
โฟลเรียน เวียตซ์ เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2003 ที่เมืองพูลไฮม์ รัฐนอร์ทไรน์ เวสต์ฟาเลีย ประเทศเยอรมนี เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในวงการฟุตบอลเยอรมัน โดย เวียตซ์ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับทีมเยาวชนของ โคโลญจน์ ในปี 2010 และอยู่ที่นั่นจนกระทั่ง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คว้าตัวไปร่วมบ้านผลบอลในเดือนมกราคม 2020 ซึ่งการย้ายทีมครั้งนี้เป็นที่ถกเถียงกัน เนื่องจากว่า โคโลญจน์ รู้สึกว่า เลเวอร์คูเซ่น ละเมิดข้อตกลงสุภาพบุรุษระหว่างสองสโมสร
เส้นทางอาชีพกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
หลังจากสร้างความประทับใจในการลุยผลบอลสดกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เวียตซ์ ก็ได้โอกาสประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของเลเวอร์คูเซ่นในตารางบอลบุนเดสลีกา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2020 ในเกมเยือนพบกับ แวร์เดอร์ เบรเมน ด้วยวัยเพียง 17 ปี 15 วัน เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของเลเวอร์คูเซ่นที่ลงเล่นในลีก แซงหน้าสถิติเดิมของ ไค ฮาแวตซ์
จากนั้นในวันที่ 6 มิถุนายน เวียตซ์ ทำประตูแรกให้กับเลเวอร์คูเซ่นได้ในนาทีที่ 89 ของเกมที่พ่าย บาเยิร์น มิวนิค 2-4 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่ทำประตูได้ ด้วยวัย 17 ปี 34 วัน แม้ว่าสถิตินี้จะถูกทำลายในเวลาต่อมาโดย ยูซูฟา มูโกโก้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นของเขา
แน่นอนว่า เวียตซ์ ยังคงสร้างสรรค์ผลบอลได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่อง โดยเขาทำประตูแรกในการแข่งขันฟุตบอลยุโรปในเกมยูโรป้าลีกที่ชนะนีซ 6-2 ในเดือนตุลาคม 2020 และต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรไปจนถึงปี 2023 ในเดือนธันวาคมปี 2020 ต่อมาวันที่ 19 มกราคม 2021 เขายิงประตูชัยในเกมที่เลเวอร์คูเซ่นเปิดบ้านเอาชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-1
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2022 เวียตซ์ ต้องเจอกับปัญหาใหญ่ที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา หลังได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าซ้ายฉีกขาดในเกมที่แพ้ โคโลญจน์ ต้นสังกัดเดิมของเขาเอง ส่งผลให้เขาพลาดการลงสนามตลอดฤดูกาล 2021-22 ที่เหลือ โดยเขาใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายเกือบ 10 เดือน ก่อนจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในปี 2023
Willkommen, Florian 👊🇩🇪 pic.twitter.com/XCBfnffeuF
— Liverpool FC (@LFC) June 21, 2025
ฤดูกาลแห่งความสำเร็จ และการย้ายสู่ลิเวอร์พูล
ฤดูกาล 2023-24 เป็นฤดูกาลที่น่าจดจำสำหรับดาวเตะวัย 22 ปี เนื่องจากเขาทำประตู และแอสซิสต์ในเกมยูโรป้าลีกที่ชนะคาราบัก 5-1 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2023 และในวันที่ 14 เมษายน 2024 เวียตซ์ ก็สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำแฮตทริกแรกในอาชีพการค้าแข้งจนได้ ด้วยการช่วยให้ทีมเอาชนะแวร์เดอร์ เบรเมน 5-0 คว้าแชมป์บุนเดสลีกาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร นอกจากนี้เขายังพาทีมคว้าแชมป์เดเอฟเบ-โพคาล และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า ยูโรป้าลีกอีกด้วย ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมตลอดฤดูกาล เขาได้รับเลือกให้เป็น ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของบุนเดสลีกา
จากนั้นในฤดูกาล 2024-25 สตาร์ทีมชาติเยอรมนี เริ่มต้นด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ DFL ซูเปอร์คัพ ด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะสตุ๊ตการ์ท ซึ่งเขายังประเดิมสนามในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในเกมที่ชนะเฟเยนูร์ด 4-0 โดยยิงไป 2 ประตูในครึ่งแรก และได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมในการแข่งขัน จากนั้น โฟล ยังฟอร์มร้อนแรงไม่หยุด ด้วยการทำประตูอย่างต่อเนื่อง สุดท้าย เขายิงได้ 5 ประตู จาก 5 เกมแรกของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งผลงานนี้ทำให้เขากลายเป็น "ผู้เล่นชาวเยอรมันคนแรก" ที่ทำได้
จนในที่สุดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2025 โฟลเรียน เวียตซ์ ก็ได้ตกลงย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก ด้วยสัญญาซื้อขายระยะยาว โดยมีค่าตัวรายงานอยู่ที่ 100 ล้านปอนด์ พร้อมโบนัสเพิ่มเติมอีก 16 ล้านปอนด์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ย้ายทีมที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกา (ทำลายสถิติเดิมของ อุสมาน เดมเบเล่) และยังเป็นสถิติค่าตัวสูงสุดของสโมสรลิเวอร์พูลอีกด้วย
ทั้งนี้ โฟลเรียน เวียตซ์ คือการลงทุนครั้งสำคัญของ ลิเวอร์พูล และเป็นที่คาดหวังว่าเขาจะนำความสำเร็จมาสู่ทีมในอนาคตอันใกล้นี้ จากนี้เราต้องการตามติดดูว่าฟอร์มการเล่นของดาวรุ่งแห่งยุคผู้นี้ว่าจะช่วยให้ หงส์แดง ประสบความสำเร็จได้ขนาดไหน
ขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia.org
ภาพข่าว : AFP, x.com/LFC