โค้งสุดท้ายของศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อวันพุธที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นเกม นัดที่ 28ของฤดูกาล ซึ่งเตะรวดเดียว 8 คู่ 8 สนาม ปรากฏผลดังนี้
ที่สนามสถาบันการพลศึกษา จ.สมุทรสาคร จ่าฝูง กิเลนผยองเมืองทองฯยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร 2-0 จากการซัลโวฟรีคิกของ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว นาทีที่ 24 และจุดโทษของ แดกโน เซียกา นาทีที่ 65 ทำให้ เมืองทองฯบวกเพิ่มเป็น 59 แต้มนำเป็นจ่าฝูงต่อไป
ขณะ ที่สนามสิรินธร จ.ชลบุรี ทีม ฉลามชลชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูง สะดุดอย่างแรง เมื่อทำได้เพียงแค่เจ๊ากับ จุฬา ยูไนเต็ด ทีมรองบ๊วยผู้มาเยือน แบบสุดมัน 2-2 โดย ชลบุรี เจ้าถิ่นขึ้นนำไปก่อน 2 คร้ั้งครา จาก โคเน่ โมฮัมเหม็ด นาทีที่ 11 แและ อาทิตย์ สุนทรพิธ นาทีที่ 56 ส่วนเสือสามย่านตามตีเสมอทั้ง 2 หนเช่นกันจาก อารอน ดา ซิลวา นาทีที่ 21 กับ กิตติภูมิ ปาภูงา นาทีที่ 67 ซึ่งเกมในครึ่งหลัง จุฬาฯต้องเล่นเพียง 10 คนหลังจาก กิตติภูมิ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม สำหรับการเสมอของชลบุรีในครั้งนี้ ส่งผลให้แต้มของเมืองทองฯขยับหนีไปเป็น 3 คะแนน นัดต่อไปวันที่ 11 ต.ค. หากทีมกิเลนผยอง คว้าชัยเหนือ โอสถสภา ที่สนามธันเดอร์โดม ของตัวเองได้สำเร็จจะเข้าป้ายซิวแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกทันที ขณะที่ 1 แต้มของ จุฬาฯ ทำให้ทีมไม่แพ้ในลีกติดต่อกันมาแล้ว 8 นัด มีคะแนนบวกเพิ่มเป็น 25 แต้ม ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 14 ของตาราง และยังมีโอกาสลุ้นรอดตกชั้นในอีก 2 เกมที่เหลือ
ที่สนาม อบจ.สระบุรี สุวัฒน์ พุฒิสกุลวงศ์ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ จ.สระบุรี รายงานเกมบิ๊กแมตช์ ระหว่าง ทีมพลังเอ็ม โอสถสภา เอ็ม 150 - สระบุรี เปิดบ้านรับแข้ง กระต่ายแก้ว บางกอกกล๊าส เอฟซี ซึ่งผลปรากฏว่า โฮสถสภา เป็นฝ่ายเอาชนะ บางกอกกล๊าส ไปได้ 2-0 จากลูกยิงในครึ่งเวลาหลัง ของ โจ้ห้าหลา ศรายุทธ ชัยคำดี นาทีที่ 63 และ สุมัญญา ปุริสาย นาทีที่ 72
ส่วน ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ทีม ประดู่นิลมังกร ราชนาวี-ระยอง ที่กำลังดิ้นหนีตายอย่างสุดฤทธิ์เช่นกัน บุกมาคว้าชัยเหนือ แบงคอก ยูไนเต็ด อย่างเหลือเชื่อ 1-0 จากการซัลโวประตูชัยของ วุฒิชัย อสุชีวะ ในนาทีที่ 62 ทำให้ ราชนาวี มีเพิ่มเป็น 30 แต้ม ถีบตัวองขึ้นมาอยู่อันดับที่ 11 ของตารางทันที และขออีกเพียงแต้มเดียวเท่านั้นก็จะรอดตกชั้น 100 เปอร์เซนต์
ที่ สนามบีอีซีเทโรศาสน หนองจอก ทีมเจ้าบุญทุ่ม บีอีซีเทโรศาสน กลับมาคืนฟอร์มเหี้ยมอีกครั้ง ด้วยการปิดบ้านไล่ถล่ม ทีโอที เอฟซี ผู้มาเยือน ขาดลอย 4-0 จากการซัลโวแฮตทริก ยิงคนเดียว 3 ลูก ของ อานนท์ สังสระน้อย ทำให้เจ้าตัวทำสกอร์สะสมเพิ่มเป็น 18 ลูก จ่อซิวตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของไทยพรีเมียร์ลีกแบบไร้คู่แข่ง
สำหรับ ผลการฟาดแข้งอีก 3 คู่ที่เหลือในวันเดียวกัน มีดังนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เสมอ สมุทรสงคราม เอฟซี 2-2 พัทยา ยูไนเต็ด เสมอ การท่าเรือไทย เอฟซี 1-1 และ นครปฐม เอฟซี แพ้คาบ้านให้กับ ศรีราชา เอฟซี 1-3
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
