ศึกแดงเดือดบนแผ่นดินไทย อีกหนึ่งประสบการณ์ของสาวก แมนยู ลิเวอร์พูล

        ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ ศึกแดงเดือด THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 เกมการแข่งขันระหว่าง แมนยู กับ ลิเวอร์พูล สองยอดทีมจาก พรีเมียร์ลีก ที่ต่างก็เป็นหนึ่งในทีมที่มีแฟนบอลมากที่สุดทั่วโลกและแน่นอนว่าเป็นสองทีมขวัญใจของแฟนบอลชาวไทย ซึ่งนี่คงนับเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งสำหรับวงการฟุตบอลในบ้านเรา 

        การพบกันระหว่าง แมนยู กับ ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหรือเมื่อไหร่ก็นับว่าเป็นเกมที่มีความพิเศษในตัวเองอยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็มีไม่บ่อยนักที่คู่นี้จะลงเตะกันนอกเกาะอังกฤษ และแน่นอนว่านี่คือครั้งแรกของเกมแดงเดือดบนแผ่นดินไทย

        แน่นอนว่าก่อนจะถึงวันลงสนาม เกมนัดนี้มีเรื่องราวต่าง ๆ เป็นกระแสให้พูดถึงมากมายไล่ย้อนไปได้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่มีข่าวว่าจะมีจัดศึกครั้งนี้ขึ้น มาจนถึงเรื่องของการได้ซูเปอร์สตาร์ป็อปไอดอลอย่าง แจ็คสัน หวัง แห่งวง GOT7 มาร่วมแสดงในงาน หรือเรื่องของราคาและระบบจำหน่ายบัตรเข้าชม แต่ในแง่ของเกมการแข่งขันแล้ว นี่คือแมตช์ที่แฟนบอลและสื่อมวลชนทั่วโลกต่างก็เฝ้ารอและติดตาม

        สำหรับ แมนยู เกมนี้จะเป็นการทำหน้าที่คุมทีมลงสนามนัดแรกของกุนซือคนใหม่ เอริค เทน ฮาก ซึ่งแม้จะน่าเสียดายอยู่บ้างที่ ดาวเตะคนสำคัญที่สุดอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ได้ร่วมเดินทางมาด้วย แต่แฟน ปิศาจแดง ทั่วทั้งโลกย่อมรอคอยที่จะได้เห็นว่า ปิศาจแดง โฉมใหม่จะมีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากแค่ไหน

        ส่วน ลิเวอร์พูล หลังจากผลงานอันสุดยอดในฤดูกาลก่อนที่ทีมมีลุ้นถึง 4 รายการ มาถึงปีนี้แฟน หงส์แดง คงอยากให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมไปให้ได้ไกลกว่าเดิมอีก รวมถึงนี่จะเป็นเกมแรกของกองหน้าตัวใหม่อย่าง ดาร์วิน นูนเญซ ด้วย

        มาถึงเกมทีเกิดขึ้นในสนาม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเนื่องจากเป็นเกมอุ่นเครื่องในช่วงเริ่มต้นพรีซีซั่น ทั้ง แมนยู กับ ลิเวอร์พูล ย่อมมุ่งที่จะเตรียมความพร้อมของทีมก่อนถึงการแข่งขันจริงโดยที่มีการวางแผนในเกมต่างกันไป ฝั่ง ปิศาจแดง เริ่มต้นด้วยการใช้ผู้เล่น 11 คนแรกที่แทบจะเป็นตัวหลักทั้งหมด ไล่ตั้งแต่นายทวาร ดาบิด เด เคอา แดนหลังนำโดย ราฟาเอล วาราน, กองกลาง บรูโน่ แฟร์นานเดซ ทำเกม และ เจดอน ซานโช่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในแนวรุก 

        ขณะที่ทีมชุดแรกของ หงส์แดง เกินครึ่งเป็นดาวรุ่งและตัวสำรอง มีแค่ อลิสซอน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และ หลุยส์ ดิอาซ ที่เป็นตัวหลัก

        นอกจากนี้ คล็อปป์ ยังมีการเปลี่ยนตัวแบบยกทีมเมื่อเกมเล่นไปได้ครึ่งชั่วโมงด้วย นั่นทำให้สกอร์ในครึ่งแรกที่ แมนยู นำห่างถึง 3-0 อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ทั้งที่ความจริงแล้ว รูปเกมและการเล่นของ ลิเวอร์พูล ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว แต่เรื่องของประสบการณ์กับความผิดพลาดในจังหวะสำคัญของผู้เล่นดาวรุ่งย่อมทำให้เกิดความแตกต่าง

        เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนยู ก็มีการเปลี่ยนตัวแบบยกทีมเช่นกัน ขณะที่ ลิเวอร์พูล นั้นเลือกที่จะส่งขุนพลชุดตัวจริงลงที่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, เทรนท์-อาร์โนลด์ และ ติอาโก้ ลงมาในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย

        อย่างไรก็ตาม แข้งชุดใหญ่ของ หงส์แดง ก็มีเวลาไม่พอที่จะทำประตูไล่ตีไข่แตกได้ จบเกมแดงเดือดในไทยครั้งนี้ ผลบอลจึงถูกบันทึกไว้ว่า แมนยู เป็นฝ่ายเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปขาดลอย 4-0

        คงจะบอกได้ว่าสกอร์ที่เกิดขึ้นอาจจะเหนือความคาดหมาย แต่ไม่ว่าจะอย่างไรนี่คงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นก้าวแรกสู่ซีซั่นใหม่ที่แฟนบอลทั้งฝั่งแฟนผีและแฟนหงส์ คงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าเมื่อถึงโปรแกรมบอลแข่งขันจริงใน พรีเมียร์ลีก จะเกิดอะไรขึ้นบ้างและในอีกราว 10 เดือนข้างหน้า ฤดูกาล 2022-23 ของทั้ง แมนยู กับ ลิเวอร์พูล จะจบลงอย่างไร 

        และเหนืออื่นใดก็คือ หลังจากความประทับใจในครั้งนี้ เหล่า เดอะค็อป และ เร้ดอาร์มี่ ชาวไทยก็คงเฝ้ารออยากให้ศึกแดงเดือดมาเกิดขึ้นในบ้านเราอีกครั้งในคราวหน้า

ภาพ AFP