ภาพ AFP
ผ่านพ้นช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่หลายสโมสรต่างก็กว้านซื้อเหล่าแข้งซูเปอร์สตาร์เข้าสู่ทีมตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมา เราไปดูกันว่า 10 นักเตะค่าตัวแพงระยับของแต่ละสโมสรในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้จะได้คะแนนกันเท่าไรหลังจากผ่านครึ่งทางของฤดูกาลมาแล้ว
อังเคล ดิ มาเรีย (59.7 ล้านปอนด์) : เกรด บี
ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติแพงที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ถึงแม้จะสร้างความวูบวาบในเกมรุกให้กับทีมได้อย่างน่ากลัว แต่ทว่ายังติดปัญหาอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายเรื้อรังมาตั้งแต่ปี 2013 จนทำให้หลายเกมหลัง ดิ มาเรีย ยังไม่ได้ลงสนาม และดูเหมือนเขายังจะต้องพิสูจน์ตัวเองอีกพอสมควรในการทำให้ทุกคนเห็นว่าเขามีดีพอกับค่าตัวที่สโมสรจ่ายไป
อเล็กซิส ซานเชซ (35 ล้านปอนด์) : เกรด เอ
ดาวเตะทีมชาติชิลี เลือกที่จะย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปร่วมทีม อาร์เซน่อล แทนที่จะย้ายไป ลิเวอร์พูล ที่ตามจีบอยู่นาน และดูเหมือนการตัดสินใจของเขาจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องเมื่อนาทีนี้เขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีม ด้วยผลงาน 12 ประตู 7 แอสซิสต์ จาก 20 เกม
เอเลียควิม ม็องกาล่า (32 ล้านปอนด์) : เกรด ดี
ดูเหมือนเม็ดเงินที่ แมนฯ ซิตี้ ต้องเสียไปเพื่อแลกกับ นักเตะชาวฝรั่งเศส มาสู่ทีมนั้นจะยังไม่เห็นผลเท่าที่ควร เพราะ ม็องกาล่า ดูจะยังปรับตัวกับการเล่นในเวทีที่แข็งแกร่งอย่าง พรีเมียร์ลีก ไม่ได้เลย และยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกมากโข
ดิเอโก้ คอสต้า (32 ล้านปอนด์) : เกรด เอ
โชเซ่ มูรินโญ่ รู้ดีว่าปัญหาของ เชลซี เมื่อฤดูกาลที่แล้วก็คือการจบสกอร์เขาจึงไม่รีรอที่จะดึงตัว ดาวยิงทีมชาติสเปน เข้ามาร่วมทีมในทันทีที่ตลาดนักเตะเปิด และ คอสต้า ก็ไม่ทำให้ "น้ามู" ผิดหวัง เมื่อจัดการซัด 15 ประตู ผงาดเป็นดาวซัลโวอยู่ในขณะนี้ พร้อมทั้งประกาศตัวเป็นดาวยิงแถวหน้าของ พรีเมียร์ลีก เป็นที่เรียบร้อย
เชส ฟาเบรกาส (30 ล้านปอนด์) : เกรด เอ
แทบจะไม่ต้องปรับตัวเลย เพราะเล่นอย่างไรก็ดูเนียนตาไปหมดสำหรับ เชส ฟาเบรกาส และเขาใช้เวลาเพียง 20 นาทีในการทำแอสซิสต์แรกกับให้กับต้นสังกัดใหม่ในเกมเปิดสนาม หลังจากนั้นเขาก็สร้างโอกาสทำให้ประตูงาม ๆ ให้เพื่อนร่วมทีมได้อยู่เสมอ โดยทำไปแล้ว 14 แอสซิสต์ และคงไม่หยุดอยู่แค่นี้
อันแดร์ เอร์เรร่า (29 ล้านปอนด์) : เกรด ซี-
เอร์เรร่า ดูมีฟอร์มการเล่นที่มีแววที่ดีเลยทีเดียว นักเตะชาวสแปนิชผู้นี้มีเซ้นส์บอลที่ดี แต่ทว่าผลงานยังดูไม่คงเส้นคงวาเท่าที่ควร เพราะถูกอาการบาดเจ็บตามเล่นงานตลอดครึ่งซีซั่น แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องมารอลุ้นกันว่าถ้า เอร์เรร่า สลัดอาการเจ็บได้เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นจอมทัพของทีมได้หรือไม่
โรเมลู ลูกากู (28 ล้านปอนด์) : เกรด ซี+
หลังจากที่ยืมตัว ลูกากู มาร่วมทีมในฤดูกาลที่แล้ว โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ตัดสินใจซื้อ ดาวยิงทีมชาติเบลเยียม ร่วมทีมแบบถาวรในฤดูกาลนี้ด้วยราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร แต่เมื่อผ่านครึ่งทางของฤดูกาลมาดูเหมือนเขาจะยังเล่นได้ไม่คุ้มกับเงินที่ เอฟเวอร์ตัน ต้องเสียไปให้กับ เชลซี โดยทำไปได้เพียง 6 ประตู ในลีก แต่ในปี 2015 เป็นโอกาสที่เขาจะเริ่มต้นโชว์ฟอร์มเสียที
ลุค ชอว์ (27 ล้านปอนด์) : เกรด ซี
แบ็คซ้ายดาวรุ่ง ค่าตัวแพงระยับยังทำผลงานได้อย่างไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าที่ควรเนื่องจากติดปัญหาอาการบาดเจ็บในช่วงต้นของฤดูกาล แต่เมื่อได้ลงสนามเรื่องของเกมบุกเขายังทำได้ดีอยู่เสมอ แต่เขายังไม่สามารถปิดจุดอ่อนของตัวเองในเกมรับได้ ในขณะที่ แอชลี่ย์ ยัง กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีในตำแหน่งของเขา นั่นอาจทำให้เขาต้องตกที่นั่งลำบาก
อดัม ลัลลาน่า (25 ล้านปอนด์) : เกรด บี+
ในเวลาที่ผลงานของทีม ลิเวอร์พูล กำลังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ดูเหมือน อดัม ลัลลาน่า นักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในซัมเมอร์ที่ผ่านมาของทัพ "หงส์แดง" จะเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทีมพอจะฝากผีฝากไข้ได้บ้างด้วยความสามารถเฉพาะตัวของเขา แต่ก็ต้องมาสะดุดกับอาการบาดเจ็บที่มาเยือนเป็นพัก ๆ
เดยัน ลอฟเรน (20 ล้านปอนด์) : เกรด อี
จากผู้เล่นที่เป็นหัวใจในแนวรับของทีม เซาแฮมป์ตัน เมื่อฤดูกาลที่แล้วกลับกลายมาเป็นบ่อของ ลิเวอร์พูล ที่ถูกคู่ต่อสู้เจาะไปทำประตูในหลายต่อหลายเกมในฤดูกาลนี้ แถมช่วงหลังยังเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ โคโล ตูเร่ และถ้าดูจากจำนวนเงินที่สโมสรต้องเสียไปถือว่าเป็นที่น่าผิดหวังมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก เดอะ มิเรอร์
