องบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่ทำผลงานชนะ 4 จาก 6 นัดจนแซง แมนยู ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 14 จากนั้นจะกลับมาเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับมือ อิปสวิช ที่กำลังพยายามดิ้นรนอยู่รอดบนลีกสูงสุดต่อไป

        แม้ว่านี่จะเป็นช่วงที่หนักหน่วงสุด ๆ สำหรับ แมนยู แต่หากมองในแง่ดีชะตากรรมยังคงอยู่ในมือของพวกเขา การเก็บชัยชนะให้ได้อีก 2-3 นัดอาจช่วยคลายความกังวล และช่วยให้สถานการณ์ในลีกดีขึ้นมาบ้าง แล้วหันไปทุ่มสุดตัวกับบอลถ้วยที่ยังมีความหวังหลังผ่านเข้ารอบทั้งใน เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

ข้อมูลจาก metro.co.uk/sport/football

ภาพจาก AFP