
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วีแกน 1 - 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ที่ ดีดับเบิลยู สเตเดี้ยม วีแกน ยังยึดมั่นในขุมกำลังชุดเดิมทุกตำแหน่งแม้จะแพ้ ฮัลล์ ซิตี้ มาในเกมที่แล้ว แต่พกสถิติที่ดีเยี่ยมไม่เคยเสียท่าคารังให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในลีกสูงสุดเลย สำหรับทีมตราเรือใบปราศจากกัปตันโคโล ตูเร่ที่เดี้ยงทำให้เชย์ กิฟเว่นได้สวมปลอกแขน อีกทั้งเคร็ก เบลลามี่ก็ไม่สมบูรณ์จึงเป็นโอกาสของไมกาห์ ริชาร์ดส์กับมาร์ติน เปตรอฟที่ได้เสียบแทน
เจ้าถิ่นอาศัยแรงเชียร์เดินเกมรุกเข้าหาก่อน และมีโอกาสแรกในนาทีที่ 10 จากจังหวะซัดลูกโค้งริมเขตโทษด้านขวาของชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย ทว่าบอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไป
รูปเกมของทั้งคู่ยังไม่ลงล็อกเท่าไหร่ กระทั่งนาทีที่ 23 คาร์ลอส เตเวซกองหน้าจอมขยันของทีมเยือนก็ขยับลงต่ำไปเปิดบอลยาวมาจากกลางสนามให้เอ็มมานูเอล อเดบายอร์อาศัยความคล่องตัวกระชากเข้าเขตโทษได้ แต่จังหวะสุดท้ายแต่งบอลไกลเท้ามากไปเลยหมดสิทธิ์ตะบันถูกคริส เคิร์กแลนด์ถลันออกมาปัดได้
จากนั้นอีกสามนาที เฮนดรี้ โธมัสก็ดับเครื่องชนไม่ปล่อยให้ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ควบบอลทะลุขึ้นกราบขวาจึงโดนจดชื่อเป็นประเดิม อย่างไรก็ดี นาทีที่ 32 ปาโบล ซาบาเลต้าปราการหลังแมนฯ ซิตี้ก็โดนไข้เหลืองเล่นงานเช่นกันโทษฐานเข้าอัดมายเนอร์ ฟิเกรัวเต็มรัก
ล่วงมาถึงนาทีที่ 38 เดอะ ลาติกส์เกือบเบิกสกอร์ได้จากจังหวะที่ฮูโก้ โรดาเยก้าสบโอกาสสับไกจากหน้าเขตโทษอย่างถนัดถนี่ แต่กิฟเว่นยังไม่ยอมพลาดทุบทิ้งได้ทัน นาทีต่อมา ฟิเกรัวทำทะเล่อทะล่าไปสอยไรท์-ฟิลิปส์ต่อหน้าต่อตาผู้ตัดสินจึงเป็นอีกรายที่ต้องสังเวยใบเหลือง
จวบจนนาทีที่ 45 วีแกนก็น่าจะคลำเป้าได้อีกครั้งจากเกมโต้เร็วที่พอล ชาร์เนอร์ตัดบอลได้จึงวางยาวจากแดนกลางให้เอ็นซ็อกเบียหลุดเข้าเขตโทษไปซัลโวตุงตาข่าย แต่ถูกสิงห์เชิ้ตดำเป่าว่าฟาวล์แกเร็ธ แบร์รี่ในจังหวะเบียดแย่งบอลกันก่อนแล้ว
อย่างไรก็ดี เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แฟนเจ้าบ้านก็ได้เฮกันลั่นเมื่อชาร์เนอร์โขกบอลโยนโด่งขึ้นกราบซ้ายให้เจสัน สกอตแลนด์สะกิดเข้าเขตโทษอีกที โดยมีโรดาเยก้าตามไปกดยัดไส้เข้าเสาแรก บีบให้กิฟเว่นต้องล้มตัวปัด จึงเป็นโอกาสทองของเอ็นซ็อกเบียที่เข้าซ้ำระยะห้าหลาพาเดอะ ลาติกส์นำก่อน 1-0 ในครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่สองนาที สาวกเดอะ ลาติกส์ก็ต้องเหี่ยวกันจนได้เมื่อทีมตราเรือใบจู่โจมแบบสายฟ้าแลบขึ้นมาทางขวาแล้วเตเวซจ่ายบอลมาให้ ไรท์-ฟิลลิปส์ จับไม่อยู่ แต่บอลปลิ้นมาเข้าทางเปตรอฟพอดี กองกลางบัลแกเรียจึงซัดด้วยซ้ายจาก 18 หลา เข้าเสาไกลเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1
เจ้าบ้านจำต้องเปิดเกมรุกกันใหม่ แต่เกือบเสียหายเพิ่มในนาทีที่ 53 จากเกมโต้ของทีมเยือนที่เตเวซทิ่มบอลยาวจากกลางสนามให้อเดบายอร์สปีดเข้าเขตโทษแล้วโดนไตตัส บรัมเบิ้ล ตามสไลด์ ไรท์-ฟิลลิปส์จึงได้เก็บตก แต่บอลกระทบหอกโตโกที่ล้มอยู่เปลี่ยนทิศออกเส้นหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ด้านวีแกนก็น่าจะได้ประตูเช่นกันในอีกสี่นาทีต่อมาเมื่อสกอตแลนด์ตบบอลคืนจากสุดเส้นหลังด้านซ้ายแล้วชาร์เนอร์กับโรดาเยก้าแย่งกันยิงทำให้บอลเฉี่ยวเสาแรกออกไป จากนั้นในนาทีที่ 57 เคิร์กแลนด์เกิดมีปัญหาที่นิ้วมือจึงต้องเดินออกมาให้แพทย์ตรวจเช็กก่อนจะกัดฟันกลับไปเฝ้าตาข่ายต่อได้ ขณะที่ ไมเคิ่ล พอลลิตต์ นายประตูมือสองต้องวอร์มอัพเตรียมความพร้อมเอาไว้
เกมดำเนินไปแบบใครดีใครอยู่ กระทั่งนาทีที่ 64 เรือใบสีฟ้าก็น่าจะแซงนำจากการสาดบอลยาวทางกราบซ้ายของเปตรอฟโดยแบร์รี่ได้โถมโขกเต็มๆ ที่เสาไกล แต่เคิร์กแลนด์ปัดทิ้งได้เยี่ยม
แต่แล้วอีกนาทีเดียว ซาบาเลต้าก็โชคร้ายพุ่งเข้าเสียบสกอตแลนด์ แม้จะโดนบอลแต่ผู้ตัดสินเห็นว่าเป็นการเข้าสกัดที่อันตรายจึงชักใบเหลืองให้อีกใบกลายเป็นใบแดงถึงตรงนี้ วีแกนจึงเดินเกมรุกได้อย่างเต็มที่ และในนาทีที่ 67 โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ ก็มีโอกาสเข่นจาก 20 หลา แต่บอลโด่งไปนิดเดียว
ด้วยจำนวนผู้เล่นที่น้อยกว่า แมนฯ ซิตี้ จึงปรับแผนส่ง แว็งซ็องต์ ก็องปานี ลงไปช่วยเกมรับพร้อมทั้งแทนอเดบายอร์ที่เริ่มกระเผลกพอดีในนาทีที่ 70 ขณะที่เจ้าบ้านเปลี่ยน จอร์ดี้ โกเมซ ลงไปแทนชาร์เนอร์
ล่วงมาอีกสามนาที โธมัสก็หลุดเข้าเขตโทษไปซัดบอลตุงตาข่าย แต่ไม่ได้สกอร์เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ช่วงที่เหลือ เดอะ ลาติกส์ทำอะไร แมนฯ ซิตี้ ไม่ถนัดแม้จะได้เปรียบในด้านกำลังพล จบเกมทั้งสองฝ่ายจึงแบ่งแต้มกันไปด้วยผลเสมอ 1-1
รายชื่อผู้เล่น
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์, มาริโอ เมลคิอ็อตต์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, มายนอร์ ฟิเกรัว, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย, เฮนดรี้ โธมัส, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, พอล ชาร์เนอร์, ฮูโก้ โรดาเยก้า, เจสัน สกอตแลนด์
สำรอง : ไมค์ พอลลิตต์, โช วอน-ฮี, ฆอร์ดี้ โกเมซ, เจสัน คูมาส, สกอตต์ ซินแคลร์, โอลิวิเย่ร์ กาโป, มาร์ลอน คิง
แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, ปาโบล ซาบาเลต้า, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, แกเร็ธ แบร์รี่, ไนเจล เด ยองก์, มาร์ติน เปตรอฟ, คาร์ลอส เตเวซ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
สำรอง : สจ๊วร์ต เทย์เลอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, ซิลวินโญ่, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, วลาดิเมียร์ ไวส์, โรเก้ ซานตา ครูซ
ผลบอล พรีเมียร์ลีก ทุกคู่ คลิกที่นี่
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com