ว่าด้วยเรื่องสถิติ
- เยอรมนี คือแชมป์โลกทีมที่ 4 ที่กลับมาป้องกันแชมป์แล้วร่วงตกรอบแบ่งกลุ่ม ในฟุตบอลโลก 5 ครั้งหลังสุด (ฝรั่งเศสปี 2002, อิตาลีปี 2010, สเปนปี 2014 ตกรอบแรก มีแค่ บราซิลแชมป์โลก 2002 ที่ได้เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายใน ฟุตบอลโลก 2006)
- นี่คือครั้งที่สองที่ เยอรมนีตกรอบแรกฟุตบอลโลก โดยก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในปี 1938 ซึ่งตอนนั้นการแข่งขันรอบแรกยังไม่ได้เล่นแบบแบ่งกลุ่ม
- เกาหลีใต้ ตกรอบแรกเป็นครั้งทีสองติดต่อกัน หลังจากเคยผ่านเข้ารอบสองได้ในปี 2010 และ เข้าถึงรอบรองชนะเลิศในปี 2002 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพร่วม
- สรุปแล้ว เยอรมนี ยิงประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้แค่ 2 ลูก แต่นี่ยังไม่ได้ผลงานแย่ที่สุดสำหรับทีมที่เป็นแชมป์เก่า เพราะฝรั่งเศสเคยยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียวในปี 2002
- นี่คือชัยชนะของเกาหลีใต้เหนือเยอรมนีในฟุตบอลโลกครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้เจอกันมา 2 ครั้งแพ้หมด
- นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2010 เป็นต้นมา โธมัส มุลเลอร์ ไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 2 นัด และทีมชาติเยอรมนีก็แพ้ทั้งสองนัด (ก่อนหน้านี้คือ ฟุตบอลโลก 2010 รอบรองชนะเลิศ แพ้ สเปน 0-1) ขณะที่หากมี มุลเลอร์ ลงเป็นตัวจริง ทีมชาติเยอรมนีเอาชนะคู่แข่งได้ถึง 80%
ฟุตบอลโลก 2018 : เกาหลีใต้ 2-0 เยอรมนี
แชมป์เก่า เยอรมนี ร่วงตกรอบไปแบบสุดช็อก หลังโดนทีเด็ด เกาหลีใต้ รัวสองประตูในช่วงทดเวลาบาเจ็บ ทำให้ อินทรีกเหล็ก พ่ายไป 0-2
ซึ่งเกมนี้แม้ว่า เยอรมนี จะครองเกมพยายามบุกใส่เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของ เกาหลีใต้ ได้เลย และเป็น เกาหลีใต้ ที่สร้างเซอร์ไพรส์มายิง 2 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บก่อนหมดเวลา โดยได้ประตูขึ้นนำ 1-0 น.90+4 จากจังหวะขลุกขลิกบอลหลุดไปเข้าทาง คิม ยอง-กวอน ซัดเข้าไปเต็ม ๆ ซึ่งตอนแรกไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้า แต่หลังจากตัดสินด้วย VAR กรรมจึงให้เป็นประตูของ เกาหลีใต้
ส่วนประตูปิดกล่องของ "โสมขาว" 2-0 น.90+6 มาจากจังหวะดันเกมขึ้นไปลุ้นประตูของผู้เล่น เยอรมนี ทั้ง 11 คน แต่ทาง อานูเอล นอยเออร์ พลาดเสียบอล จู เซ-จอง โยนยาวจากแดนตัวเองไปให้ ซอน เฮือง-มิน สปีดขึ้นไปยิงด้วยซ้ายโล่ง ๆ
ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ เยอรมนี เจ้าของแชมป์โลกเมื่อปี 2014 ต้องร่วงตกรอบไปแบบเจ็บปวด ด้วยการจบในอันดับสุดท้ายของ กลุ่ม เอฟ มีเพียง 3 คะแนนจาก 3 นัด
หนทางเดียวของ เยอรมนี คือชัยชนะ
เยอรมนี - จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเก็บชัยชนะให้ได้ในเกมนี้ เพราะหากว่า เม็กซิโก ดันไปแพ้ให้ สวีเดน งานนี้มีน้ำตาไหลตกรอบแบบไม่ต้องสืบเลยทีเดียว โดยเกมนี้ เฌอโรม บัวเต็ง จะติดโทษแบนลงสนามไม่ได้ แต่ยังโชคดีที่ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ กลับมาเช็กความฟิตได้ทันเวลาพอดี ส่วนทาง เมซุต โอซิล น่าจะต้องนั่งดูเพื่อนเล่นที่ข้างสนามไปก่อน โดยให้ทาง มาร์โก รอยส์ ลงมาปั้นเกมแทน ส่วนหน้าเป้าอาจจะเป็น มาริโอ โกเมซ ที่จำเป็นต้องใช้ความเก๋าลงมาขู่สักหน่อย
เกาหลีใต้ - ยอดทีมแดนกิมจิพวกเขาอาจจะหมดหวังนั่งน้ำตารินไปแล้วตั้งแต่แพ้เกมที่แล้ว แต่ว่าด้วยเลือดนักสู้มันจำเป็นที่จะต้องพยายามทำให้ทีมอย่างเยอรมนีตกรอบตามไปด้วย แต่ที่โชคร้ายในเกมนี้คือ ปาร์ก จู-โฮ แบ็คขวาตัวเก่งนั้นหมดสิทธิ์ลงสนามไปแล้วอย่างชัวร์ ๆ โดย คิม วิน-มู จะได้ลงทำหน้าที่แทน
เกมนี้เยอรมนีมีทางเลือกเดียวคือจะต้องพยายามเอาชนะให้ได้เท่านั้น เพราะหากพวกเขา แพ้ หรือว่า เสมอ แล้ว สวีเดน ดันไปเอาชนะเม็กซิโกได้ขึ้นมาล่ะก็ ตกรอบสถานเดียว และนี่คือโอกาสเดียวแล้วของแชมป์เก่าจากปี 2014
เกาหลีใต้ อดใช้ พัค จู-โฮ ที่มีอาการบาดเจ็บ, ผู้รักษาประตู โช ฮยอน-วู, คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ จาง ฮยอน-ซู กับ คิม ยอง-กวอน, แบ็คซ้าย คิม มิน-วู, แบ็คขวา กิว - อี ยง, กองกลาง ชู เซ-จง, คี ซุง-ยอง, มุน ซอน-มิน, อี แจ-ซอง, ฮวาง ฮี-ชาน หรือ อี ซึง-วู, ศูนย์หน้า ซน ฮึง-มิน
เยอรมัน วืดใช้งาน เยโรม บัวเต็ง ที่ติดโทษแบน และ เซบาสเตียน รูดี้ บาดเจ็บ, จอมหนึบจากบาเยิร์นฯ มานูเอล นอยเออร์, ปราการหลังคู่ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ กับ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ หรือ นิคลาส ซือเล่, แบ็คซ้าย โยนาส เฮคเตอร์, แบ็คขวา โยชัว คิมมิช, กองกลาง ซามี่ เคดิร่า หรือ อิลคาย กุนโดกัน, โทนี่ โครส, โธมัส มุลเลอร์ หรือ มาร์โค รอยส์, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, หอกเดี่ยว ติโม แวร์เนอร์ หรือ มาริโอ โกเมซ
ที่สนาม คาซาน อารีน่า เมืองคาซาน เกาหลีใต้ อันดับ 57 ฟีฟ่า เวิลด์แรงกิ้ง 5 นัดหลัง เสมอ 1 แพ้ 4 ล่าสุดแพ้ให้ เม็กซิโก เปลี่ยนมาที่ เยอรมัน อันดับ 1 จากการจัดอันดับโลกโดยฟีฟ่า 5 นัดหลัง ชนะ 2 แพ้ 3 ล่าสุดเหลือ 10 คนในครึ่งหลังก็ชนะ สวีเดน กับเกมกลุ่ม เอฟ นัดสุดท้าย โสมขาว บ๊วยกลุ่มผู้ไร้แต้ม แพ้ 3 นัดติดต่อกัน และไม่ชนะใคร 5 นัดจากทุกรายการ ส่วน อินทรีย์เหล็ก อันดับ 3 ของกลุ่ม ชื่นมื่นจากการได้สามแต้มแรก ในนัดล่าสุด โดยทีมพลังโสม ก็ยังมีหวังเข้ารอบ แต่ต้องชนะเกมนี้ 2 ประตูขึ้นไป และลุ้นให้ สวีเดน แพ้ เม็กซิโก 2 ประตูขึ้นไปเช่นกัน ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ยาก แข้งดอยช์แมน ขอแค่ชนะและยิงให้เยอะเข้าไว้ เพื่อประตูได้-เสีย ที่ดีกว่า ก็ไม่ต้องสนใจผลของอีกคู่ ดูแล้ว แข้งดอยช์แมน ผู้ไม่เคยตกรอบแบ่งกลุ่ม จะทำได้ตามเป้าหมาย