พรีเมียร์ลีก : แมนยู - ลิเวอร์พูล
สนาม : Old Trafford
ผลบอลสด Live Score ผลบอล

J. Sancho 16'
มาร์คัส แรชฟอร์ด 53'
ราฟาเอล วาราน 27'
ดีโอโก้ ดาล็อต 45'
บรูโน่ เฟอร์นานเดซ 74'
2-1
(0.75)

โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ 81'
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 24'
ข้อมูลน่าสนใจ
สถิติ-รายชื่อผู้เล่น
รูปภาพ แมนยู - ลิเวอร์พูล



ข้อมูลบ้านผลบอล แมนยู - ลิเวอร์พูล
บอลวันนี้ แมนยู - ลิเวอร์พูล
โปรแกรมบอลเกมอภิมหาบิ๊ตแมตช์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ศึกแดงเดือด ได้ฤกษ์เปิดสังเวียนกันอีกครั้งในค่ำคืนนี้ แมนยู จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ลงสนามเวลา 02.00 น.
เกมแดงเดือดหนนี้ถือว่ามาค่อนข้างเร็วในแมตช์ที่ 3 ของฤดูกาลเท่านั้น และต้องบอกว่าหลังผ่านผลงาน 2 เกมแรกผ่านไปทั้ง แมนยู และ ลิเวอร์พูล ต่างก็ทำผลงานได้ไม่ดีเอาซะเลย ซึ่งนั่นทำให้เกมนี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทั้งสองฝ่าย เพราะหากทีมไหนแพ้ขึ้นมาสถานการณ์ก็จะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก
สำหรับ แมนยู นั้นถือได้ว่าหนักหนาสาหัสกว่าเพราะ 2 เกมที่ผ่านมาดันแพ้รวด ยังไม่มีแม้แต่แต้มเดียว ฟอร์มการเล่นในสนามย่ำแย่แถมยังมีเรื่องดราม่านอกสนามไม่หยุดหย่อนอีกด้วย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ถึงตอนนี้ก็เพิ่งเก็บได้แค่ 2 คะแนนเรียกว่าผิดฟอร์มไปเยอะทีเดียว
มาดูเรื่องของสภาพทีมล่าสุด ซึ่งจุดนี้ แมนยู ดูเหมือนจะดูดีกว่าเพราะมีตัวหลักที่เจ็บอยู่แค่ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ เท่านั้น ส่วน อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล อาจจะหายทันได้มีส่วนร่วมกับเกมนัดนี้ ซึ่งคาดว่า เอริค เทน ฮาก จะปรับแนวรับให้ ราฟาเอล วาราน กลับมายืนคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย จะได้โอกาสเป็นตัวจริงแทน ลุค ชอว์ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย แดนกลางจะลองใช้ 3 ประสาน บรูโน่ แฟร์นานเดส, คริสเตียน อีริคเซ่น และ เฟร็ด อีกครั้ง และแนวรุกยังคงต้องใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ เจดอน ซานโช่ เหมือนเหมือน
ด้าน ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ มีงานหนักจริง ทีมยังฟอร์มไม่เข้าฝักแถมยังมีตัวเจ็บอีกเพียบ ไล่ตั้งแต่สองปราการหลัง อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ โจเอล มาติป นอกนั้นทั้ง ดีโอโก้ โจต้า, ติอาโก้ อัลกานตาร่า, อเล็กซ์ อ็อกเลด แชมเบอร์เลน รวมถึงดาวรุ่งอย่าง เคอร์ติส โจนส์ ก็หมดสิทธิ์เล่นในเกมนี้ จะมีก็ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ที่น่าจะหายกลับมาเล่นได้ และคาดว่า ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต กับ โจ โกเมซ คงได้โอกาสเป็นตัวจริง
ผลบอลที่เจอกันล่าสุดในเกมอุ่นเครื่องที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนเศษที่ผ่านมา แมนยู เป็นฝ่ายทำเซอร์ไพรส์ถล่ม ลิเวอร์พูล ไปถึง 4-0 แต่ถ้าย้อนไปในเกมแข่งขันจริงที่เจอกันเมื่อซีซั่นก่อนฝั่ง หงส์แดง ก็ทำได้เหนือกว่าเยอะ
อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกไว้ว่านัดนี้ แมนยู น่าจะหลังพิงฝายอมแพ้อีกไม่ได้แล้ว และถึงแม้โดยรวมจะยังถือว่าเป็นรอง แต่ก็ไม่น่าจะยอมแพ้คาบ้านต่อ ลิเวอร์พูล อีก
เกมแดงเดือดหนนี้ถือว่ามาค่อนข้างเร็วในแมตช์ที่ 3 ของฤดูกาลเท่านั้น และต้องบอกว่าหลังผ่านผลงาน 2 เกมแรกผ่านไปทั้ง แมนยู และ ลิเวอร์พูล ต่างก็ทำผลงานได้ไม่ดีเอาซะเลย ซึ่งนั่นทำให้เกมนี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทั้งสองฝ่าย เพราะหากทีมไหนแพ้ขึ้นมาสถานการณ์ก็จะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก
สำหรับ แมนยู นั้นถือได้ว่าหนักหนาสาหัสกว่าเพราะ 2 เกมที่ผ่านมาดันแพ้รวด ยังไม่มีแม้แต่แต้มเดียว ฟอร์มการเล่นในสนามย่ำแย่แถมยังมีเรื่องดราม่านอกสนามไม่หยุดหย่อนอีกด้วย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ถึงตอนนี้ก็เพิ่งเก็บได้แค่ 2 คะแนนเรียกว่าผิดฟอร์มไปเยอะทีเดียว
มาดูเรื่องของสภาพทีมล่าสุด ซึ่งจุดนี้ แมนยู ดูเหมือนจะดูดีกว่าเพราะมีตัวหลักที่เจ็บอยู่แค่ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ เท่านั้น ส่วน อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล อาจจะหายทันได้มีส่วนร่วมกับเกมนัดนี้ ซึ่งคาดว่า เอริค เทน ฮาก จะปรับแนวรับให้ ราฟาเอล วาราน กลับมายืนคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย จะได้โอกาสเป็นตัวจริงแทน ลุค ชอว์ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย แดนกลางจะลองใช้ 3 ประสาน บรูโน่ แฟร์นานเดส, คริสเตียน อีริคเซ่น และ เฟร็ด อีกครั้ง และแนวรุกยังคงต้องใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ เจดอน ซานโช่ เหมือนเหมือน
ด้าน ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ มีงานหนักจริง ทีมยังฟอร์มไม่เข้าฝักแถมยังมีตัวเจ็บอีกเพียบ ไล่ตั้งแต่สองปราการหลัง อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ โจเอล มาติป นอกนั้นทั้ง ดีโอโก้ โจต้า, ติอาโก้ อัลกานตาร่า, อเล็กซ์ อ็อกเลด แชมเบอร์เลน รวมถึงดาวรุ่งอย่าง เคอร์ติส โจนส์ ก็หมดสิทธิ์เล่นในเกมนี้ จะมีก็ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ที่น่าจะหายกลับมาเล่นได้ และคาดว่า ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต กับ โจ โกเมซ คงได้โอกาสเป็นตัวจริง
ผลบอลที่เจอกันล่าสุดในเกมอุ่นเครื่องที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนเศษที่ผ่านมา แมนยู เป็นฝ่ายทำเซอร์ไพรส์ถล่ม ลิเวอร์พูล ไปถึง 4-0 แต่ถ้าย้อนไปในเกมแข่งขันจริงที่เจอกันเมื่อซีซั่นก่อนฝั่ง หงส์แดง ก็ทำได้เหนือกว่าเยอะ
อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกไว้ว่านัดนี้ แมนยู น่าจะหลังพิงฝายอมแพ้อีกไม่ได้แล้ว และถึงแม้โดยรวมจะยังถือว่าเป็นรอง แต่ก็ไม่น่าจะยอมแพ้คาบ้านต่อ ลิเวอร์พูล อีก
ฟันธง : แมนยูสู้ตาย