Thailand Web Stat

ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : เรอัล มาดริด - แอต มาดริด

สนาม : A. Le Coq Arena

ผลบอลสด Live Score ผลบอล

คาริม เบนเซม่า 27'

เซร์คิโอ รามอส 63' (PEN)

มาร์โก้ อาเซนซิโอ้ 35'

มาร์เซโล่ 54'

Dani Ceballos 90 +1'

ลูก้า โมดริช 101'

เซร์คิโอ รามอส 112'

2-4 จบ 90 นาที 2-2

ดีเอโก้ คอสต้า 1'

ดีเอโก้ คอสต้า 79'

ซาอูล นิเกซ 98'

โกเก้ 104'

Á. Correa 60'

ดีเอโก้ คอสต้า 62'

Vitolo 105 +3'

รูปภาพ เรอัล มาดริด - แอต มาดริด

ข้อมูลบ้านผลบอล เรอัล มาดริด - แอต มาดริด


ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : เรอัล มาดริด 2-4 แอตเลติโก มาดริด

แอตเลติโก มาดริด งัดทีเด็ดในช่วงต่อเวลาพิเศษเอาชนะ เรอัล มาดริด 4-2 ผงาดแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2018 ไปครองได้สำเร็จ

โดยเกมนี้ แอต.มาดริด ออกนำเร็วตั้งแต่ 49 วินาทีจากลูกยิงของ ดีเอโก้ คอสต้า แต่ทาง เรอัล มาดริด ก็มาตามตีเสมอ 1-1 น.27 จากลูกโขกของ คาริม เบนเซม่า

ในครึ่งหลัง ราชันชุดขาว แซงขึ้นนำ 2-1 น.63 จากการสังหารจุดโทษของ เซริคิโอ รามอส แต่สุดท้าย ตราหมี ก็มาตามต่เสมอ 2-2 น.79 จาก คอสต้า ที่ทำประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 120 นาที

และเป็นทาง แอต.มาดริด ที่งัดทีเด็ดรัวเพิ่มสองประตูจาก ซาอูล ญีเกซ น.99 และ โกเก้ น.104 ช่วยให้ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ แซงชนะ เรอัล มาดริด ไปแบบสุดมัน 4-2 คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ สมัยที่ 3


พรีวิว !! ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2018 : เรอัล มาดริด v แอตเลติโก มาดริด

การโคจรมาพบกันระหว่างแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่าง เรอัล มาดริด กับ แอต.มาดริด เจ้าของแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เมื่อฤดูกาล 2017-18

เรอัล มาดริด ในยุคที่ไม่มีซูเปอร์สตาร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และกุนซือ ฆูเลน โลเปเตกี ได้เข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่แทนที่ ซีเนอดีน ซีดาน ซึ่งกุนซือชาวสเปน เสริมทัพผู้เล่นอย่าง อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า กองหลังทีมชาติสเปน, วินิซิอุส กองหน้าดาวรุ่งบราซิลเลี่ยน และ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมชาติเบลเยี่ยม

"ราชันชุดขาว" สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ "บิ๊กเอียร์" 3 สมัยซ้อน และทาง โลเปเตกี ก็ตระหนักถึงความคาดหวังของแฟนบอล "ไม่มีแรงกดดันมากนักสำหรับการพบกับ แอต.มาดริด มันคือนัดชิงชนะเลิศ และถ้วยรางวัล ซึ่งหมายความว่าเราจะให้ทุกอย่าง เราจะคว้าชนะให้ได้ในทุกรายการ"

"สโมสรมอบสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้กับเรา เราสามารถสร้างผลงานที่สุดยอดได้ ดังนั้นเราจึงเป็นทีมที่พิเศษเพราะเหตุนี้ เราจะพยายามเป็นทีมที่ดี ใช้ประโยชน์สูงสุดจากสิ่งที่เรามีร่วมกัน เราจะมีสไตล์ที่ชัดเจน ซึ่งส่งผลให้เราเป็นทีมที่มีส่วนร่วมกับการแข่งขันนี้มากที่สุด"

ความสำเร็จในเวทียุโรปของ เรอัล มาดริด ในช่วงหลายปีผ่านมา พวกเขาผ่านด่านทีมยักษ์ใหญ่มาแล้วหลายต่อหลายทีม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ แอต.มาดริด ทีมของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เป็นพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งร่วมเมืองในเกมนัดชิง "ยูซีแอล" เมื่อปี 2014 และ 2016 รวมไปถึงในรอบรองชนะเลิศเมื่อปี 2017

แต่ทัพ "ตราหมี" ก็สามารถคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก ได้สำเร็จในซีซั่นก่อน แถมในช่วงซัมเมอร์ก็เสริมทัพได้อย่างคึกคักด้วยการคว้าสตาร์อย่าง โทมัส เลอมาร์, เกลสัน มาร์ตินส์, โรดริโก้ เอร์นานเดซ, นิโกล่า คาลินิช และซานติอาโก้ อริอาส

ซิเมโอเน่ กล่าวว่า "เรามีกลุ่มผู้เล่นที่สดใหม่ และต้องใช้เวลาปรับตัว นอกจากนี้เรายังเห็นแววผู้นำบางคนจากห้องแต่งตัวในการช่วยผลักดันคนอื่น ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรเราก็คือทีมที่ยิ่งใหญ่ และเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม มันเป็นจุดแข็งที่ทำให้ทีมแข็งแกร่ง ซึ่งเราจะแสดงให้เห็นในเกมนัดนี้"

บอลวันนี้ เรอัล มาดริด - แอต มาดริด

เรอัล มาดริด นายด่านชาวคอสตาริกา เกย์ลอร์ นาวาส, เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ เซร์คิโอ รามอส กับ ราฟาแอล วาราน, แบ็คซ้าย มาร์เซโล่ วิเอยร่า, แบ็คขวา การ์ลอส การ์บาฆัล, กองกลาง เอ็นริเก้ กาเซมิโร่, โทนี่ โครส, อิสโก้, แกเร็ธ เบล, มาร์โก อเซนซิโอ, ศูนย์หน้า คาริม เบนเซม่า 

แอตเลติโก้ มาดริด นายด่านชาวสโลวีเนีย ยาน โอบลัค, คู่ปราการหลัง ดีเอโก้ โกดิน กับ โฮเซ่ คิเมเนซ, แบ็คซ้าย ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ, แบ็คขวา ฆวนฟราน ตอร์เรส, แดนกลาง โกเก้, โธมัส ปาร์เตย์, ซาอูล ญีเกซ, โตมาส์ เลอมาร์, อ็องตวน กรีซมันน์ ยืนเป็นหน้าต่ำหลัง ดีเอโก้ คอสต้า 

ที่สนาม อา เลอ ค็อก อารีน่า เมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย เรอัล มาดริด แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ จบอันดับ 3 ลาลีกา 5 นัดหลัง ชนะ 4 แพ้ 1 ล่าสุดเตะอุ่นเครื่องในเบอร์นาเบว ชนะ มิลาน ฟาก แอตเลติโก้ มาดริด แขมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และจบด้วยการเป็นรองแชมป์ลาลีกา 5 นัดหลัง ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 ล่าสุดเล่นปิดท้าย ไอซีซี ใน ว่านต๋า พ่าย อินเตอร์ 

แน่นอนว่านี่คือครั้งแรกของ มาดริด ดาร์บี้แมตช์ ในรายการ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ราชันชุดขาว 3 นัดล่าสุดของการอุ่นเครื่องชนะรวด ทาง ทีมตราหมี พลาดจากการอุ่นเครื่องนัดล่าสุด และมีอาการล้าอยู่บ้าง นัดนี้ถือเป็นการดวลกันครั้งแรกของ โลเปเตกี กับ ซิเมโอเน่ ทั้งสองทีมพบกัน 5 ครั้งล่าสุดนั้น สูสีทีเดียว เพราะชนะทีมละหนึ่งครั้ง นอกนั้นเสมอ 3 ครั้ง ประเมินแล้ว ราชันชุดขาว พร้อมกว่า ได้พักมามากกว่า น่าจะมีทีเด็ดกำราบ ตราหมี หวังชูถ้วยแชมป์นี้ได้
ฟันธง : ชุดขาว จัดไปยาว ๆ