โค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แถลงข่าวหลังจบเกม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบรองชนะเลศ นัดที่ 2 ที่ ทีมชาติไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย 2-0 รวมสองนัดสกอร์ 3-2 ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ไปครอง เป็นแชมป์อาเซียนสมัยที่ 5
กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย เปิดใจพูดทุกประเด็น ไล่ตั้งแต่แผนการในการลงเล่นทัวร์นาเมนต์นี้ ตั้งแต่ก่อนเกมนัดแรก ความกดดันที่เกิดขึ้นตลอดช่วงการแข่งขัน จนมาถึงจุดหมายในการคว้าแชมป์สำเร็จจนได้
"เด็กๆทุกคนกดดันเพราะสองปีที่ผ่านมาเราเป็นแชมป์เก่า เราชวนอินโดนีเซียเข้ามารอบสองไม่คิดว่าจะเป็นกระดูกชิ้นโตที่เราต้องเจอ เขามีความแข็วแกร่งทุกด้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกมที่ผ่านมาเด็กๆค่อนข้างผิดหวัง กว่าจะทำให้จิตใจทุกคนกลับมาได้"
"วันนี้น้องๆทุกคนได้พิสูจน์ให้เห้นแล้วว่าทุกคนไม่ท้อไม่ถอดใจ โดยเฉพาะแฟนบอลที่เข้ามาวันนี้ผมเชื่อเลยว่ามีความกดดัน น้องๆหรือตัวผมเองก็กดดัน รวมถึงแฟนคลับผมพยายามเก็บตัวเงียบเพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่าเราสู้เพื่อแฟนบอลชาวไทยทุกคน"
โค้ชซิโก้ ยังบอกด้วยว่าหนึ่งในความตั้งใจตลอดมาก็คือจะพาลูกทีมคว้าแชมป์ให้ได้ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
"วันนี้ขอมอบถ้วยแชมป์นี้ให้กับแฟนบอลชาวไทยทุกคน วันนี้น้องๆทุกคนลงเล่น เพราะอยากมอบถ้วยนี้ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เราอยากนำถ้วยนี้ไปมอบที่หน้าพระบรมศพเพื่อให้พระองค์ท่านได้ทอดพระเนตร และเราต้องการเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งน้องๆทุกคนวันนี้รู้เลยว่าต้องการสิ่งนี้เท่านี้ อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในน้องๆชุดนี้ ยังไปได้อีก"
ส่วนการเตรียมตัวสำหรับเกมในวันนี้ ซิโก้ ชี้แจงว่าแผนทั้งหมดถูกวางมาตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ โดยระบุว่า "วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในแดนหน้าและปีโป้ยิงได้อยากให้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เราวางแผนไม่ใช่แค่เกมเดียว เราวางตั้งแต่เกมแรก เดือนนี้เราต้องเล่น 8 แมตช์รวมบอลโลกรอบคัดเลือก"
"เราพยายามโรเตชั่นเพื่อไม่ให้กรอบล้า นั่นคือสิ่งที่ได้เห็นตั้งแต่รอบแรก เราเล่นกับพม่ารอบรองทั้งสองเกมกับรอบชิงชนะเลิศ ทุกคนส่งข้อมูลให้ผมเป็นแสน จัดตัวผู้เล่นให้ผมเยอะมากเลย นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมทำงานยากมาก เพราะว่ามันไม่ถูกใจทุกคน"
นอกจากนี้ ซิโก้ ยังพูดถึง ปีโป้ สิโรจน์ ฉัตรทอง ผู้เหมายิงสองประตูในเกมนัดชิงชนะเลิศว่า "ผมก็พยายามบอกน้องๆทุกคนว่าใครทำงานก่อนทำงานหลัง เราต้องการให้โป้มาฉายแสงนัดชิง อยากให้ชัปปุยส์ได้มาเล่นแมตช์ชิงที่เขายิงได้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขาก็บอกผมตลอดว่ายังมั่นใจจะทำได้ในแมตช์ชิง"
"อย่างที่เห็นว่าโป้ เป็นเด็กคนเดียวที่ไม่เคยผ่านเยาวชนทีมชาติมา กระโดดจากดิวิชั่น 1 มาทีมชาติชุดใหญ่เลย ก้าวข้ามขั้นตอนมาก เราก็กลัวว่าโป้จะหลงระเริง เราก็เลยให้เขาลง 15 นาทีบ้าง 20 นาทีบ้าง ครึ่งแรกบ้างครึ่งหลังบ้าง" โค้ชซิโก้ กล่าว
ข้อมูลจาก fathailand.org
ภาพ AFP